xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” เบ่งกล้าม! สั่งอายัดบัญชีแกนนำ กปปส.เรียกสอบผู้ให้การสนับสนุน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ธาริต เพ็งดิษฐ์
อธิบดีดีเอสไอ รับลูกเดินเครื่องออกหมายเรียกแกนนำ กปปส.พร้อมสั่งอายัดบัญชี-ตรวจสอบย้อนหลังแกนนำรวม 18 คน แถมออกหมายเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมมาสอบสวนด้วย



วันนี้ (18 ธ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวหลังการประชุมพนักงานสอบสวนจากดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอัยการ เพื่อวางแนวทางในการสอบสวนคดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พร้อมพวกว่า การประชุมคณะพนักงานสอบสวนเป็นครั้งแรก เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น ซึ่งที่ประชุมได้มีมติดำเนินการเร่งด่วนทันที ดังนี้ 1.ออกหมายเรียกแกนนำผู้ชุมนุมอีก 17 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากที่พนักงานสอบสวนของ บช.น.ได้ดำเนินการขอศาลออกหมายจับไว้ แต่ศาลได้สั่งให้ดำเนินการออกหมายเรียกก่อน โดยจะส่งหมายเรียกให้มีผลตามกฎหมายทันทีในวันพรุ่งนี้ หากไม่มาตามนัดจะขออนุมัติศาลออกหมายจับทันที ส่วนการจับกุม นายสุเทพ ที่ถูกออกหมายจับในคดีกบฏ จะพิจารณาความเหมาะสมตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ตนไม่ห่วงเพราะคดีมีอายุความ 20 ปี

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า 2.ออกคำสั่งอายัดบัญชีของแกนนำผู้ชุมนุมรวม 18 คน เนื่องจากศาลได้อนุมัติหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแกนนำอีก 17 คน มารับทราบข้อกล่าวหา บุคคลทั้ง 18 คนดังกล่าวจึงอยู่ในข่ายผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด มีมูลเบื้องต้นจากการถูกออกหมายจับ และหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบสวนแล้ว จึงมีพยานหลักฐานตามสมควรว่ามีเหตุน่าเชื่อว่าได้ร่วมกระทำความผิด เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ในการจะใช้พิสูจน์ความผิด หรือบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ตามที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ได้ดำเนินการเบื้องต้น ดีเอสไอจึงออกคำสั่งแจ้งไปยังธนาคารทุกแห่งให้อายัดบัญชี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำรวม 18 คน ในทุกบัญชี ทุกประเภท ทุกธนาคาร และให้ธนาคารนั้นๆ จัดส่งหลักฐานการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ให้ดีเอสไอโดยด่วนที่สุด โดยจะส่งหนังสือแจ้งคำสั่งไปยังธนาคารทุกธนาคารในวันพรุ่งนี้

นายธาริต กล่าวอีกว่า การสั่งอายัดบัญชีของแกนนำทั้ง 18 คนนี้ จะกระทำพร้อมกับสั่งอายัดบัญชีที่แกนนำ กปปส.ได้ประกาศไว้ให้เป็นบัญชีรับบริจาคเพื่อสนับสนุนการชุมนุม ขณะนี้พบมี 2 บัญชี

การอายัดบัญชีและตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนนี้ เพื่อการตรวจสอบแสวงหาพยานหลักฐาน คาดว่าผลการตรวจสอบย้อนหลัง 6 เดือนในบัญชีจะทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของกระแสเงิน และจะทำให้ทราบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงที่ให้เงินผ่านบัญชีแกนนำ และบัญชีรับบริจาคกี่คน กี่ครั้ง จำนวนเงินเท่าใดบ้าง จึงขอเตือนให้กลุ่มทุน หรือท่อน้ำเลี้ยงที่สนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายให้หยุดการสนับสนุนการกระทำผิดเสียทันที โดยเฉพาะเมื่อดีเอสไอได้ประกาศแจ้งเตือน หากยังฝ่าฝืนจะถือว่ามีเจตนาสนับสนุน หรือร่วมกระทำผิดกับบรรดาแกนนำอย่างเจตนาโดยชัดเจน

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า 3.ออกหมายเรียกเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมมาสอบสวน เนื่องจากข้อมูลที่พนักงานสอบสวนของ สตช.ร่วมกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอได้ดำเนินการร่วมกันมา พบว่ามีเจ้าของยานพาหนะ บริษัท ร้านค้า ให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง เพื่อคัดกรองว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาร่วมให้การบริการ เพราะรับจ้างมาหรือจงใจสนับสนุนเป็นข้อเท็จจริงประการใด จึงจะได้ออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวน เพื่อให้ได้ทราบความจริงประกอบการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันที

สำหรับรายชื่อดีเอสไอต้องทำการออกหมายเรียกรวม 17 คน ประกอบด้วย วันที่ 26 ธ.ค.เวลา 14.00 น.ประกอบด้วย 1.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 2.นายชุมพล จุลใส 3.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 4.นายอิสสระ สมชัย 5.วิทยา แก้วภราดัย 6.นายถาวร เสนเนียม 7.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 8.เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 9.น.ส.อัญชลี ไพรีรัก

ส่วนวันที่ 27 ธ.ค.เวลา 14.00 น.ประกอบด้วย 10.นายนิติธร ล้ำเหลือ 11.นายอุทัย ยอดมณี 12.ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ 13.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 14.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 15.นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ 16.พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ และ 17.นายสมบูรณ์ ทองบุราญ

ในฐานความผิดและข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุ่มกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ และเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกไปแต่ไม่เลิก”
กำลังโหลดความคิดเห็น