xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ชี้เลือกตั้งเรื่องกระบวนการ แนะตั้งเวทีคุย หวั่นปลุกให้ฆ่ากัน ทหารเอาไม่อยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(แฟ้มภาพ)
ผบ.ทบ.ปัดคุยเลือกตั้งนายกฯ ให้เป็นเรื่องกระบวนการ โยนถามนายกฯเองถูกกดดันลาออก แจงไม่ใช่หน้าที่ก็ไม่แนะ นำเรื่องขัดแย้งโต้กันไม่จบ ทางออกสองฝ่ายต้องยอมรับ อ้างตอบเองไม่ได้ ยันทหารไม่อยู่ข้างใคร ห่วงปลุกระดมฆ่ากัน ต้องแก้ระดับล่าง ต้องหาคนจัดเวทีเหลืองแดงคุย เพื่อสภา ปชช.จริงๆ อ้างไม่เกี่ยว “เทือก” ลั่นเลิกพูดปฏิวัตินานแล้ว แนะปฏิรูปได้ทำเลยอย่ารอเดียวมีเจ้าภาพเอง เชื่อ “ป๋าเปรม” ไม่ยุ่ง ขออย่าดึงตนกับเลือกตั้ง เตือนแบ่งฝ่ายไม่ดี หวั่นคุมไม่อยู่ สู้กันทหารเอาไม่อยู่

วันนี้ (20 ธ.ค.) สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาระบุว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ไม่ใช่ทางออกของประเทศว่า เรื่องนี้ไมได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องไปหารือกันต่อไป แต่ทั้งหมดเมื่อเป็นเรื่องของกระบวนการอยู่แล้ว ก็จะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีส่วนตัว เพราะตนเป็นกองทัพบก เมื่อถามว่าแรงกดดันที่จะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้ใครไปกดดันให้ลาออก เมื่อถามย้ำว่า กปปส.กดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า กองทัพได้ให้กำลังใจ หรือข้อเสนอแนะกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อะไรที่ไม่ใช่งานในหน้าที่คงไม่ใช่ตน ไม่ใช่กองทัพที่จะไปเสนอนั้นเสนอนี่กับนายกรัฐมนตรีในทุกๆ เรื่อง บางเรื่องเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ฝ่ายบริหาร ตุลาการ ยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายที่ทำงานกันอยู่ ในส่วนของการเลือกตั้งเป็นกระบวนอยู่ ก็จะต้องว่าไปตามกระบวนการ ในส่วนข้อเรียกร้องของฝ่ายนี้มันถูกหรือมันผิดก็จะต้องไปดูว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว ถ้าเราขยายเอาความขัดแย้งที่มีข้อขัดแย้งอยู่ทั้งสองฝ่ายมาขัดแย้งโต้ตอบกันอยู่แบบนี้ตนว่ามันไม่จบ ฝ่ายหนึ่งก็จะยอม ฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ยอม ตนพูดเข้าอีกทางหนึ่งก็เสียใจ ดีใจ ตนอยู่ในกระบวนการ แต่ไม่ได้ตอบว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ตนทำอย่างนั้นไม่ได้

“วันนี้ตราบใดที่ยังมีความขัดแย้งอยู่ จะต้องลดความขัดแย้งให้ได้เสียก่อน จะต้องหาทางออกหรือมีการพูดคุย หรือการยอมรับจากสังคมทุกภาคส่วนให้ได้ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับข้างเดียว หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเรียกร้องข้างเดียว มันคงไมได้ว่าจะเลือกหรือไม่เลือก จะวันนี้หรือไม่วันนี้ ผมว่า มันไม่ใช่คนคนเดียวพูด หรือสองคนพูด แต่จะต้องเป็นเรื่องของสังคม เป็นเรื่องของประเทศชาติพูดด้วยกัน ไม่ใช่มาถามผมว่าเห็นด้วยหรือไม่ ผมตอบคนเดียว ส่วนอีกที่เหลือไม่เห็นด้วย แต่ถ้าถามผมว่ากระบวนการใช่หรือไม่ ผมตอบว่าใช่คือกระบวนการ ดังนั้นจะต้องแยกให้ออกระหว่างกระบวนการกับการปฏิบัติ หรือแนวทาง ซึ่งมีคำตอบเยอะแยะ อย่าเอาคำตอบของผมไปลบล้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ แต่ถ้าพูดถึงความถูกต้องชอบธรรมมันเป็นกระบวนการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ก็จะต้องว่าไปตามกติกา ตามกฎหมาย ตามกระบวนการ แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ความเห็นชอบร่วมกันก็จะต้องดูตรงนั้นด้วย เมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ก็เป็นห่วงกับสถานการณ์ ผมก็บอกว่าทหารก็ทำตามหน้าที่ของทหารอยู่แล้วในทุกเหล่าทัพ ผมพูดในนามของเหล่าทัพอื่นๆ เราเป็นทหารก็จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลักโดยตรงอยู่แล้ว แต่หน้าที่อื่นๆ ก็ให้การสนับสนุน การช่วยเหลือ การแนะนำ แต่การปฏิบัติจะทำหรือไม่ทำ ใช่หรือไม่ใช่ เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร และกระบวนการ” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

เมื่อถามว่า วันที่ 23 ธ.ค.นี้จะเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามทาง กกต. แต่ที่ผ่านมาเราก็เคยส่งกำลังสารวัตรทหาร (สห.) สนับสนุน ดูแลรอบนอกอยู่แล้ว แต่เราไม่สามารถเข้าไปดูแลในคูหา เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ทั้งนี้ทางกองทัพบกก็พยายามทำหน้าที่ของเราเต็มที่อยู่แล้ว อย่ามองว่าเราไปอยู่ข้างใคร เราอยู่ในหลักการ เหตุผล ประเทศชาติ ประชาชน ทุกสี ทุกพวก ทุกเหล่า สิ่งที่ต้องแก้ อย่าไปพูดความขัดแย้งว่าต้องเลือกตั้งหรือไม่ แต่จะทำอย่างไรเพื่อลดความขัดแย้งของประชาชนทุกระดับให้ได้ วันนี้สิ่งที่ตนห่วงด้านความมั่นคง ตนพูดได้เต็มที่ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ในวันนี้ประชาชนทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดมีการปลุกระดมจนจะฆ่ากันอยู่แล้ว และถ้าฆ่ากันขึ้นมาจะทำอย่างไร ไม่ว่าจะสีแดง สีเหลือง หรือสีอะไรต้องไปตั้งโต๊ะคุยกันทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ถ้ายังปล่อยให้ทุกคนพูดกันอยู่อย่างนี้ไม่มีทางแก้ไขปัญหาอะไรได้ แล้วจะมากดกันข้างบนจนถึงผู้บริหารขึ้นมาเรื่อยๆ สรุปว่าวันนี้ต้องแก้ปัญหาจากระดับล่างขึ้นมา แต่ใครจะทำตนไม่รู้

เมื่อถามว่า ให้ทหารเป็นคนกลางเข้าไปคุยในแต่ละจุดได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาไม่ฟังตนหรอก ต้องให้เขาไปคุยกันเอง และหาเวทีให้แดงกับเหลืองคุยกันได้หรือไม่ โดยไม่ตีกันก่อน ให้เขาคุยกันว่าเขาไม่ชอบธรรมตรงไหน ผิดตรงไหน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจก่อน วันนี้ประชาชนไม่เข้าใจอยู่ข้างไหนก็ข้างนั้น แล้วอย่างนี้ใครจะแก้ได้ก็แก้ไม้ได้ ต้องแก้ข้างล่างให้ได้ก่อนว่า ทำอย่างไรประชาชนจึงไม่มีสี แล้วเขาจะได้พูดว่า สิ่งที่เขาไม่ชอบธรรม ไม่เป็นธรรมคืออะไรบ้าง ลิสต์ขึ้นเป็นข้อๆ มา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ถ้าตั้งสภาข้างบนก็จะต้องมีสภาประชาชนข้างล่างให้ได้ ซึ่งต้องเป็นประชาชนจริงๆ อย่าเอาแกนนำไปอยู่ข้างล่าง มิเช่นนั้นทะเลาะกันตาย

เมื่อถามว่า สภาประชาชนที่ระบุหมายถึงประชาชนจริงๆ ไม่ใช่สภาประชาชนของนายสุเทพ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่ อย่าไปพูดว่าเป็นนายสุเทพ สภาที่ว่า ใครจะจัดไม่รู้ แต่สภาที่ว่าต้องมีตัวแทนประชาชนทุกคนอยู่สภา แต่ใครจะเป็นคนจัด ไม่ใช่ กปปส.จัดแล้วคุณรับหรือไม่ คุณต้องหาคนมาจัดให้ได้ หากรัฐบาลจัด หรือ กปปส.รับหรือไม่ ก็ไม่รับ แล้วอย่างนี้ใครจะจัด ต้องไปหามา ซึ่งตนไม่รู้ เมื่อถามว่าตอนนี้มองว่าการเมืองยังแก้ไขด้วยการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็จะต้องแก้ไขด้วยการเมือง จะแก้ไขด้วยการทหารหรือ เมื่อถามย้ำว่า ปฏิวัติจะช่วยแก้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า ปฏิวัติอย่างไร ผู้สื่อข่าวตอบว่า ปฏิวัติด้วยการร่างใหม่ จัดระเบียบใหม่ จะทำให้ทุกฝ่ายยอมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็คุณเรียกร้องมา คุณรับผิดชอบหรือเปล่า อย่ามาพูดคำนี้กับตน เพราะตนเลิกพูดไปนานแล้ว

เมื่อถามว่า แนวคิดที่มีการถกเถียงอยู่ว่าจะเลือกตั้งก่อน หรือปฏิรูปก่อน กองทัพมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อะไรแก้ได้ก่อนเร็วก็แก้ บางอย่างแก้ได้เร็ว บางอย่างแก้ได้ช้า แต่อันไหนแก้ได้เร็วก็แก้ก่อน อะไรแก้ไม่ได้ก็ไปหาทางแก้ทีหลัง แต่ตนจะไม่ใช่คำว่าจะต้องเลือกตั้งก่อน หรือปฏิรูปก่อน มันเป็นคนละเรื่องอย่าเอามาพันกัน การปฏิรูปมีอะไรบ้าง อะไรทำได้วันนี้ทำไปเลย ใครทำได้ทำไป พรรคการเมืองทำก่อนได้หรือไม่ก็ทำไป ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน อะไรแก้ได้แก้ไปก่อนทุกคนมีกฎหมาย กติกาของตัวเอง ถ้าไปรอกฎหมายใหญ่ทำทีเดียวก็แก้ไขไมได้อยู่ดี ถึงเวลาก็แก้ไม่ได้ เพราะมันเยอะกันเกินไป แต่ถ้าวันนี้ทุกคนแสดงความจริงใจ เอาปัญหาของตัวเองขึ้นมาแล้วแก้ไขกัน ถ้าทุกอย่างมาฝากแบกไว้กับรัฐบาลมันไม่ได้แก้สักอย่าง เพราะมันช้าเกินไป ดังนั้นจะต้องปฏิรูปตัวเอง ปฏิรูปหน่วยงานของท่านก่อน ถ้าทั้งหมดไปว่ากันด้วยกฎหมายก็ตีกันอยู่ดี เพราะมันไม่เคารพกฎหมาย ส่วนใครจะเป็นเจ้าภาพนั้น ตนคิดว่าเดี๋ยวคงมีเอง โดยประชาชนไปเลือกกันมา ซึ่งไม่ใช่เป็นประชามติจากประชาชน เพราะประชามติทำไม่ได้ตอนนี้ เนื่องจากไม่มีสภา ตนคิดว่าวันนี้จะต้องมีคนเสนอเรื่องพวกนี้มา และนำสู่การแก้ไขปัญหาโดยที่มีความไว้วางใจจากทุกส่วน ส่วนจะเป็นใครตนยังคิดไม่ได้

เมื่อถามว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้หรือไม่ที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ให้ท่านพักผ่อน แต่ท่านก็เป็นห่วงเป็นใย ท่านไม่อยากเข้ามายุ่ง เพราะขัดแย้งกันเกินไป ตนคิดว่าจะต้องตั้งอันนี้ขึ้นมาให้ได้ เมื่อตั้งได้ก็จะนำไปสู่การปฏิบัติ โดยจะมีกฎหมายรองรับ ให้สภามีอำนาจอย่างแท้จริง และมีการกำหนดโรดแมป 1-2-3 ใกล้-กลาง-ไกล แต่ทั้งหมดจะทำก่อนหรือหลังตนตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน ดังนั้นอย่าตนเข้าไปเกี่ยวพันว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.ดีหรือไม่ดี ตนตอบไม่ได้ ตนตอบว่ากระบวนการว่ามาอย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการ ส่วนจะทำหรือไม่ทำก็จะต้องสร้างความเข้าใจระหว่างฝ่ายบริหาร ประชาชน และคู่ขัดแย้งที่มีความเห็นต่าง ก็จะต้องมาตกลงกันให้ได้ว่าจะทำกันอย่างไร จะถอยกันตรงไหน จะลดจะเพิ่มกันตรงไหนก็จะต้องว่ากัน ถ้าไล่กันจนมันไปไม่ได้ก็ตีกัน ประชาชนตีกัน แต่พวกนี้ไม่เห็นดีกันเลย เราจะหยุดประชาชนข้างล่างได้อย่างไร

“วันนี้อย่ามามองกันเฉพาะในกรุงเทพฯ อย่ามองกันแค่เฉพาะทีวี จะต้องไปมองที่ต่างจังหวัดด้วย เพราะมีการเคลื่อนไหวจากทุกพวกทุกฝ่าย ผมต้องขอร้องกับทุกฝ่ายด้วยว่า การที่ทำให้ประชาชนขัดแย้งกันเป็นสองพวก หรือสามพวก สี่พวก ไม่เป็นสิ่งที่ดีเลย วันหน้าหากคอนโทรลไม่ได้ หรือควบคุมไม่ได้ แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร ในเมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้ พวกหนึ่งเห็นอีกพวกหนึ่งไม่ชอบธรรม อีกพวกหนึ่งเห็นว่าพวกนี้ไม่ถูกต้อง ถ้ายังยุกันแบบนี้ ผมว่ามันสู้กันแน่ประชาชน เมื่อนั้นผมก็บอกว่าทหารก็หยุดไม่อยู่ ผมไม่สามารถที่จะไปทำร้ายประชาชนได้เมื่อมีการใช้กำลังต่อกัน มันก็จะต้องไปหยุดด้วยกำลัง ผมว่าหากใช้กำลังกับประชาชนคนไทยด้วยกันก็จะเกิดความเสียหาย ผมไม่ได้พูดถึงการย้อนกลับไปในอดีต แต่อดีตจะต้องดูว่าเราใช้อาวุธกับอะไร เราจำเป็นจะต้องมีอาวุธเพราะอะไร วันนี้ลืมหมดไปหรือเปล่า ปี 2553 ไม่เห็นพูดแบบนี้เลย อย่าเอามาปนกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น