ตัวแทน กปปส.เดินทางมายัง กกต. ยื่นจดหมายเปิดผนึก “สุเทพ” ขอให้ กกต.พิจารณาเลื่อนเลือกตั้ง เพื่อปฏิรูปประเทศ “สมเกียรติ” ชี้มีต่อต้านเลือกตั้ง หวั่นเปิดสภาไม่ได้ ประธาน กกต. ปิดประตู โบ้ยเป็นเรื่องพระราชอำนาจ “สมชัย” ไม่ขอออกความเห็น แต่อำนาจรัฐบาลเสนอกฎหมายเลื่อนได้ก็จะเลื่อนให้ ส่วนทนาย คปท.จี้พิจารณา 312 ส.ส.-ส.ว.สิ้นสภาพ เพราะไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษไพบูลย์ นายสาธิต เซกัล พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พร้อมคณะ เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน
โดยได้นำจดหมายเปิดผนึกของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ขอให้ กกต. พิจารณาเลื่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ออกไปก่อนเพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศใน 5 ด้าน แล้วเสร็จจึงค่อยมีการเลือกตั้ง และให้ กกต. เสนอความเห็น คำปรึกษา คำแนะนำ ต่อรัฐบาลรักษาการณ์ ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 และมาตรา 187 ในการออกพระราชกำหนดเลื่อนวันเลือกตั้ง มาอ่านให้ กกต.ทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำ กปปส.ได้การอธิบายให้ กกต.เห็นว่า ทาง กปปส.ไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่ขณะนี้มวลชนได้มีการลุกขึ้นเพื่อต่อต้านและต้องการขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องมีการปฏิรูปประเทศให้เสร็จสิ้นก่อน จึงค่อยมีการเลือกตั้ง หากมีการจัดเลือกตั้งก็ต้องมีการต่อต้านของมวลชนแน่นอน
โดยนายสมเกียรติกล่าวว่า ตนฟันธงเลยว่าถ้ามีการเลือกตั้งจะมีการต่อต้านการเลือกตั้งแน่ แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้จะรุนแรงกว่าการเลือกตั้ง 2 เม.ย. 2549 เพราะประชาชนตื่นตัวมากกว่า เราคิดว่ามันจะเกิดความวุ่นวาย อาจเลือกตั้งไม่ได้ในบางเขต บางจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด หรือกรุงเทพมหานครก็จะโกลาหล และจะมีผู้ไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 10 ล้านคน เมื่อเลือกตั้งแล้วก็จะได้ ส.ส.ไม่ครบ ไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงน่าเป็นเหตุให้ กกต. สามารถเสนอเลื่อนเลือกตั้งได้ โดย กกต.อาจจะเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐบาลยังคงมีความชอบธรรมในการเสนอออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหรือไม่ หลังจากไม่รับอำนาจศาลที่วินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. หรืออาจใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 325 ที่ให้อำนาจ กกต. จัดการเลือกตั้งโดยสุจริต เมื่อ กกต.เห็นแล้วว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นจะไม่สุจริต ก็สามารถเลื่อนเลือกตั้งได้
ด้านนายศุภชัยกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ข้อเสนอในการปฏิรูปประเทศ กกต.เห็นด้วย แต่ กปปส.ก็ต้องเห็นใจ กกต. ด้วยเพราะได้พยายามดูข้อกฎหมายแล้วว่ามีช่องทางไหนที่จะเลื่อนเลือกตั้ง แต่ดูแล้วมันเลื่อนไม่ได้จริงๆ เมื่อกฎหมายกำหนดให้ กกต. มีหน้าที่ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม ถ้าไม่ดำเนินการตามกฎหมายก็ถือว่าละเว้น ตนเป็นผู้พิพากษาอาวุโส ถ้าไม่มาเป็น กกต.ก็ทำคดีไปสบายๆ แต่เห็นว่าบ้านเมืองมีวิกฤตก็อยากจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เพื่อเป็นเกียรติประวัติในช่วงสุดท้ายของชีวิต
ประธาน กกต.ยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาเรามีกฎหมายลงโทษคนที่ไม่มาเลือกตั้ง แต่คนมาเลือกตั้งเราไม่ได้ให้ประโยชน์กับเขา ส่วนตัวคิดว่าคนที่มาเลือกตั้งควรให้ค่าพาหนะเขาเหมือนกับการเลือกสหกรณ์ที่จะให้ค่าพาหนะ 500 บาทบ้าง ซึ่งแนวคิดนี้รู้ว่ามันต้องใช้เงินเยอะ แต่น่าจะป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงได้ และเห็นว่าเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่ควรให้พรรคการเมืองแต่ควรให้กับประชาชนมากกว่า
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การที่จะออกพระราชกำหนดเลื่อนวันเลือกตั้งพระราชกำหนดเป็นอำนาจของรัฐบาลที่ต้องพิจารณาว่าสถานการณ์ประเทศขณะนี้เข้าหลักจำเป็นเร่งด่วนที่ออกพระราชกำหนดได้หรือไม่ แต่เมื่อเรามองว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรมแล้วจะไปเสนอออก มันก็เป็นไปได้ยาก และการเป็นรัฐบาลรักษาการจะทำอะไรก็มีขอบเขตที่จำกัด
“ผมคิดว่า กกต.เป็นฝ่ายที่พร้อมจะทำอะไรตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเรื่องนี้ถ้าการเมืองตกลงกันได้ว่าจะเลื่อนเลือกตั้ง คิดว่านักกฎหมายเก่งน่าจะหาช่องทางกฎหมายในการเลื่อนวันเลือกตั้งได้ แล้ว กกต. ก็จะเป็นไม้ที่ 3 พร้อมที่จะปฏิบัติอยู่แล้ว กกต. ยินดีอย่างยิ่งที่จะเลื่อนเลือกตั้งไปเมื่อไรก็ได้ 3-6 เดือนหรือ 1 ปี กกต. ก็สบาย เพราะเราไม่ได้อยากจะเข้ามาแล้วมาจัดการเลือกตั้งทันที เพราะแต่ละคนที่เข้ามาก็ใช่ว่าจะเชี่ยวชาญ” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยยังกล่าวด้วยว่า กกต.ไม่เคยมีการหารือกันรัฐบาลมีความชอบธรรมในการที่จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งหรือไม่ และเห็นว่าหากจะมีการยื่นประเด็นนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กปปส. ควรยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินเพราะเป็นเรื่องของความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งไม่ใช่เรื่องการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเตรียมเสนอรัฐบาลออกพระราชกำหนด สามารถทำได้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเป็นความจำเป็น เร่งด่วนต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะออกพระราชกำหนดภายใต้สถานการณ์ทีเกิดขึ้นแต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.ด้วย ยกตัวอย่าง ถ้าเกิดภัยพิบัติขึ้น เช่นเกิดสึนามิถล่ม หรือประเทศประกาศสงคราม สถานการณ์แบบนี้คงไม่มีใครไปเลือกตั้ง
เมื่อถามต่อว่า สถานการณ์ความขัดแย้งขณะนี้ถือว่าเข้าหลักจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลจะออก พ.ร.ก.แล้วหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็น
มีรายงานว่า ขณะที่ กปปส.มีการหารือกับ กกต.อยู่นั้น กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้เดินทางมาถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดย น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ คปท.ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้มีการพิจารณาความสิ้นสุดของสมาชิกภาพสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 312 คน ที่กระทำการและร่วมกันกระทำการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่าจากกรณีที่มีการร่วมกันลงชื่อและสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. และภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ยังมีการแถลงการณ์ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดต่อสถานะและการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ กกต.พิจารณาความสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมกระทำการดังกล่าว
