xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.เสรี” แนะผ่าวังวนการเมือง ยาแรง กม.เลือกตั้ง ปลดแอก ขรก.-ตร.ชั้นผู้น้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร.เสรี วงษ์มณฑา (แฟ้มภาพ)
“ดร.เสรี” แนะปฏิรูป กม.เลือกตั้ง-พรรคการเมือง ตัดตอนเงินซื้อเสียง ยาแรงปราบโกงต้องไม่มีอายุความ ตร.ชั้นผู้น้อยขึ้นตรงท้องถิ่น ไม่อยู่ในอุ้งมือบิ๊กหัวมะเขือเทศ ขรก.ท้องถิ่นต้องเป็นคนในพื้นที่ ชี้เลวร้ายระบอบแม้ว รัฐบาลโมฆะ บี้ลาออกรักษาการก่อนเลือกตั้ง ปล่อย ม.7 เดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 ธ.ค. ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดร.เสรี วงษ์มณฑา หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไปชี้แจงเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน ที่เวทีเสวนา “ความสงบสุขและประโยชน์สูงสุดของประเทศ” ซึ่งจัดโดยกองทัพไทย ว่า ผบ.สส. พูดเหมือนไม่อยากให้คนเข้าใจจุดยืนของกองทัพ ยืนอยู่บนสันรั้วไม่ยอมโดดลงข้างใดข้างหนึ่ง จากถ้อยคำที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่ายังมีความเกรงกลัวฝ่ายรัฐบาลมากๆ

คนในห้องเสวนาที่เห็นหน้าแล้วไม่สบายใจเลยคือ นายปริญญา เทวนฤมิตรกุล, นายโคทม อารียา, นางสดศรี สัตยธรรม และนายวรัญชัย โชคชนะ

นายสุเทพ พูดชัดเจนว่าต้องการปฏิรูปประเทศไทยก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะเรายังขาดกลไกที่จะหยุดยั้งการซื้อเสียง มีการลงทุนเข้าสู่อำนาจด้วยเงินจำนวนมากมาย ทำให้เกิดการคอร์รัปชันเพื่อถอนทุน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง ให้เป็นกลไกที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนั้นแล้ว ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการคอร์รัปชัน ดังนั้น จะต้องหาทางที่จะหยุดการคอร์รัปชัน โดยจะต้องมีการปรับกฎหมายใหม่ เช่น คดีคอร์รัปชันอาจจะไม่ให้มีอายุความ และจะต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงกว่านี้ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มีการคอร์รัปชันอีกต่อไป

เรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทั้งด้านอำนาจในการปกครอง การกระจายงบประมาณ การบริหารการพัฒนาท้องถิ่นตามความต้องการของผู้บริหารท้องถิ่น ต้องมีการเลือกผู้ว่าฯ ในท้องถิ่น เป็นคนที่รักท้องถิ่น ไม่ใช่คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลางไปเป็นข้าราชการระดับภูมิภาคที่จะต้องทำงานเอาใจผู้มีอำนาจรัฐ

ตำรวจไม่ควรจะมีอำนาจขนาดนี้ ตำรวจควรจะเป็นตำรวจท้องถิ่น กำกับดูแลประชาชนในพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายปกครองท้องถิ่น ไม่ใช่อยู่ภายใต้อำนาจของคนคนเดียว และคนคนเดียวนี้อาจจะรับใช้นักการเมืองในการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้าม ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐตำรวจที่คนคิดต่างจากรัฐบาลต้องอยู่อย่างหวาดกลัว

ระบอบทักษิณ เป็นระบอบที่ทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย แทนที่จะดูเรื่องความรู้ความสามารถ กลับเลือกคนที่ยอมทำตนเป็นขี้ข้ารับใช้ทักษิณที่ใช้อำนาจเงินในการซื้อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำลายขวัญ และกำลังใจของข้าราชการ และเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักคุณธรรม

ระบอบทักษิณ เป็นระบอบที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ครอบงำการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลยอมให้นักโทษนอกอาณาจักรกำกับการทำงานของรัฐบาล ก่อให้เกิดการทำผิด ละเมิดกฎหมายหลายเรื่อง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกกฎหมายนิรโทษกรรม การปฏิเสธอำนาจศาล การไม่ยอมรับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้เกิดการชุมนุมของประชาชนผู้รักความเป็นธรรม และมองว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ตั้งแต่วันที่คนในซีกรัฐบาลออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กลายเป็นรัฐบาลที่โมฆะ เป็นรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมไปแล้ว ดังนั้น มหาประชาชนที่ออกมาจึงเรียกร้องให้มีการยุบสภา และรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมต้องแสดงความจำนงไม่รักษาการ เพื่อให้ประเทศไทยมีโอกาสได้ใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ในรูปแบบของการปฏิรูป ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวนั้นควรจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะถ้าหากเดินหน้าเลือกตั้งต่อไปก็คงจะทำให้ประเทศตกอยู่ในวังวนของความเลวร้ายเดิมๆ

เมื่อเราพูดว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แต่เบื้องหลังการใช้กฎหมาย และการตีความกฎหมายก็คือ ความมีจริยธรรม และศีลธรรม การบริหารประเทศตามหลักรัฐศาสตร์ จึงจะมีธรรมาภิบาล

อย่าตีความกฎหมายอย่างคับแคบให้ประเทศตกอยู่ในวังวนของความเลวร้าย แต่จะต้องตีความกฎหมายตามเจตนาของรัฐธรรมนูญ โดยให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงที่ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น