“พล.ร.ท.ประทีป” วิเคราะห์ ผบ.เหล่าทัพไม่กล้าพอเลือกข้างประชาชน คาดเจรจาไปก็ไร้ผล แนะ “สุเทพ” ปรับยุทธวิธีเป็นชุมนุมยาว โดยต้องรักษามวลชนไว้ให้ได้ด้วยการทำความเข้าใจให้เห็นถึงความสำคัญในการแสดงพลัง มั่นใจจะประสบความสำเร็จได้
วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง (นปข.) กล่าวในรายการ “เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม” ทางเอเอสทีวี ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทย จะอาศัยลำพังเพียงจำนวนผู้ชุมนุมเป็นไปไม่ได้ ต้องมีปัจจัยเพิ่มขึ้นมาอีก เรียกว่าตัวละคร 5 ตัวละคร 1. ผู้นำการชุมนุมต้องมีบารมี 2. มีผู้ประสานงานที่มีบารมี 3. กองทัพ ส่วน 4 และ 5 ขอละเว้นไม่พูดถึง
ก่อนนี้ตนคิดว่ามวลชนหลักล้านคนไม่น่าเป็นไปได้ เพราะไทยเฉยเยอะ แต่ปรากฏว่ามวลมหาประชาชนออกมาหลายล้านคนก็ยังไม่สามารถล้มอำนาจรัฐได้ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายอย่างยิ่ง ซึ่งหลายคนคงคิดเหมือนกันว่าถ้าบทสรุปการต่อสู้ครั้งนี้ต้องพ่ายแพ้จริง ต่อไปการเมืองของประเทศไทยคงยากที่จะมีมวลมหาประชาชนออกมาบนท้องถนน
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวต่อว่า ตอนนี้ 5 องค์ประกอบ ยังไม่ครบ โอกาสแพ้มีสูง นายสุเทพ ถึงพยายามนัดผู้บัญชาการเหล่าทัพมาเจรจา ซึ่งก็สรุปว่าจะได้คุยในวันเสาร์นี้ ตนขอประเมินผลการเจรจาวันเสาร์นี้ ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. รากเหง้าความคิดของกองทัพยังมั่นคงอยู่ที่กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เคยบอกว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องซึมซับรากเหง้านี้มาเช่นกัน 2. สถานภาพกองทัพในปัจจุบันคือหน่วยงานหนึ่งในรัฐบาล 3. รัฐบาลเป็นคู่ขัดแย้งของ กปปส. 4. องค์บุคคลที่เป็นผู้ขัดแย้ง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้บัญชาการโดยตรงของผู้บัญชาการเหล่าทัพ 5. น.ส.ยิ่งลักษณ์และกองทัพ ไม่เคยขัดแย้งกันเลย 6. ผู้บัญชาการสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารเรือ ใกล้เกษียณอายุราชการ จะหาความยุ่งยากให้ตัวเองทำไม เพราะการตัดสินใจทำอะไรมันผูกพันไปตลอด 7. รัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้ทหารเข้ามาแก้ปัญหา ใช้แค่ตำรวจก็พอ เพราะ กปปส. ใช้วิธีการชุมนุมสงบสันติปราศจากอาวุธ แค่กองทัพอยู่นิ่งๆ เขาก็พอใจแล้ว
ฉะนั้น จากปัจจัยทั้ง 7 อย่าง เชื่อว่าผลการประชุมเสาร์นี้ โอกาสที่จะได้อะไรมาเป็นคุณกับ กปปส. อย่างชัดเจนคงจะยาก แต่สิ่งที่ได้มาคือกองทัพจะได้หน้า เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่สง่างาม
พล.ร.ท.ประทีปกล่าวอีกว่า หากการประชุมเสาร์นี้ผลเป็นไปตามที่ตนประเมิน เชื่อว่ากำนันต้องปรับยุทธวิธี ซึ่งตนนึกถึงกลยุทธ์ของ พล.ต.จำลอง ที่ท่องประจำว่า ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริง แต่ก็ยังต้องใช้พลังมวลชนกดดันไปเรื่อยๆ ซึ่งนายสุเทพต้องรักษามวลชนไว้ให้ได้ ด้วยการสร้างความเข้าใจว่าระหว่างการใช้พลังกับแสดงพลังไม่เหมือนกัน เนื่องจากการชุมนุมสงบสันติ ใช้พลังทำไม่ได้ จำเป็นต้องใช้พลังมวลชนเพื่อแสดงพลังเท่านั้น และต้องให้ประชาชนยอมรับว่ายุทธวิธีการแสดงพลังนำไปสู่เป้าหมายสำเร็จได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษามวลมหาประชาชนนี้ไว้ได้ ตนเชื่อว่าด้วยจำนวนมวลชนเป็นล้าน ยังมีแสงสว่างของความสำเร็จอยู่