“อภิสิทธิ์” เรียกประชุมคณะทำงานประเมินสถานการณ์การเมือง ห่วงรุนแรง ซัดรัฐบาลให้ตำรวจใช้สารเคมีพ่นใส่มวลชน เตรียมร้องยูเอ็นกระทำขัดหลักสากล พร้อมยื่นถอนประกันตัว “ตู่-เต้น” ขึ้นเวทียั่วยุให้สมุนแดงยกพวกปะทะนักศึกษารามฯ จนเสียชีวิต 3 ราย ขณะเดียวกันเสนอ ป.ป.ช.เอาผิดอาญา 312 ส.ส.-ส.ว.โหวตแก้ รธน.ผิดกฎหมาย “ชวนนท์” ปัด “เทพเทือก” ขนของออกจาก ปชป.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (3 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นห่วงว่าสถานการณ์จะขัดแย้งรุนแรงเพิ่มขึ้น และต้องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและหาทางออกให้กับประเทศ การใช้อาวุธและความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตี และรมว.กลาโหมยังทำตัวลอยเหนือปัญหา ไม่ใส่ใจหรือสนใจรับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น หรือเป็นเพราะผู้ที่กระทำการเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งดูได้จากคำพูดของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ที่ปราศรัยปลุกระดม ยั่วยุ
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมจึงมีข้อสรุปขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พรรคจะรวบรวมหลักฐานยื่นถอนประกันนายจตุพรและนายณัฐวุฒิที่ปลุกปั่นทำให้เกิดความรุนแรงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก พรรคจะยื่น ป.ป.ช.เอาผิดในคดีอาญาต่อ ส.ส.และ ส.ว.312 คนกรณีแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.
นอกจากนี้ รัฐบาลใช้แก๊สน้ำตาและสารเคมีสีม่วงผสมฉีกใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งผิดหลักอนุสัญญาของสหประชาชาติที่ไทยมีต่อสหประชาชาติ ที่ระบุว่าการใช้อาวุธเคมีหรือสารเคมีจะต้องแจ้งต่อประชาชนว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน พรรคจึงได้มอบให้นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปประสานกับองค์กรระหว่างประเทศในเรื่องการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ ส่วนนายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาฯ จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยรามฯมาชี้แจง และมอบหมายให้นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับด้านสิทธิมนุษยชนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการชุมนุมในครั้งนี้ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเป็นการทำงานของพรรคการเมือง เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนคนไทย ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
“การดำเนินการทั้งหมดเป็นการทำงานของพรรคการเมือง เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชนคนไทย ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และผู้ที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เวลานี้จะทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้แล้ว และการที่รัฐบาลปล่อยให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปยังทำเนียบ และ บช.น.เป็นเพราะไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมนำประเด็นเรื่องความรุนแรงมาล้มล้างรัฐบาล แต่หากรัฐบาลยังคงคิดร้ายต่อประชาชนเชื่อว่าสุดท้ายรัฐบาลจะไปไม่รอดและสถานการณ์ไม่จบลงง่ายๆ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขานุการ กปปส. ประกาศไม่มีความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ และได้ขนย้ายสิ่งของออกจากพรรคแล้ว นายชวนนท์กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีการขนย้ายของ แต่ยืนยันว่านายสุเทพยังเป็นผู้ใหญ่และที่รัก เป็นบุคคลสำคัญในใจของคนพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป
ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือกัน เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังวุ่นวาย แต่พรรคจะเร่งตัดสินใจให้เสร็จทันก่อนวันที่ กกต.จะปิดรับสมัครในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ อยากให้ประชาชนแยกให้ออกว่าผู้ที่ลาออกจาก ส.ส.9 คน เป็นส่วนหนึ่ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นพรรคการเมืองที่ยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่ต่อไป
นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตนจะรวบรวมหลักฐานต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำในช่วงที่ผ่านมา เพราะมีหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ได้ยึดหลักสากลในการสลายการชุมนุมที่มีทั้งหมด7 ระดับ เช่น มีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนจริง กระดูกแตกละเอียด บางรายถูกยิงกระสุนทะลุช่องท้อง มีการใช้แก็สน้ำตายิงวิถีตรง การยิงกระสุนยางบริเวณสูงกว่าระดับเอว รวมถึงมีการฉีดสารเคมี โดยไม่มีการแจ้งเตือน ซึ่งพฤติกรรมการป้องกันการชุมนุมที่มาโดยสุจริต ปราศจากอาวุธควรได้รับการเคารพสิทธิจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือรัฐบาล ตนในฐานะได้รับมอบหมายจากพรรคได้รวบรวมหลักฐานต่างซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ารัฐบาลได้ปฏิบัติผิดกฎหมาย และข้อตกลงพันธสัญญาตามหลักสากล จะนำไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อปกป้องมวลชนให้ได้รับการคุ้มครองตามขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะรีบดำเนินการโดยด่วน
ด้านนายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา ทางกรรมาธิการจะมีการเรียก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน.มาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบว่าหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์การปะทะกันเป็นชาวกัมพูชาที่อ้างว่ามารับจ้างซ่อมสนามบาสเกตบอลในมหาวิทยาลัย แต่ทางกรรมาธิการจำนำประเด็นนี้ไปตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะมีการตั้งข้อสังเกตถึงกองกำลังชุดดำที่เข้ามาก่อความรุนแรงยิงนักศึกษา ซึ่งหากพบว่าเป็นความจริงก็จะสอบย้อนไปจนถึงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 ที่มีกองกำลังชายชุดดำเข้ามาก่อความรุนแรงด้วย ส่วนผลเป็นอย่างไรจะมาแจ้งต่อสื่อมวลชนให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป
