ส.ส.พัทลุง โพสต์ FB ยันเป้าหมาย “สุเทพ-กรณ์” ล้มระบอบทักษิณให้ได้ก่อนตาย พร้อมช่วยทั้งคู่ ชี้ “กรณ์” อายุการเมืองน้อยไม่เข้าใจ “แม่ทัพเทือก” ส.ส.พิดโลก เสนอเจรจา 5 ฝ่าย หยุดความขัดแย้ง ให้ผู้แทนอธิการบดีเป็นเจ้าภาพ ตั้ง ส.ส.ร.แก้ รธน. 6 เดือนแล้วยุบสภา เริ่มต้นปฏิรูปชาติ ชี้เป็นทางเลี่ยงสงครามกลางเมือง ปิดช่องรัฐประหาร
วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “นายกรณ์ จาติกวณิช และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นบุคลากรทางการเมืองที่มีค่าของประเทศ ทั้งสองคนไม่คิดร้ายต่อแผ่นดินอย่างแน่นอน จุดหมายปลายทางของทั้งสองคนเหมือนกัน คือ การกวาดล้างระบอบทักษิณ และคืนแผ่นดินไทยที่เคยสงบ ร่มเย็น ให้ลูกหลานไทยเป็นมรดกก่อนที่จะจากโลกนี้ไป (ผมได้ยินทั้งสองท่านพูดอย่างนี้เสมอๆ) หัวใจเราเล็กและอ่อนแอกว่าหัวใจนายสุเทพ แต่เราจะช่วยนายสุเทพทุกวิถีทางให้เดินสู่เป้าหมายให้ได้โดยเร็วและปลอดภัย ขณะเดียวกันเราก็จะช่วยให้นายกรณ์เดินสู่เป้าหมายได้สำเร็จนำความรู้ ความสามารถที่เขามีมาดูแลประเทศข้อด้อยของนายกรณ์ คือ มีอายุงานทางการเมืองน้อยไปนิดหนึ่งในสถานการณ์สู้รบทางการเมืองตนจึงเข้าใจ “แม่ทัพ” อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะเดียวกันก็เข้าใจ “นายกอง” อย่างนายกรณ์
ด้านนายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลกรณีที่มีมวลชนกลุ่มย่อยของฝ่ายต่างๆปะทะกันในหลายจุดทั่วประเทศ โดยเห็นว่ามีโอกาสจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว และจะลุกลามบานปลายเป็นสงครามกลางเมืองซึ่งสุดท้ายจะไม่มีใครแพ้ชนะเพราะทั้งสองฝ่ายมีมวลชนปริมาณใกล้เคียงกันคือประมาณ 10 ล้านคน ไม่มีฝ่ายไหนที่สามารถจะขับไล่อีกฝ่ายให้ออกไปนอกประเทศได้ทั้งหมด แต่เมื่อปะทะกันจะเกิดสภาวะมิคสัญญี เกิดความสูญเสียทุกฝ่าย และเมื่อถึงจุดนั้นจะเป็นโอกาสให้กลุ่มที่ต้องการอำนาจนอกระบบเข้ามายึดอำนาจแทรกแซงระบบประชาธิปไตย ทำให้บ้านเมืองถอยหลังลงคลองไปอีกหลายสิบปี
นายนครเสนอว่า ทางออกที่จะหลีกเลี่ยงภาวะสงครามและปิดช่องทางที่อำนาจนอกระบบจะเข้าแทรกแซงคือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในเกมตอนนี้ต้องจับมือกันแล้วปฏิรูปประเทศเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเริ่มต้นจากการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย 1. นายกรัฐมนตรี 2. ผู้นำฝ่ายค้าน 3. หัวหน้าพรรคการเมือง 4. ผู้แทนจากองค์กรภาคประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมทุกสี 5. ผู้แทนจากที่ประชุมอธิการบดี ทั้ง 5 ฝ่ายร่วมโต๊ะเจรจาเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โดยให้ผู้แทนอธิการบดีเป็นเจ้าภาพ เริ่มต้นจากการสร้างสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาร่างกฎกติกาใหม่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย โดยใช้เวลาร่างรัฐธรรมนูญประมาณ 6 เดือนหลังจากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ในกติกาที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ เมื่อถึงจุดนั้นทุกฝ่ายจะกลับเข้ามาต่อสู้กันในระบบประชาธิปไตย จากนั้นทุกฝ่ายจะต้องจับมือกันปฏิรูปสังคมทั้งระบบ