ส.ส.ปชป.ยืนยันยึดศาลากลางไม่ผิดกฎหมาย มวลชนเข้าออกได้ฉลุยขอเพียงไม่ทำร้ายทรัพย์ - ขรก.ชี้ในอดีตเคยทำมาแล้วไม่ถูกจับ ซัด “ปูนิ่ม” หัวหน้ากบฏ ไล่ยากสุดในทศวรรษ เหตุเพราะหน้าหนาเกินทน
วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่า ได้มีคนมาถามว่าการที่เราเข้าไปอยู่สถานที่ราชการผิดกฎหมายหรือไม่ ก็อยากบอกว่าตนยึดศาลากลาง จ.สงขลา มาก่อนเมื่อปี 2548 นำมวลชนเข้าไปได้หลายพันคน ตนเป็นนักกฎหมายรู้ว่าศาลากลางเป็นสถานที่ราชการ ประชาชนสามารถเข้าไปได้ ถ้าไม่ให้เข้าก็สามารถใช้สิทธิประชาชนพังเข้าไปได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามทำร้ายข้าราชการและทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และพวกเรามีสิทธิลุกขึ้นไล่รัฐบาลโจร เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมรับกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงกลายเป็นหัวหน้ากบฏ ไม่ใช่พวกเรา และประเทศไทยมีกบฎมา 24 ครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่ายากที่สุด ทั้งที่ไม่มีอาวุธอะไรเลยมีเพียงหน้าด้านๆ เท่านั้น และอย่าซื้อหรืออ่านสื่อฉบับหนึ่งที่เป็นรากฐานและสนับสนุนรัฐบาลทรราชเพราะพวกเราไม่ใช่โจร ถ้าโจรต้องแบบนายจตุพร
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมในช่วงเย็นว่า การชุมนุมเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยประชาชนเริ่มเดินทางทยอยมาเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นั่งปักหลักฟังการปราศรัยอยู่บริเวณโดยรอบเวทีราชดำเนิน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะเดียวกันกิจกรรมบนเวทียังได้มีการแสดงดนตรีเพื่อเป็นการผ่อนคลายและสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชุมนุม โดยสลับกับการขึ้นเวทีของแกนนำเพื่อปราศรัย ซึ่งล่าสุดได้มีการโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่องว่ายังเป็นข้าราชการหน่วยงานเดียวที่ยังช่วยรัฐบาล ส่วนการจราจรโดยรอบเริ่มติดขัดเนื่องจากผู้ชุมนุมนำรถมาจอดตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจนถึงแยกคอกวัว อย่างไรก็ดี จากการเดินสำรวจยังพบว่าได้มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้พักผ่อนด้วยการนวดแผนไทยและรับประทานอาหารที่ทีมงาน ส.ส.ประชาธิปัตย์ตั้งซุ้มเพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ชุมนุม รวมถึงผู้ชุมนุมที่เริ่มทยอยเข้ามาได้มีการจับจ่ายซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เช่น นกหวีด ริบบิ้นธงชาติและมือตบ เป็นต้น