xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.โวยเร่งแปรญัตตินิรโทษกรรม “นิพิฏฐ์” ชี้ชัดล้ม ม.309-“หมวดเจี๊ยบ” เสี้ยมม็อบอย่าหลง “มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
“นิพิฎฐ์” ชี้ดันนิรโทษกรรมสุดซอยโยงล้มมาตรา 309 ซัด ส.ส.แดงเล่นปาหี่ ยัดผิดรัฐธรรมนูญแน่นอน “องอาจ” แนะ กมธ.เพิ่มวันแปรญัตติกฎหมายล้างผิด จี้สำนึก "ยิ่งลักษณ์ " เลิกสองมาตรฐานชุมนุมเสื้อแดง-อุรุพงษ์ ชี้กรุงเทพวุ่นเพราะรัฐบาลต้นเหตุ หยันคำพูด “ประยุทธ์” บอกแม้วไม่ได้ตังค์ไร้ความเชื่อถือ เพื่อไทยยังกล้าตระบัดสัตย์ “หมวดเจี๊ยบ” ฉวยโอกาสเสี้ยมม็อบอย่าเชื่อลมปาก “มาร์ค”

วันนี้ (23 ต.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างน้อยพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงกรณีการผลักดันออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กรรมาธิการสียงข้างมากเรียกประชุมในวันที่ 24-25 พ.ย. ว่าตนจะเข้าร่วมประชุมแน่นอน ส่วนกรณีแกนนำที่เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนออกมาคัดค้านว่าไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยอ้างว่าขอให้ช่วยประชาชนนั้น ก็เป็นเพียงแค่การเล่นปาหี่ เพราะรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายหากมีผลบังคับใช้แล้วก็ต้องใช้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ว่าด้วยความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันกับทุกบุคคล จะมาแบ่งว่าช่วยคนนั้นคนนี้หรือไม่

ทั้งนี้ ชัดเจนว่าการออกกฎหมายนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยบรรดาแกนนำและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สำคัญมีการถกเถียงถึงศักดิ์และสิทธิ์ของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กรรมาธิการเสียงข้างมากจะใช้ลบล้างคดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งโยงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 309 โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อยยืนยันแล้วว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.มาลบล้างรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่มีกรรมาธิการเสียงข้างมากออกตัวว่าเสียงข้างน้อยอย่าตัดสินแทนศาลรัฐธรรมนูญโดยการตะแบงศักดิ์ศรีของกฎหมายขนาดนั้น ทั้งที่รู้ว่าร่าง พ.ร.บ.ที่ออกจะผิดรัฐธรรมนูญก็ยังเอาใจกันสุดๆ

“ผมยืนยันว่ากฎหมายนี้ออกมาผิดรัฐธรรมนูญแน่นอน จึงอยากถามรัฐบาลว่าจงใจทำผิดกฎหมายทำไม เพิ่งมาถึงบางอ้อเมื่อเห็นข่าวเจ๊สั่งลุยโดยใช้เสียงข้างมาก แต่อย่าลืมว่าในทฤษฎีการเมือง จอห์น ล็อค นักปรัชญาการเมืองเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานทางธรรมชาติของมนุษย์ที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลที่เป็นทรราชหรืออธรรม ดังนั้น หากเรารู้ว่าเสียงข้างมาหรือรัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่สู้เราก็ทำผิดกฎหมายไปกับเขาด้วย ดังนั้นหากรัฐบาลแม้เขาจะอ้างหรือเล่นคำว่าเป็นเรื่องของสภาที่จะเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่วาระ 3 เมื่อถึงเวลานั้นเราอยู่เฉยไมได้ก็ถึงเวลาเป่านกหวีดเพื่อแสดงออกให้เห็นว่าคนในสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการออกฎหมายที่ผิดและขัดต่อหลักนิติรัฐนิติธรรรม หากทำได้ครั้งนี้หลักกฎหมายบ้านเมืองก็ไม่เหลืออะไรแล้ว” นายนิพิฏฐ์กล่าว

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งข้อความนัด ส.ส.ผู้ขอแปรญัตติในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าชี้แจงคำแปรญัตติในวันที่ 24-25 ต.ค. 2556 ไม่เป็นไปตามมติของ กมธ.ที่ได้มีมติร่วมกันก่อนหน้านี้ว่าจะเชิญให้ผู้แปรญัตติเข้ามาชี้แจงในวันที่ 31 ต.ค.และ 1 พ.ย. ซึ่งมีการประชุมสภาผุ้แทนราษฎรอยู่ด้วย ชี้ให้เห็นว่านายสามารถและ กมธ. เสียงข้างมากต้องการเร่งรัดร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งข้อเท็จจริง ส.ส.ทั้งหมดเมื่อทราบว่าไม่มีการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ก็ได้ลงพื้นและบางคนก็เดินทางไปต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโดยหลักการจะสามารถมอบหมายให้ผู้อื่นไปชี้แจงคำแปรญัตติแทนแต่ระยะเวลาเพียงแค่ 2 วัน ไม่เพียงพอต่อผู้แปรญัติร่วมกว่าร้อยคน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงขอเรียกร้องให้ทบทวน โดยเพิ่มวันแปรญัตติเพื่อเป็นเปิดโอกาสให้ผู้ที่ติดภารกิจอีกในสัปดาห์ ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งในมาตรา 3 ทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมากรวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งแนวโน้มการชุมนุมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะบานปลายยากต่อการควบคุม แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กลับออกมาเรียกร้องอย่าให้กระทบต่อคนกรุงเทพมหานคร ถือว่าไม่มีความชอบธรรม เพราะนายกรัฐมนตรีก็เคยใส่เสื้อแดงร่วมการชุมนุมกลางถนนนานนับเดือนเช่นกัน ทั้งที่ไม่ใช่การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญที่ต้องเป็นไปอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ดังนั้นอย่าได้มีความรู้สึกสองมาตรฐาน แต่ควรจะใช้ความรู้สึกเดียวกัน เพราะตราบใดที่อยุ่ภายใต้กฎเกณฑ์จะต้องเปิดโอกาสให้ผุ้ชุมนุมได้แสดงออก ส่วนที่ส่งผลกระทบต่อคนกรุงนั้นก็เกิดจากรัฐบาลได้มีการประกาศ พ.ร.บ.มั่งคงภายในราชอาณาจักรและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดจราจรในหลายเส้นทาง

นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกมาระบุยืนยันว่าผลจากการแก้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะไม่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับเงินคืนโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า คำพูดของนายประยุทธ์เชื่อถือไม่ได้และไม่มีความหมาย เพราะขนาดแกนนำรัฐบาลที่มีบทบาทมากกว่านายประยุทธ์และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายหลายครั้งว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมเท่านั้นก็ยังกล้าตระบัดสัตย์ เมื่อใดก็ตามที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำขอแก้ไขของนายประยุทธ์และทันทีที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ แน่นอนว่าบุคคลที่ไม่มีความผิดยอมจะขอเงินคืน อย่างไรก็ตาม กระบวนการที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ คือ ขบวนการแหกตา ตั้งแต่ช่วงหาเสียงว่าจะไม่นิรโทษกรรม จากนั้นพอได้เป็นรัฐบาลก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้เฉพาะประชาชนที่มาร่วมชุมนุม แต่ในวันนี้เขียนกฎหมายล้างผิดทุกกลุ่มทุกคดีรวมทั้งคดีอาญาและทุจริต

“การอภิปรายของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่าจะไม่ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการแหกตา ส.ส.ทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร และขณะนี้แกนนำรัฐบาลก็บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้รับเงินคืน รัฐบาลจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะทุกขั้นตอนรัฐบาลรับรู้และเกี่ยวข้องมาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้หากผลดำเนินการทำให้เกิดอะไรในบ้านเมืองนี้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ” นายองอาจกล่าว

อีกด้านหนึ่ง ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านรัฐบาล ระวังอย่าหลงเชื่อลมปากของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่อ้างว่าตัวเองไม่อยากได้รับการนิรโทษกรรม เพราะดูเหมือน นายอภิสิทธิ์และลูกพรรคจะค้านการนิรโทษกรรมทุกฝ่ายแค่เพียงลมปาก เพราะไม่เห็นนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะออกแรงเต็มที่ในการคัดค้านการแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการฯ ที่จะมีการนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่าย รวมทั้งตัวนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรฐมนตรีด้วย

ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าอาจมีการส่งสัญญาณให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ซอยเท้า หรือล้มมวยหรือไม่ เพราะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ก็จะได้รับการล้างผิดด้วย แต่ที่น่าเกลียดกว่านั้นก็คือ การที่นายอภิสิทธิ์ และลูกพรรคประชาธิปัตย์ กลับพูดสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ว่าถูกรัฐบาลบีบให้ยอมรับการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ทั้งๆ ที่ตัวนายอภิสิทธิ์เองก็เป็นฝ่ายกระโจนเข้าไปอยู่ในเข่งด้วยใช่หรือไม่ เพราะตัวนายอภิสิทธิ์เองก็ร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เกี่ยวข้อง และแสดงจุดยืนชัดเจนว่าขอปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมาธิการและพรรคเพื่อไทย ดังนั้น ขอให้ผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ไตร่ตรองให้ดีและอย่าเพิ่งหลงคารมนายอภิสิทธิ์ จนยอมนอนตากแดดตากฝนกลางถนน เพื่อเป็นบันไดให้คนพรรคนี้ก้าวขึ้นสู่อำนาจ โดยที่นายอภิสิทธิ์และคนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องออกแรงและไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ ตามกฎหมายต่อการกระทำของผู้ชุมนุมแต่อย่างใด

“นายอภิสิทธิ์และลูกพรรคประชาธิปัตย์อาจนั่งจิบเบียร์เชียร์อยู่ในห้องแอร์ ในขณะที่ผู้ชุมนุมทั้งเหนื่อยและเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี ซึ่งก็ยังโชคดีที่ตอนนี้นายกฯ ของประเทศไทยไม่ได้ชื่ออภิสิทธิ์ ไม่เช่นนั้นอาจมีการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมไปแล้ว เพราะถัาหันไปมองดูเหตุการณ์สลายการชุมนุมทึ่ทำให้มีคนตายนับร้อยศพ บาดเจ็บนับพันคน ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว ก็คงจะสะท้อนให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ใจเย็นและไม่ได้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ เท่านายกฯ ยิ่งลักษณ์” ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น