xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์”มือเปื้อนเลือด ตำรวจอำมหิตฆ่าประชาชน

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

กลายเป็นดินแดนมิคสัญญี ถนนรามคำแหงในวันเสาร์ที่ 30 พ.ย. นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงปะทะกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเครือข่ายคนเสื้อแดงที่ระดมคนมาชุมนุมกันที่ราชมังคลากีฬาสถาน นักศึกษาบาดเจ็บและตายหลายรายจากการถูกเสื้อแดงและตำรวจยิง

เป็นเหตุปะทะจุดแรกที่เปิดศึกระหว่างรัฐบาลโจรกับกลุ่มมวลชนผู้รักชาติต่อต้านรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติและโค่นล้มระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากประเทศ 

การที่รัฐบาลโจรแสดงท่าทีสนับสนุนเปิดทางให้คนเสื้อแดงมาชุมนุมกันในกรุงเทพมหานครเพื่อแสดงพลังสนับสนุนรัฐบาล เป็นเครื่องมือค้ำบัลลังก์ เป็นเจตนาที่ต้องการใช้ความรุนแรงเข้าสกัดมวลชนที่ออกมาประท้วง

ช่วงเย็นต่อเนื่องค่ำคืนของวันที่ 30 พ.ย. ต่อเนื่องรุ่งเช้าวันที่ 1 ธ.ค. รามคำแหง กลายเป็นดินแดนอันตราย ถนนร้างแต่เต็มไปด้วยความน่ากลัว ไม่ต่างจากเหตุการณ์แดงเผาเมืองเมื่อปี 2553 ภาพในอดีตกลับมาหลอกหลอนคนไทย

แต่น่าสังเกตว่าตัวละครกลุ่มหนึ่งมันกลับมาอีกครั้งคือ “ชายชุดดำ”
คืนวันที่30 พ.ย. มีการจับภาพได้ชัดเจนว่าชายชุดดำ ที่สวมเสื้อนักรบองค์ดำพิษณุโลกซึ่งเป็นหน่วยกองกำลังในสังกัดคนเสื้อแดงเมื่อครั้งปี 2553 ถือปืนกำลังเล็งยิงแล้วก็ภายในค่ำคืนนั้นเองก็มีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกยิงจำนวนมากและเสียชีวิตจากคมกระสุนปืน

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบและต้องถูกประณาม เพราะปล่อยให้คนเสื้อแดงมาชุมนุมในพื้นที่ล่อแหลมแทนที่จะไปชุมนุมกันนอกเมืองหลวงเพราะทราบดีว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งประจำการอยู่เป็นเพราะความหวาดกลัวจะสูญเสียอำนาจมากเกินไป ขวัญอ่อนเกินไปต้องเอาพวกตัวเองมาไว้ใกล้ๆ

ขณะเดียวกันคนเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ กองกำลังแฝง ชายชุดดำ ก็เตรียมตัวมาลุย เพราะเก็บกดบ้าคลั่งนิยมความรุนแรง มันจึงเกิดเหตุการณ์ป่าเถื่อนขึ้น มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงแสดงถึงความตั้งใจมาลุยกันเต็มที่ เมื่อเหตุชุลมุนกัน ก็ถึงเวลา ออกปฏิบัติการใช้ช่วงเวลากลางคืน ดักยิง ซุ่มยิง ลอบฆ่าประชาชน

มีรายงานว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไปกรีดทำลายรูปพ่อขุนรามคำแหงและกระทำการมิบังควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถ้าจริงดังว่าก็ต้องถามว่าหัวจิตหัวใจทำด้วยอะไร เลวทรามไร้สำนึกไม่ควรเป็นคนไทยอีกแล้ว เป็นชนวนแห่งการยั่วยุ แล้วก็ห้ำหั่นกันในที่สุด

เหตุมิคสัญญีที่รามคำแหงตำรวจเป็นตัวการสำคัญที่รับงานมาเดินแผนสังหาร พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้วผบ.ตร.กับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. “ไอ้อู๋กับไอ้แจ๊ด”รับคำสั่งมาจากรัฐบาลวางเฉยปล่อยให้นักศึกษาถูกกระทำ ไล่ต้อนไล่ฆ่าอย่างไม่มีทางสู้เพราะไม่ได้มีอาวุธพร้อมไปสู้รบปรบมือ กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่เตรียมแผนมาก่อการเสียงปืนดังลั่นทั้งคืน คาดว่าจะขนกันมาเป็นลังๆ ขาดอย่างเดียว เอ็ม 79 อาวุธที่คุ้นเคย ไม่แน่ว่าถ้าฝ่ายนักศึกษาตั้งป้อมสู้แหลก อาจได้เห็นงัดกลับมาใช้อีกหน!!

ยิ่งเมื่อดูถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบแล้วไม่ต้องพูดถึงแสดงตัวตนแอบอิงเสื้อแดงชัดเจน เป็นเสนาบดีอย่างน้อยๆ ก็ต้องดูแลประชาชนทุกคนให้มันมีความเท่าเทียม แต่นี่เปล่าเลย การกระทำสุดแสนอุบาทว์เขายิงกันเปรี้ยงปร้าง “ไอ้โต้ง”จารุพงศ์ เรืองสุวรรณรมว.มหาดไทยกลับไปขึ้นเวทีเสื้อแดงพูดปลุกระดมอย่างหน้าไม่อาย เป็นคนดูแลกลไกการปกครององค์กรท้องถิ่นทั่วประเทศ

แทนที่จะไปบริหารจัดการบ้านเมืองแต่ไปบริหารและอำนวยความสะดวกให้คนเสื้อแดง ปิดล้อมฆ่านักศึกษา บัดซบมั้ยล่ะ

เช่นเดียวกับ“ไอ้อ๋อย”จาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการแทนที่จะไปดูแลช่วยเหลือนักศึกษา กลับมาปลุกระดมเสื้อแดง รัฐมนตรีแบบนี้เลวทรามไม่รู้จะหาสัตว์อะไรมาเทียบเช่นเดียวกับ อำมาตย์เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ มันควรลาออกมาเป็นแกนนำแดงตามสันดานดีกว่าเป็นรัฐมนตรีไปก็ทำงานไม่ได้ดี มีดีอย่างเดียวปาก และเป็นคนที่ปากตรงกับใจปากก็หมา ใจก็หมา!!

รัฐบาลกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แม้จะแสดงออกว่าไม่แยแสการเคลื่อนไหวของมวลชนด้วยอาการปากกล้าขาสั่น แต่เหตุที่กำลังเผชิญอยู่ การเคลื่อนไหวด้วยมวลมหาประชาชนไปที่ไหนได้ชัยชนะที่นั่นทำให้ยิ่งลักษณ์ และฝ่ายความมั่นคง หวั่นวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆนอนไม่สนุกลุกนั่งไม่สบาย

ความเคลื่อนไหวเป็นดาวกระจายไปตามกระทรวงต่างๆ เห็นสัญญาณลางๆข้าราชการกระทรวงต่างๆ พร้อมใจกันเปิดประตูต้อนรับกลุ่มผู้ชุมนุม มอบดอกไม้นกหวีดให้กันและกัน ชนชั้นกลางในกทม. เขาเอาด้วยกับผู้ชุมนุมเกือบหมดแล้ว

วันนี้รัฐบาลเลยต้องเอาคนชนบทมาแสดงพลังคัดง้าง รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์มือเปื้อนเลือด”แล้วจะกรรเชียงตีปีกหนีไปไหนไม่ได้แล้ว กอดคอฝ่ายตำรวจเป็นเพื่อนตายและในที่สุดก็ต้องขอกำลังทหารออกมาช่วยเหลือจุดสำคัญ ที่ กปปส.ประกาศเข้ายึดในวันที่ 1 ธ.ค. เป็นเกมฉวยจังหวะเอาทหารมาเข้าพวกก่อนเพื่อสร้างความชอบธรรม

แต่ใช่ว่าทหารจะเอาด้วยกับรัฐบาลทั้งหมดยังต้องติดตามกันดูต่อไป

ชั่วโมงนี้ตำรวจกลายเป็น “ขี้ข้าม้าใช้”ของรัฐบาล เป็น “รัฐตำรวจ”โดยแท้จริงตำรวจไม่ได้อยู่ข้างประชาชนแล้ว หลับหูหลับตาฟังคำสั่งรัฐบาล ดูการแถลงข่าวของศอ.รศ. แล้วอยากจะอาเจียน พูดไปโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมไป “ปิยะอุทาโย” เหมือนเป็น “โฆษกโจร”ไปเสียแล้ว

ยุทธศาสตร์สำคัญตอนนี้ที่รัฐบาลจะต้องรักษาอำนาจรัฐไว้ จึงต้องระดมกำลังตำรวจและทหารมาเพิ่มเติมก็คือ ทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา ถ้าสูญเสียฐานที่มั่นนี้ไปรับรองรัฐบาลอยู่ลำบากแน่ในอดีตมีบทเรียนให้เห็นมาแล้ว รัฐบาลจึงสั่งตำรวจให้สาดแก๊สน้ำตาออกมาจากทำเนียบฯเข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างบ้าคลั่งเตรียมการมาถล่มใส่ประชาชนเต็มที่

ดังนั้นเดิมพันสุดท้ายก็อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลนั่นแหละ รัฐบาลมันจึงพยายามรักษาไว้สุดชีวิต ประชาชนจะประกาศชัยชนะได้ต้องยึดทำเนียบรัฐบาลให้ได้แนวรบของกองกำลังคปท.ที่พยายามบุกเข้าทำเนียบรัฐบาลมาตลอดทั้งวันอาทิตย์แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้จึงเป็นจุดตัดสินชี้ขาดชัยชนะการศึกขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณครั้งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น