ข่าวปนคน คนปนข่าว
เฉลิมเดี้ยง!! ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ถูกหามส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อค่ำวันที่ 4 ต.ค. ข่าวแจ้งว่าป่วยเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองแพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องไอซียู ทำการผ่าตัดด่วนแต่คนใกล้ชิดบอกว่าน้ำในสมองไม่เท่ากันบ้าง น้ำในหูไม่เท่ากันบ้าง พร้อมยืนยันอาการไม่น่าห่วง
ได้ยินข่าวแล้วมิตรรัก แฟนคลับตกใจ ห่วงใย ไปตามๆกัน แต่ถ้าลองไปสำรวจความเห็นบนกระดานเว็บไซต์โซเชี่ยลมีเดียแล้วปรากฏความเห็นตรงกันข้าม!! อื้ออึงไปด้วยเสียงสวดด่าสาปแช่ง ให้รีบไปกินไวน์กับ เสธ.หนั่น คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ มันก็เป็นเช่นนี้นี่เอง
อาการป่วยจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน เหลิมจะเป็นคนหรือจะกลายเป็นผักต่อไปจากนี้ยังต้องติดตาม แต่ใครบางคนนึกล่วงหน้าไปแล้วว่า ข่าวคราวการปรับครม.ที่เพิ่งเกิดขึ้น อาจจะเป็นจริงขึ้นมาแล้วก็ได้
หลังจากรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่อเค้ามีปัญหาเรื่องการถือหุ้น 2 ราย คือ วิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ “หมอบอย” สรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข
นายใหญ่หนีคดี ทักษิณ ชินวัตร ส่งซิกดังมาถึงเมืองไทยเข้าหูนายกฯ “ปูกรรเชียง”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าให้ตัดไฟต้นลมเสียดีกว่า อย่ากระเตงเอารมต.มีปัญหาไว้ในครม.กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน...
เมื่อผนวกกับการป่วยของ“เหลิม บางบอน”อาจถือโอกาสปรับครม.กันแบบสายฟ้าแลบ เพื่อให้ “จับกัง 1 เหลิม” ไปพักรักษาตัวไม่ต้องรอไปถึงสิ้นปี หรือต้นปีหน้าตามที่วางปฏิทินเอาไว้ หรือตามหลักเกณฑ์เก้าอี้ดนตรีเมื่อครบ 6 เดือน
รมต.หลายรายที่เป็นแคนดิเดตหลุดลอยไปนั่งเลี้ยงหลานเฉยๆ ที่บ้านมีอันต้องหนาวๆ ร้อนๆ ทั้งที่ช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย ฝนตกชุก ต้องเล่นเกมยื้อเก้าอี้กันอีกแล้วหรือ !!
ถ้าอาการป่วยของ “เหลิม บางบอน” เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดในสมองจริงละก็ รับประกันซ่อมฟรีว่า หายเป็นปกติยากแน่นอน และจะมีการกำเริบของอาการเกิดขึ้นเรื่อยๆ
คนป่วยเนื่องจากโรคนี้ต้องไม่อยากได้อยากมี อยากเป็น และต้องไม่กำเริบเสิบสาน จะต้องทำจิตใจและอารมณ์อยู่ในทางสายกลาง ดีใจมากก็ไม่ได้ ขุ่นมัวโมโหโกรธามากก็ไม่ดี เพราะจะไปกระตุ้นให้เลือดออกอีก
ทางที่ดีเพื่อรักษาชีวิต ไม่อยากนอนเป็นผักหรือเป็นอัมพาต ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวรับรู้เรื่องทางโลก โดยเฉพาะเรื่องราวทางการเมือง !!
สาเหตุของโรคที่เกิดขึ้น ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาการตรอมใจหรือเคียดแค้นใจ หลังถูกถูกปลดออกจากตำแหน่งรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคงกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจล้นมือล้นประเทศหรือเปล่า
มันอาจเป็นสาเหตุทำให้“น้าเหลิม”ต้องกลัดกลุ้มสุมไฟแน่นอกเรื่อยมา อีกทั้งยังถูกนักโทษหนีคดีหยามน้ำใจ ชี้หน้าด่ากราด
หากสังเกตจากพฤติกรรมช่วงหลังล้วนผิดไปจากเดิมมากมายนัก จากคนเคยร่าเริง ยืนฝอยจนลิงหลับ กลายเป็นคนพูดน้อย ต่อยก็ไม่หนัก คอการเมืองจับอาการได้ชัดเจน
ไปอยู่กระทรวงแรงงาน เงียบๆ ติ๋มๆ หลายคนแอบคิดถึงลีลาโผงผางปากกล้า ท้าตีท้าต่อยปนตลกโปฮา ในที่สุดก็เหมือนเด็กใจแตก ทำตัวเสเพลดื่มเหล้าเมามาย สูบซิการ์หนักไปหน่อย จนป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองรึเปล่า ??
กระนั้นก็ตาม แว่วข่าวล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิมไปพบนักโทษหนีคดีมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มาเก๊า พร้อมกลับมาคุยฟุ้ง “อีกไม่นานร๊อก อั๊วเป็น มท.1 แหงๆ” ไม่รู้กระโดดโลดเต้นดีใจจนมากเกินไปหรือเปล่า
จากอาการที่ทำท่าว่าจะฟุบเพราะตรอมใจกลายเป็นอาการกำเริบเสิบสานเพราะความดีใจไปเสียฉิบ
ทำไปทำมาจากสภาพตอนนี้น่าจะต้องกลับไปอยู่เป็นบางบอน 1 เฉยๆ เสียมากกว่าโอ้อนิจจัง! ชีวิตคนเราไม่มีอะไรเที่ยงแท้จริงๆ !!
มท. 1 หรือ รมว.มหาดไทย คนปัจจุบัน จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อาจยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ในใจที่แคนดิเดตมีอันต้องล้มหมอนนอนเสื่อไม่มีโอกาสมาแย่งตำแหน่งที่กอดเอาไว้ก็ได้
คนนินทหมาดูถูกเหลือเกิน สำหรับการทำหน้าที่เป็นเจ้ากระทรวงคลองหลอด แม้แต่ ส.ส.ในพรรคเดียวกันเองยังเอือมระอา รับไม่ไหวกับอาการปากดีไม่มีผลงาน ได้แต่โม้ไปวันๆ แต่การบริหารกลับไม่เดินหน้า
ซ้ำยังแต่งตั้งคนใกล้ชิดที่ลือกันให้แซ่ดว่า เข้ามาตั้งโต๊ะบริหารกิจการภายในโดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ อย่างการแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆ แม้แต่แกนนำพรรคระดับคีย์แมน ยังเหลือบตามองแล้วส่ายหน้า
อย่างน้อยๆ ก็หมดคู่แข่งไปอีกคนหนึ่ง จากสัญญาณภายในล่าสุด มท.1 อาการร่อแร่มาก ไม่น่าจะอยู่พ้นการปรับครม.คราวหน้า เพราะเทียบผลงานกับคนที่จะมาแทนใหม่แล้ว แกนนำพรรคส่วนใหญ่มองแล้วว่าน่าจะดีกว่าเดิม ทั้ง โภคิน พลกุล , ชิดชัย วรรณสถิตย์ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ดูดีมีภาษีมากกว่าทั้งนั้น
ถ้าโฟกัสเรื่องปรับครม.แล้ว โอกาสนี้เป็นจังหวะดีที่จะอ้างอาการป่วยของ “เหลิม บางบอน” กับรมต.ที่มีปัญหาเรื่องถือหุ้น ปรับครม.แบบปัจจุบันทันด่วน
แน่นอนว่า อีกคนหนึ่งที่เข้าข่ายถูกปรับออกสืบเนื่องจากเหตุการณ์ “คลิปหลุด” ก็คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม รายนี้ประวัติด่างพร้อยยังลบเลือนไม่หาย ยิ่งลักษณ์อยากจะปรับให้พ้นๆ หน้าไป เพราะที่อยู่ๆ มาก็หลายเดือนแล้วไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากหลบเลี่ยงหน้าไป หนีกระแสข่าวคาวฉาวโฉ่
กลายเป็นยิ่งลักษณ์คนเดียวที่ต้องรับหน้าเสื่อ เดินสายพบปะกองทัพสร้างความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งที่หวังใจจะให้ “บิ๊กอ๊อด” มาทำภารกิจตรงนี้ สุดท้ายก็ตายน้ำตื้น ทหารแก่อาการแย่ ส่อเค้ากลับไปเลี้ยงหลาน
แต่แว่วว่า “ทักษิณ”อยากเอา “บิ๊กโอ๋” สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม เจ้าของฉายา “ตามล่าหน้าหล่อ”กลับมาอีกหน เพียงแต่ไม่รู้จะจับวางตรงไหนดี จะยัดไว้ใส่ในกระทรวงกลาโหมดีหรือไม่ สำคัญคือต้องถามใจนายกฯปูกรรเชียง ว่า จะเอายังไง
จะหาคนมาเสียบแทนในตำแหน่งรมช. หรือจะเฟดตัวเองไปจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม แล้วให้คนที่กองทัพยอมรับนับถือมานั่งแทน แต่จับอาการแล้วจะเปลี่ยนแปลงกันตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ยิ่งลักษณ์”สู้อุตส่าห์เดินสายไปอี๋อ๋อกับกองทัพทุกหมู่เหล่าจนสนิทชิดเชื้อแล้ว คงไม่อยากให้งานเสียกลางทาง ไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึก เพราะตัวเองก็เดินมาด้วยดีอยู่แล้ว “ทักษิณ”ก็คงมองเห็น ณ จุดนี้เช่นเดียวกัน
หากจะปรับครม.กันแบบรวดเร็วคราวนี้คงต้องจับตาดูรมต.แต่ละคนที่จะเข้ามาแทน เพราะมันมีนัยยะที่คาบเกี่ยวไปถึงความคิดนึกของ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลว่ากำลังเดินแผนอะไรต่อไป !!