“จารุพงศ์” ดักคอ “ม็อบโค่นแม้ว” ทำให้รัฐล้มเหลว “พงศ์เทพ” เหน็บพวกถูกหลอกย้ำออกมาเถอะ

รมว.มหาดไทย ดักคอ “ม็อบโค่นแม้ว” มีเป้าหมายให้กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว อ้างไม่มีนโยบายเข่นฆ่าประชาชน สั่งผู้ว่าฯ อยู่นิ่งๆ สงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่เชื่อ สรส.สไตรค์กระทบงานรัฐวิสาหกิจ “พงศ์เทพ” เหน็บม็อบถูกหลอก ขอให้ออกมาเสีย งัดมุกตัวเลขท่องเที่ยวปรามอีก

วันนี้ (27 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 16.45 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย แถลงถึงกรณีที่มีประชาชนชุมนุมอยู่ตามศาลากลางจังหวัดต่างๆ ว่า จากรายงานเมื่อเวลา 15.30 น.พบว่า สถานที่ที่ไม่มีการชุมนุมใดๆ เลย มี 50 จังหวัด มีการชุมนุมบริเวณพื้นที่ศาลากลางจังหวัด 25 จังหวัด แบ่งเป็นจำนวนผู้ชุมนุมไม่ถึง 200 คน มี 11 จังหวัด จำนวนผู้ชุมนุม 200-1,000 มี 10 จังหวัด และจำนวนผู้ชุมนุมเกิน 1,000 คน 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และตรัง โดยที่สุราษฎร์ธานี ผู้ชุมนุมสามารถเข้าไปในศาลากลางได้

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเขามีความพยายามจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลนี้เป็นรัฐที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หรือรัฐที่ล้มเหลว จึงมุ่งหน้าที่จะแสดงสัญลักษณ์ไม่ให้ทุกกระทรวง หน่วยงาน และรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะเข่นฆ่าประชาชน หรือทำให้เกิดการสูญเสีย เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะมีเหตุการณ์อื่นแทรกซ้อนขึ้นมา ซึ่งตนได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งหัวหน้าส่วนราชการทุกคนให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาระดับกอง แผนก ฝ่าย และภารโรง ให้อยู่ในที่ตั้งและอย่างสงบ หากผู้ชุมนุมเข้ามาให้นั่งอยู่กับโต๊ะเฉยๆ แล้วเป็นอย่างไรเป็นกัน เชื่อมั่นว่าผู้ชุมนุมจะไม่ทำอะไร เพราะเราจะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนที่เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์นัดหยุดงานวันที่ 28-29 พ.ย.นั้น คงจะส่งผลกระทบหากมีการหยุดงานจริง แต่กฎหมายรัฐวิสาหกิจมีชัดเจน หากจะสไตรค์หรือหยุดงาน แต่งานจะต้องเดินได้ เพราะหากงานเดินไม่ได้จะเป็นผลกระทบอย่างร้ายแรง ซึ่งตนยังเชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น

อีกด้านหนึ่ง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี แถลงว่า การชุมนุมในขณะนี้ถือว่าเกินกว่าการใช้สิทธิ์และเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และศาลได้ออกหมายจับแกนนำแล้ว จึงขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าเข้าร่วมกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย สำหรับผู้ที่ถูกหลอกให้เข้าไปแล้ว ก็ขอให้ออกมาเสีย เพราะนอกจากจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่น สำหรับประชาชนที่จะต้องเดินทางไปติดต่อราชการ แต่ไม่ได้รับความสะดวกสามารถประสานได้ทางหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1111

อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานผลกระทบจากการชุมนุมในพื้นที่ราชการขณะนี้ส่งผลให้การท่องเที่ยวลดลง 8-10% หรือประมาณ 3 แสนราย หากการชุมนุมยังยืดเยื้อไปจนถึงเดือน ธ.ค.จะเกิดผลกระทบสร้างความเสียหายถึง 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไม่เฉพาะผู้ประกอบการ แต่จะกระทบกับผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งไกด์ คนขับรถ และผลการชุมนุมอาจจะต่อเนื่องไปถึงเดือน ม.ค.และ ก.พ.รายได้ที่จะเข้าประเทศก็จะหายไปอีกหลายหมื่นล้านบาท ก็จะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนว่าอย่าเข้ามาชุมนึมจนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเลย

อย่างไรก็ตามการเข้าไปในสถานที่ราชการในพื้นที่ภาคใต้ ยังสามารถประสานพูดคุยกันได้ ยังไม่ถึงขั้นประกาศเป็นพื้นตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่อย่างใด เพราะเป็นการแสดงในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น