xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” นำทัพค้างศูนย์ราชการ 1 คืน - กปท.ยังล้อมพลังงาน 4 กลุ่มราชดำเนินกลับที่ตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุเทพ” เคลื่อนทัพเข้าศูนย์ราชการพักค้าง 1 คืน ด้านเวทีราชดำเนิน “สาทิตย์” แย้มแบ่ง 3 ทีมลุย 6 กระทรวง เผยแกนนำแจ้งเรื่องสำคัญคืนนี้

วันนี้ (27 พ.ย.) เวลา 09.26 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ ประกาศบนเวทีราชดำเนิน ขอให้ข้าราชการมาร่วมกับประชาชน โดยนายสุเทพจะมีเรื่องสำคัญประกาศในคืนนี้ ส่วนขบวนในวันนี้จะแบ่งอย่างน้อย 3 ขบวน มีแกนนำนำไป ซึ่งมีรายงานว่าจะเดินทางไปกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 1 กลุ่ม, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงอุตสาหกรรม 1 กลุ่ม และกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข อีก 1 กลุ่ม

เวลา 09.30 น. เวที คปท.ที่บริเวณแยกนางเลิ้งยังไม่มีการเคลื่อนไหว มวลชนยังคงพักผ่อนและทำกิจวัตรส่วนตัวในช่วงเช้า บนเวทีไม่มีการปราศรัยใดๆ ในส่วนของแกนนำยังไม่ได้เดินทางมาที่ชุมนุม

เวลา 09.36 น. ขบวนจากกระทรวงการคลังเดินมาถึงบริเวณย่านสะพานควาย โดยนายสุเทพกล่าวย้ำระหว่างเดินว่า การไปศูนย์ราชการเพื่อต้องการให้ข้าราชการยืนข้างประชาชน เลิกรับใช้ระบอบทักษิณ ทั้งนี้ตนมีกำลังใจเยี่ยม และมั่นใจจะชนะใน 1-2 วันนี้ ขอเชิญพี่น้องลุกขึ้นกันทั่วประเทศ อย่าให้การต่อสู้ของประชาชนต้องสูญเปล่า อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่านายสุเทพมีน้ำเสียงที่แหบแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด

เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมจากกระทรวงการคลังบางส่วนได้เดินทางไปด้านหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเป่านกหวีดและเรียกร้องให้ข้าราชการหยุดการทำงานให้กับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบและไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นและกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่กระทรวงแต่อย่างใด ด้าน ผู้บริหารกระทรวง ไม่ได้มีคำสั่งให้มีการดูแลพื้นที่เป็นพิเศษ และหากผู้ชุมนุมเดินทางมาก็พร้อมเปิดประตูให้เข้ามาโดยดีถ้ามาอย่างสันติ

เวลา 10.06 น. หัวขบวนของนายสุเทพมาถึงบริเวณสวนจตุจักรแล้ว ขณะที่เวทีราชดำเนินยังคงปลุกเร้าประชาชนให้มาสมทบเพื่อเดินขบวนกันอย่างต่อเนื่อง

เวลา 10.41 น. มีรายงานว่ากระทรวงแรงงานได้สั่งให้ข้าราชการเดินทางออกจากกระทรวงแล้ว ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงานได้เดินทางเข้าสภาฯ สยบข่าวป่วยแล้ว

เวลา 10.42 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการอพยพออกจากพื้นที่ ภายหลังมีรายงานว่ากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย จะมาบุกยึดกระทรวงอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่ม คปท.ได้ถอนตัวไปเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) นอกจากนี้ยังได้มีการนำรั้วแผงเหล็กกั้นรวมถึงแบร์ริเออร์มาวางเสริมรอบกระทรวง และให้เข้าออกได้เพียงทางเดียว คือ บริเวณประตูทางเข้าฝั่งโรงพยาบาลรามาธิบดี อีกทั้งยังได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1 กองร้อยรักษาความปลอดภัย

เวลา 11.00 น.ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประกาศเสียงตามสายในอาคาร ขอให้ข้าราชการทุกคนกลับบ้าน โดยได้ให้ทยอยออกทางประตู 2 และได้มีการประสานไปยังเรือด่วน เพื่อให้มารับข้าราชการของกระทรวงฯ ส่วนรถยนต์ยังไม่สามารถนำออกไปได้หลังจากที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเดินทางมายืนรอขบวนที่กระทรวงตั้งแต่ช่วง 10.00 น.โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ทำการปิดประตูเข้าออกของกระทรวงประตู 1 และประตู ซึ่งมวลชนได้ยืนเป่านกหวีดด้านหน้ากระทรวงฯ ทางประตู 1 และมีข้าราชการบางส่วนมายืนเป่านกหวีดด้านใน และตะโกนเรียกให้ผู้ชุมนุมเข้ามา แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ ทั้งนี้ มีข้าราชการมาสังเกตการณ์เป็นระยะ และมีข้าราชการบางส่วนนำน้ำไปแจกให้ผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมมีทั้งเป่านกหวีด และตะโกนไล่ “ณัฐวุฒิ...ออกไป”

ขณะที่นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งระบุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลและป้องกันทรัพย์สินของทางราชการอย่างดีที่สุด และขอให้ข้าราชการพูดจากับผู้ชุมนุมอย่างสุภาพ รวมถึงหากผู้ชุมนุมต้องการพบผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงพาณิชย์ ตนก็พร้อมจะไปพูดคุย โดยผู้บริหารแต่ละกรมในสังกัดได้สั่งข้าราชการเก็บไฟล์ข้อมูลการทำงานที่จำเป็นไว้ในแฟลชไดรฟ์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานจากที่บ้านหากมีการปิดล้อมกระทรวงจริง

เวลา 11.07 น. ขบวนของนายสุเทพ เดินทางมาถึงบริเวณหน้าอาคาร ปตท.แล้ว โดยแกนนำทั้งนายถาวรเสนเนียม และนายชุมพล จุลใส ได้สั่งให้ตั้งขบวนกันใหม่ก่อนที่จะเคลื่อนผ่านกระทรวงพลังงานไป โดยในจุดดังกล่าวไม่ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดล้อมไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่กระทรวงการคลังยังคงมีนายวิทยา แก้วภราดรัย เป็นแกนนำเฝ้าเวทีอยู่

เวลา 11.10 น. เวทีราชดำเนินได้ปล่อยขบวน 3 ทัพแล้ว โดยขบวนที่ 1 นำโดยนายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปยังกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขบวนที่ 2 นำโดยนายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เดินเท้าไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนขบวนที่ 3 นำโดยนายทศพล เพ็งส้ม อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายถนอม อ่อมเกตุพล ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย เคลื่อนรถกระบะกว่า 30 คันไปยังกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข

นายสาทิตย์กล่าวว่า ขบวนทั้งหมดจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในช่วงค่ำของวันนี้ เพื่อรอฟังคำประกาศมติสำคัญในการต่อสู้ล้มระบอบทักษิณที่เวทีราชดำเนิน ทั้งนี้ แต่ละขบวนมีการทำความเข้าใจร่วมกันแล้วว่าจะไม่บุกรุกเข้าไปยังกระทรวงเป้าหมายเด็ดขาด เว้นแต่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ ข้าราชการกระทรวงนั้นๆ เปิดประตูให้เข้าไป โดยเป้าหมายหลักคือมอบดอกไม้ และนกหวีดให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น และจะถือว่าภารกิจบรรลุเป้าหมายแล้ว

เวลา 11.12 น. ร.ต.อ.เฉลิมแถลงข่าวที่รัฐสภายืนยันยังแข็งแรง แพทย์นัดอีก 2 เดือนไปสแกนสมองอีกครั้ง เหตุเลือดในสมองข้างขวายังไม่ปกติ

เมื่อเวลา 11.30 น. นายสุรชัย ศรีสาราคาม ปลัดกระทรวงไอซีที ซึ่งได้รับมอบหมายจากน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ประเมินสถานการณ์ มีคำสั่งให้ข้าราชการทุกคนกลับบ้านได้ เนื่องจากประเมินว่า สถานการณ์การชุมนุมเต็มพื้นที่ศูนย์ราชการ อาจส่งผลกระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยได้ ทั้งนี้หลังมีคำสั่งบริเวณศูนย์ราชการมีประชาชนมีทั้งส่วนที่รีบกลับบ้าน และยังอยู่เพื่อสังเกตการณ์และรอร่วมชุมนุม

เมื่อเวลา 11.35 น. นายณัฏฐพล และนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันฑ์ นำมวลชนเดินทางมาถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีนายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงมาให้การต้อนรับ นายณัฐพล กล่าวว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้เพื่ออยากจะขอให้ข้าราชการทุกคนได้ร่วมเดินทางต่อต้านระบบทักษิณไปพร้อมกับพวกตน และอยากให้ข้าราชการทุกคนยืนอยู่ข้างประชาชน ทั้งนี้มวลชนที่ไปร่วมชุมนุมนั้นต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องการให้ประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการมาครั้งนี้เป็นการมายื่นไมตรีจิตร ที่ผ่านมาการบริหารประเทศประสบปัญหาอย่างมากถึงเวลาที่ประชาชนจะมาร่วมกันเขียนกติกาใหม่ให้ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกตัวแทนที่แท้จริง ตนจึงอยากให้ข้าราชการใช้จิตสำนึก สมอง ตรวจสอบสิ่งที่แกนนำพูดว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยการนำมวลชนในครั้งนี้ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะให้พรรคประชาธิปัติย์บริหารประเทศ แต่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ ทั้งนี้การชุมนุมจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีประชาชนยืนเคียงข้าง

จากนั้นได้มีตัวแทนม็อบม็อบนกหวีดขนาดใหญ่ให้แก่นายเลิศปัญญา พร้อมร่วมกันเป่านกหวีดเป็นระยะ และตะโกนว่า "ออกไปๆ" ด้านข้าราชการได้ออกมาให้การต้อนรับด้านหน้ากระทรวงพร้อมด้วยโบกมือ ส่งเสียง และเป่านกหวีดเพื่อเป็นการให้กำลังแก่ผู้ชุมนุม โดยก่อนหน้านี้มีตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 30 นาย เข้ามาประจำการแต่ไม่ได้มีการปิดประตู

เวลา 11.45 น. นายพุทธิพงษ์ ได้นำมวลชนมาถึงกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเข้าเจรจากับ นายพสุ โลหารชุน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ขอความร่วมมือข้าราชการให้หยุดงาน 1 วัน เพื่อร่วมชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้คืนอำนาจให้กับประชาชน ขณะที่รองปลัดขอเจรจาหารือกับผู้บริหารกระทรวงก่อน โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ปิดประตูใหญ่ทางเข้าบริเวณหน้ากระทรวง เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเคลื่อนพลของกลุ่มผู้ชุมนุม

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้นายพสุ เป็นผู้ติดตามสถานการณ์ม็อบในวันนี้ โดยกำชับให้ดูแลพร้อมเจรจาด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ต่อต้านหรือแข็งขืนแต่อย่างใด พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เวลา 12.00 น. มีรายงานว่า น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำขบวนมวลชนจากราชดำเนิน ไปยังกระทรวงวัฒนธรรม ย่านปิ่นเกล้า

เวลา 12.02 น. ที่อาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (เอ็นโก้) ที่ตั้งกระทรวงพลังงาน และอาคารสำนักงานบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) กลุ่มผู้ชุมนุม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กปท.นำโดยพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เเกนนำได้เดินทางด้วยรถบรรทุกเเละ รถกระบะ รถตู้บรรทุกผู้ชุมนุมจำนวนหลายสิบคันเดินทางมาปิดประตูทางเข้าออก โดยมีผู้ชุมนุมบางส่วนที่มายืนรอหน้ากระทรวงพลังงานอยู่เเล้ว ซึ่งต่างเป่านกหวีด เเละตะโกนโห่ร้องพร้อมใช้มือตบต้อนรับรวมถึงพนักงาน ของกระทรวงพลังงานบางส่วนที่มีการพกนกหวีดเเละมีสายคล้องคอด้วย

จากนั้นเเกนนำกล่าวโจมตีรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องทุจริตเชิงพลังงานพร้อมปราศรัยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานเปิดประตูให้ เพื่อออกไปโดยสัญญาว่าจะไม่บุกรุกเข้าไปเเต่จะเเค่ปิดล้อมไว้เฉยๆ พร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่หยุดงานเเละให้เดินทางกลับบ้านไม่ตกเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณโดยเจ้าหน้าตำรวจกว่า 100 นายควบคุมสถานการณ์ เเละป้องกันประตูของกระทรวงพลังงานอย่างหนาเเน่นโดยได้เเจ้งให้พนักงานที่จะออกนอกพื้นที่กลับเข้าไปข้างในเพื่อความปลอดภัยเเละมีการยกระดับการณ์ควบคุมสถานการณ์เป็นระดับสูงสุดไม่อนุญาติให้มีการเข้าออกภายในพื้นที่อย่างเด็ดขาด

โดยนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวระหว่างปฏิบัติราชการที่รัฐสภา ว่า แม้ผู้ชุมนุมประกาศปิดล้อมกระทรวงพลังงาน แต่ตนยังไม่มีคำสั่งให้ขัาราชการกลับบ้าน เพราะเกรงจะเสียหายต่อระบบราชการ ดังนั้น จึงให้ผู้บริหารแต่ละกรมประเมินสถานการณ์และใช้ดุลพินิจว่าจะให้ข้าราชการบางส่วนกลับหรือไม่พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผู้การนราธิวาส ผู้รับผิดชอบสถานการณ์ ได้แจ้งผ่านโทรโข่งให้พนักงานเครือปตท.และข้าราชการกระทรวงพลังงานกลับเข้าพื้นที่อาคารเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่ทางด้านขบวนของนายทศพล ก็เดินทางไปถึงหน้ากระทรวงพาณิชย์แล้วเช่นกัน

เวลา 12.05 น. มีรายงานว่า น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.เดินทางไปที่ศาลอาญายื่นคำร้องขอศาลไต่สวนคำร้องขอออกหมายจับกรณีชุมนุมในกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่ศอ.รส.สั่งตำรวจขอหมายจับเพิ่ม นายสาทิตย์, นายสำราญ รอดเพชร, น.ส.อัญชลี ไพรีรัก กรณีปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย ข้อหาปลุกปั่นให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน พร้อมเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.อัญชลี และนายสำราญ คดีปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2551

พร้อมขอศาลออกหมายจับ นายนิติธร, นายอุทัย ยอดมณี และนายรชตชยุต ศรีโยธินศักดิ์ (อมร อมรรัตนานนท์) กรณีชุมนุมในกระทรวงการต่างประเทศ ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10คนขึ้นไป บุกรุก และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ขณะที่ความผิดในลักษณะเดียวกัน เช่นบุกรุกกรมประชาสัมพันธ์ ศาลากลางจังหวัดต่างๆ ให้ดำเนินการขอหมายจับในลักษณะเดียวกัน

เวลา 12.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงกระทรวงแรงงาน โดยนำรถปราศรัยมาจอดขวางหน้ากระทรวง เพื่อร้องขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม มาพบหรือส่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาเจรจา ซึ่งถ้าไม่มีใครมาพบก็จะรอปักหลักชุมนุมอยู่เช่นนี้ โดยล่าสุดนายอิสสระได้สั่งให้ผู้ชุมนุมนั่งรออยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นไปได้ว่าถ้าไม่ได้รับการตอบสนองจะปีนรั้วเข้าไป โดยมีข้าราชการภายในกระทรวงนำน้ำมาแจกด้วย

ขณะที่ในช่วงเช้าได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งมารอขบวนตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมีบุคคลอ้างเป็นแม่ค้าเดินเข้ามาก่อกวนจนถูกการ์ดของผู้ชุมนุมเชิญตัวออกไป ทั้งนี้หลังจากที่มวลชนได้ปิดล้อมก็มีข้าราชการบางส่วนปีนรั้วออกมาด้วย

เวลา 12.44 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ตรึงกำลังบริเวณโดยรอบกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะประตูทางเข้าออกทุกด้านได้ถูกปิด ห้ามบุคลคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายใน โดยมีการวางกำลังป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไป ภายหลังจากเวทีราชดำเนินประกาศเป็น 1 ในเป้าหมาย โดยในส่วนของกระทรวงได้สั่งข้าราชการออกจากพื้นที่ แต่ยังมีจำนวนหนึ่งที่ยังคงตกค้างและไม่สามารถนำรถยนต์ออกมาได้ ทั้งนี้บรรยากาศค่อยข้างเงียบเหงามีข้าราชการเริ่มทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ ขณะที่ร้านค้าและร้านอาหารภายในกระทรวงบางร้านไม่เปิดให้บริการ

เวลา 12.49 น.ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายพสุ ได้แจ้งผลการหารือกับ นายวิฑูรย์ ให้กับนายพุทธิพงษ์ แกนนำได้ทราบว่า กระทรวงได้มีคำสั่งให้ข้าราชการเดินทางกลับบ้านได้ หลังจากที่ทางแกนนำผู้ชุมนุมได้เรียกร้องให้กระทรวงหยุดงาน 1 วันเพื่อให้ข้าราชการมาร่วมชุมนุมกับประชาชน ขณะที่นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การพิจารณาให้ข้าราชการหยุดงานในวันนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนคนเดียว สะท้อนให้เห็นว่าระบบข้าราชการไทยไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ถ้าปลัดฯ ไม่เป็นผู้ออกคำสั่ง ทั้งนี้ผู้ชุมนุมต้องการให้ข้าราชการมีส่วนร่วมในการชุมนุมและขอร้องไม่ให้เอาผิดกับข้าราชการที่ออกมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามเมื่อกระทรวงอุตฯได้ประกาศให้ข้าราชการหยุดงานได้อย่างเป็นทางการ กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อ

เวลา 12.59 น.ที่กระทรวงสาธารณสุข ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กลุ่มเครือข่ายผู้ป่วย ได้ออกมาชุมนุมรอรับขบวนจวกเวทีราชดำเนิน โดยมีตำรวจชุได้ทำการปิดประตูกระจกทางเข้าอาคารสำนักงานปลัด สธ. ทำให้มีเสียงตะโกนต่อว่าจากข้าราชการว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดประตูเพื่อเอาแอร์

ทั้งนี้ ข้าราชการได้เริ่มชุมนุมภายหลังพิธีวางพานพุ่มกรมพระยาชัยนาทนเรนทร ในเวลา 11.00 น. ซึ่งทยอยออกมารวมตัวกันเดินขบวนไปรอบกระทรวงฯ พร้อมเป่านกหวีด และตะโกนว่า “ออกมา” เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการ สธ.ออกมาร่วมชุมนุม และเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนการเดินทางมาของกลุ่มผู้ชุมนุม ท่ามกลางการเฝ้าดูแลความสงบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจาก จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 กองร้อยมือเปล่า ซึ่งระหว่างนั้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ สธ.ได้ตะโกนใส่กลุ่มตำรวจว่า “ให้ทำงานรับใช้ประชาชน” แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ขณะที่ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.ไม่ได้อยู่ประจำกระทรวงฯ แล้ว

มีรายงานว่า นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ส.ว.สรรหา ได้ขึ้นปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ได้เดินทางมาเป็นคณะกรรมการตัดสินรางวัลกรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งชื่อรางวัลดังกล่าวเป็นนามที่ได้รับพระราชทานจากในหลวง วันนี้เห็นพี่น้องมาร่วมชุมนุมจำนวนมากจึงอยากให้กำลังใจ และอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสเลือกผู้บริหารที่ดี มาทำประโยชน์พื่อประเทศชาติ

ขณะที่ นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า น่าเสียดายที่กระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่คนดีไม่เคยมีอำนาจ โดยมาเฟียกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับนักการเมือง และหมอพานิชย์ เอาชีวิตผู้ป่วยมาเป็นเครื่องมือโดยตำรวจ ทั้งนี้ หวังว่าวันนี้จะเป็นวันปฏิรูป เป็นศักราชหน้าใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขให้คนดีได้ขึ้นครองอำนาจ และขอให้ข้าราชการเลิกพายเรือให้โจรนั่งได้แล้ว

เวลา 13.00 น. น.ส.จิตภัสร์ นำมวลชนจากราชดำเนินเดินมาถึงกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อให้กำลังใจข้าราชการหยุดทำงานให้ระบอบทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นโมฆะ หมดความชอบธรรมตั้งแต่ไม่รับคำตัดสินศาลัฐธรรมนูญแล้ว ขณะที่กระทรวงพลังงาน รถปราศรัยเวที กปท.ได้ประกาศให้ข้าราชการออกมาจากภายในกระทรวง

เวลา 13.18 น. น.ส.อัญชลีขึ้นเวทีราชดำเนิน โจมตี ศอ.รส.หลังขอศาลออกหมายจับ โดยยืนยันว่า ตน นายสาทิตย์ และนายสำราญจะยังอยู่ที่เวทีไม่หนีไปไหน

เวลา 13.20 น. นายสุเทพเคลื่อนมวลชนเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าสู่ศูนย์ราชการ โดยมีพนักงาน บ.ทีโอที รวมทั้งชาวบ้าน โบกมือเป่านกหวีดให้กำลังใจจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศรอบศูนย์ราชการมีกลุ่มมวลชนที่ล่วงหน้ามาก่อนขบวนของนายสุเทพ ปักหลักอยู่อย่างหนาแน่น ทั้งนี้ทางหน่วยงานในศูนย์ราชการ และดีเอสไอ ได้อนุญาติให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการเดินทางกลับบ้านแล้ว นอกจากนี้ยังพบนายกนก รัตนวงศ์สกุล และนายธีระ ธัญไพบูลย์ สองผู้ประกาศข่าวจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเนชั่นแชแนล มาร่วมให้กำลังใจมวลชนด้วย

เวลา 13.29 น. มีรายงานว่า กลุ่มมวลชนนำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ที่รวมตัวกันอยู่บริเวณถนนสีลม กำลังเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อมอบดอกไม้และให้กำลังใจ

เวลา 13.40 น. ที่กระทรวงแรงงงาน มวลชนได้ทยอยออกจากด้านหน้าประตูรั้วกระทรวงเพื่อไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว หลังจากที่นายพีระพัฒน์ พรศิริเลิศกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ยอมออกมาเจรจากับนายอิสสระ ซึ่งทางแกนนำได้มอบดอกไม้ นกหวีดให้ พร้อมกับร้องขอให้เลิกรับใช้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมทำให้ระบบคุณธรรมหมดไป และเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศไทย ให้ข้าราชการมาร่วมต่อสู้ ก่อนประกาศชัยชนะโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

เวลา 13.55 น.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายถนอม ได้ประกาศว่า ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว และขอให้ผู้ชุมนุมที่ สธ. ไปร่วมชุมนุมต่อที่ ถ.ราชดำเนิน และ กระทรวงการคลัง และขอให้ข้าราชการที่เข้ามาร่วมชุมนุมทำงานให้ช้าลง เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อผู้บริหารที่รับใช้ระบอบทักษิณ หลังจากที่นำมวลชนเดินทางมาถึงเมื่อช่วงบ่าย ที่หน้าสำนักงานปลัด สธ. โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนคุมเข้มภายในอาคารสำนักงานปลัดสธ. ไม่ให้ผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เข้าไปด้านในได้ โดยนายถนอม ได้กล่าวปราศรัยโจมตีระบอบทักษิณ รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และโจมตี นพ.ประดิษฐ ว่าเป็นนักธุรกิจ ที่เข้ามารับใช้ระบอบทักษิณ เพื่อหากำไรเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้ ผู้บริหารและข้าราชการ เลิกรับใช้ นพ.ประดิษฐ และรัฐบาลชุดนี้

เวลา 14.03 น. น.ส.จิตภัสร์ นำมวลชนมาถึงหน้ากระทรวงวัฒนธรรมแล้ว โดยมีชาวฝั่งธนบุรี พนักงาน และข้าราชการออกมารอต้อนรับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร ทั้งนี้ บนรถปราศรัยได้มีการแจ้งว่าได้ประสานกับข้าราชการในการรับมอบดอกไม้แล้ว

เวลา 14.11 น. บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ขณะนี้ได้ถูกมวลชนล้อมเอาไว้ทั้งหมด แต่ขบวนของนายสุเทพยังเข้ามาไม่ถึงบริเวณนี้ เนื่องจากมีมวลชนจำนวนมาก และการจราจรภายในศูนย์ราชการติดขัดอย่างหนัก ทั้งบริเวณด้านในอาคารมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอยู่ประมาณ 1 กองร้อย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ด้านในยังมีการจับกลุ่มยืนดูมวลชนอยู่โดยรอบเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าภายในอาคารศูนย์ราชการได้มีข้าราชการจับกลุ่มกันภายในตึก พร้อมปราศรัยเพื่อรอรับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกด้วย

เวลา 14.44 น.ขบวนมวลชนนายสุเทพ ได้เคลื่อนมาถึงหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว โดยก่อนหน้านี้ผู้ชุมนุมได้นำแผงรั้วเหล็กที่กั้นด้านหน้าราว 50 เมตรอาคารออกไป เพื่อเข้ามาในพื้นที่

เวลา 14.53 น.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้กล่าวบนเวทีปราศรัย ภายหลังรับทราบว่าศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอรส.) ออกหมายจับแกนนำเพิ่มเติมอีก 6 คน โดยยืนยันว่าไม่กลัว จะยืนต่อสู้เคียงข้างกับประชาชน ไม่ไปไหน ตนเคารพกฎหมาย แม้กระทั่งทำผิดกฎหมายจราจรก็ยังไม่เคย ดังนั้น ตนจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ซึ่งกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

เวลา 15.05 น.ผู้ชุมนุมที่กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศชัยชนะหลังจากที่ นายเขมชาติ เทพไชย ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเป็นตัวแทนออกมารับพวงมาลัยและนกหวีด จาก น.ส.จิตภัสร์ พร้อมทั้งร่วมเป่านกหวีดต่อหน้ามวลชนและได้ให้คำมั่นว่าจะเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะะทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ขณะที่มวลชนต่างพอใจและยอมเดินทางกลับพร้อมประกาศชัยขนะตลอดทาง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ น.ส.จิตภัสร์ ได้ขึ้นปราศรัยเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงออกมารับพวงมาลัย และนกหวีดเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าข้าราชการจะอยู่เคียงข้างประชาชน และไม่อยู่ใต้อำนาจของระบอบทักษิณ ทั้งนี้ โดยช่วงแรกไม่มีใครออกมารับ น.ส.จิตภัสร์ จึงได้ประกาศว่าจะปักหลักที่นี่จนกว่าจะมีตัวแทนออกมารับ โดยปราศรัยโจมตีการทำงานที่ทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลอีกทั้งได้โจมตีการประเมินจำนวนมวลชนที่หน้ากระทรวงจากรัฐบาลที่ระบุว่ามีเพียง 300 คน ซึ่งแกนนำได้ขอให้มวลชนที่นี่ส่งเสียงยืนยันว่ามีปริมาณมากกว่าที่รัฐบาลประเมินพร้อมกล่าวโจมตีว่าขนาดนับเลขยังนับไม่ถูกแล้วจะบริหารประเทศได้อย่างไร

มีรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้สั่งให้ข้าราชการและพนักงานทยอยกลับบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายโดยให้ทยอยออกทางประตูด้านหลัง ขณะที่ข้าราชการเปิดเผยว่า มีคำสั่งให้หยุดงานตั้งแต่วันที่27 - 29พ.ย.นี้

เวลา 15.10 น.รถปราศรัยนายสุเทพ หยุดที่หน้าอาคารบี ศูนย์ราชการ เพื่อเชิญชวนข้าราชการร่วมชุมนุม ขณะที่มวลชนล้นเข้ามาอยู่โดยรอบบริเวณอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวนมาก

เวลา 15.25 น.บรรยากาศการชุมนุมคปท. ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง เป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อขบวนผู้ชุมนุมที่นำโดยนายอิสสระ ได้เคลื่อนขบวนผ่านไปทำกิจกรรมยังกระทรวงแรงงาน ผู้ชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเป่านกหวีด พร้อมส่งเสียงโห่ร้อง และโบกมือตบให้กำลังใจกันและกันตลอดเวลา และผู้ชุมนุมบางส่วนของกลุ่ม คปท. ก็ได้ร่วมเดินขบวนไปด้วย อย่างไรก็ตามการชุมนุมยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อนเก็บแรงไว้รอร่วมกิจกรรมใหญ่ของ คปท. ในวันที่ 28 พ.ย.

ทั้งนี้ นายนิติธร ยืนยันว่า วันนี้ (27 พ.ย.) จะมีการเรียกระดมมวลชนมาสมทบกับกลุ่ม คปท. ให้มากที่สุด เพื่อเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ในวันที่ 28 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม มีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะโดยมีการกำชับให้มวลชนเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการเคลื่อนไหวด่วน ส่วนกรณีศอ.รส. ขออนุมัติศาลออกหมายจับตน นายอุทัย และ นายรัชต์ยุตม์นั้น ตนยืนยันว่า ยังไม่มีการออกหมายจับ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล เพราะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.พวงทิพย์ ได้เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอออกหมายจับกรณีดังกล่าวด้วย

เวลา 15.50 น.มีรายงานว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มีมติให้สมาชิก 45 สหภาพหยุดงาน 28 - 29 พ.ย.56 ร่วมชุมนุมต้านรัฐบาลทั่วประเทศ

เวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนไปยังกระทรวงต่างๆในช่วงเช้าได้เริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าพื้นที่ชุมนุม โดยเมื่อขบวนผู้ชุมนุมต่างๆเคลื่อนเข้าพื้นที่ ผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ได้ปรบมือพร้อมเป่านกหวีดต้อนรับ ทั้งนี้เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆกลับเข้าพื้นที่ยังได้มีการแจ้งให้แก่ผู้ชุมนุมทราบด้วยว่าภารกิจสำเร็จ ส่งผลให้บรรยากาศในช่วงเย็นคึกคักขึ้น

ขณะที่บนเวทีปราศรัยยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งการปราศรัย การแสดงดนตรี รวมทั้งการแจ้งข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การเคลื่อนขบวนในจุดต่างๆว่าสถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไรเป็นระยะ อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงนั่งฟังการปราศรัยอยู่บริเวณด้านหน้าเวทีปราศรัย แต่ก็ได้มีผู้ชุมนุมอีกส่วนนั่งฟังการปราศรัยบริเวณด้านหลังเวทีด้วย นอกจากนี้ตั้งแต่ช่วงบ่ายได้มีประชาชนกลุ่มต่างๆได้เดินทางน้ำสิ่งของมาบริจาคเป็นระยะ

เวลา 16.15 น.ผู้ชุมนุมที่เดินทางไปกระทรวงวัฒนธรรม และกลุ่มที่เดินเท้าไปกระทรวงแรงงงานและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินกลับมาถึงเวทีราชดำเนินแล้ว พร้อมประกาศได้รับชัยชนะหลังจากไปเยี่ยมทั้ง 3 กระทรวง

เวลา 16.19 น.นายสุเทพ ขึ้นรถปราศรัยบอกมวลชนไม่ได้ตั้งใจจะเข้าอาคารบี ศูนย์ราชการ แต่มีคนเชิญให้เข้า ซึ่งวันนี้จะพักค้างที่นี้ ทั้งนี้ภายใน 17.00 น. ขอให้ตำรวจที่ประจำการออกจากอาคาร และหากยังอยู่ก็จะถือว่ารับใช้ระบอบทักษิณ เป็นศัตรูของแผ่นดิน ซึ่งภายหลังเวลาที่กำหนด ตนและมวลชนจะเข้าไปภายในอาคาร พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ส่วนข้าราชการที่ต้องการทำงาน ก็สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยกลุ่มมวลชน จะไม่ทำร้าย แต่จะขอตรวจบัตรประจำตัว และชื่อ ก่อนจะเข้าไปภายในอาคาร และจะสับเปลี่ยนพักค้างคืนให้ครบทุกหน่วยงานภายในศูนย์ราชการ

โดยก่อนหน้านี้ นายสุเทพ ได้เดินเข้าไปทักทายและเยี่ยมข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ของ ศูนย์ราชการ อาคารบี โดยการปราศรัย และประกาศเชิญชวน ให้ข้าราชการมาร่วมชุมนุม ต่อต้านระบอบทักษิณก่อนที่จะขึ้นปราศรัยบนเวที

เมื่อเวลา 16.40 น.ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายสาทิตย์ ปราศรัยว่า ขอบคุณมวลชนที่เมื่อคืนนี้ (26พ.ย.) ระดมกันออกไปยังกระทรวงการคลังและช่วยป้องกันนายสุเทพ ไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม รวมทั้งการเคลื่อนขบวนหลายจุดที่ได้รับชัยชนะกลับมา ขณะเดียวกันสถานการณ์ขณะนี้นายสุเทพ ได้นำมวลชนไปปิดล้อมที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะแล้ว อย่างไรก็ตามในคืนนี้จะมีการถ่ายทอดสดความเคลื่อนไหวของจุดหลัก 3 เวทีคือ 1.เวทีหลักที่ ถ.ราชดำเนิน แห่งนี้ 2.เวทีกระทรวงการคลัง และ3.เวทีที่ศูนย์ราชการ

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ขอให้มวลชนจับตาการแถลงของนายสุเทพ ในคืนนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีการประกาศท่าทีต่อรัฐบาลครั้งใหญ่ ส่วนกระแสที่ว่าสน.สำราญราษฎ์มีการออกหมายจับแกนนำสามคนประกอบด้วย น.ส.อัญชลี ,นายสำราญ และตนนั้น จากการตรวจสอบทราบข้อเท็จจริงมาว่ายังไม่มีการยื่นเรื่องให้ศาลอนุมัติหมายจับดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ก็ยังไม่ประมาท เพราะรัฐบาลนี้ชอบลักหลับทำอะไรตอนกลางคืนจึงขอให้มวลชนอยู่ที่ราชดำเนินให้มากเป็นแสนคนเพื่อให้ตำรวจไม่สามาถทำอะไรได้ ซึ่งตนและแกนนำทั้งหมดจะอยู่ร่วมกับมวลชนที่เวทีราชดำเนินจนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน












































ด้านหน้ากระทรวงวัฒนธรรม
























กำลังโหลดความคิดเห็น