“สาทิตย์” ย้ำรัฐบาลหมดความชอบธรรมหลังปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นกบฏ ปชช.มีสิทธิไล่ เผยยังตั้งเวทีหลักราชดำเนิน ระดมคนสมทบ “สุเทพ” ยึด ก.คลัง เชื่อดาวกระจาย 13 จุดดึง ขรก.ออกมาร่วมได้ เห็นชัยชนะใน 2 วัน “หมอวรงค์” ย้ำ “รบ.ปู” โมฆะแล้ว แนะประชาชนหยุดเชื่อฟัง
บรรยากาศการชุมนุมขจัดระบอบทักษิณที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงเย็นวันนี้ (25 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมกล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ขณะนี้สถานการณ์ของประเทศได้เปลี่ยนแปลงไป โดยรัฐบาลหลังไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ จึงหมดอำนาจชอบธรรมอีกต่อไป และถือเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญ การไม่รับรัฐธรรมนูญและปฏิเสธอำนาจของศาลนั้น จึงเป็นสิทธิของประชาชนที่จะต้องใช้สิทธิปกป้องรัฐธรรมนูญ
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ประชาชนได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย เพื่อไม่ให้ประเทศถูกรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรถูกย่ำยีอีกต่อไป” นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ ทางกลุ่มจะดำเนินการ 3 ทาง คือ 1.ในส่วนเวทีราชดำเนินยังคงเป็นเวทีหลักในการขับเคลื่อน จนกว่าจะชนะในวันสองวันนี้ และจะมีประชาชนมาร่วมนับแสน 2.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เข้าไปยึดกระทรวงการคลัง และได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วต่อประชาชนทั่วประเทศ และ 3.การที่ประชาชนได้กระจายไป 13 จุด เป็นการเรียกร้องให้คนรักชาติรักแผ่นดินและข้าราชการหน่วยงานต่างๆ ให้ออกมาร่วมกับประชาชนในการปฏิรูปประเทศ
นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนให้ทำหน้าที่เป็นปากเสียงของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ซึ่งก็หวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดี อีกทั้ง นายสุเทพ ยังประกาศอีกว่า จะเข้าไปศูนย์ราชการต่างๆ ให้ข้าราชการได้ออกมาร่วมกับประชาชน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สมบูรณ์
นายสาทิตย์ ย้ำว่า การดำเนินทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ สงบ สันติ เปิดเผย และปราศจากอาวุธ และขอยืนยันว่าศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้
“สำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้กระทรวงการคลังก็สามารถไปสมทบได้ เพราะพื้นที่นั้นจุคนได้นับแสนคน รวมถึงกรมประชาสัมพันธ์ ส่วนคนที่อยู่ใกล้ราชดำเนินก็ขอให้ออกมาสู้ร่วมกัน จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน และขอให้มั่นใจในพลังและทิศทางที่เราเดิน โดยวิธีสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ และทำด้วยหัวใจ และจะไม่มีครั้งไหนที่จะยิ่งใหญ่ได้เท่ากับที่ประชาชนเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยมือของประชาชนเอง และเชื่อว่าอีก 2 วัน จะเป็นวันแห่งชัยชนะของประชาชน” นายสาทิตย์ กล่าว
ต่อมา นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีกล่วปราศรัยโดยยืนยันว่ารัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นโมฆะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นนับแต่นี้ไปประชาชนไม่ต้องรับฟังคำสั่งของนายกรัฐมนตรี และขอให้ฟังคำสั่งของนายสุเทพ เพียงคนเดียว ยืนยันว่านายสุเทพทำตามที่ประชาชนต้องการ พร้อมย้ำว่าการปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญทำให้รัฐบาลและรัฐสภาขาดความชอบธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้สถานภาพของรัฐบาลสิ้นสุดลง และจากนี้ไปการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างจะมาจากความต้องการของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งจะถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์ในการร่วมแรงใจของประชาชนทั้งแผ่นดิน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมกันปกป้องพลังประชาชน เพราะวันนี้ละครฉากสุดท้ายกำลังเริ่มต้น เชื่อว่าอีก 2 วันการต่อสู้จะจบลงแน่นอน
นอกจากนี้นายแพทย์วรงค์ยังกล่าวถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่ามีความล้มเหลว ทำให้ประเทศเสียหาย และเป็นการทำร้ายวิถีชีวิตของเกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก
จากนั้นเวลา 18.00 น.ผู้ชุมนุมที่ถนนราชดำเนินได้ร่วมกันเคารพธงชาติอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นหลวงปู่พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม นำผู้ชุมนุมสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงด้วย