น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านรวมการเฉพาะกิจถึงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ระบุว่า
"สวัสดีค่ะ พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ดิฉันขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยกระดับการชุมนุม ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลก็เคารพต่อเสรีภาพและการแสดงออกในการชุมนุมของทุกกลุ่มที่มีความหลากหลาย แต่ก็ไม่ละเลยที่จะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ เพื่อคุ้มครองความสะดวกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ในการใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนการติดต่อราชการ แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ในวันนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายการชุมนุม โดยใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ โดยใช้กำลังบุกทำลายประตูรั้วเข้าไปในสถานที่ราชการ มีการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เพื่อไม่ให้ปฏิบัติราชการได้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและสถานที่ราชการในการให้บริการกับประชาชน รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาไว้ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการรักษาทรัพย์สินของราชการ การดำรงชีวิตโดยปกติสุข รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ความสงบเรียบร้อย และประโยชน์ส่วนรวม ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ เฉพาะ อ.บางพลี จ.ปทุมธานี เฉพาะ อ.ลาดหลุมแก้ว
แม้รัฐบาลจะได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ดิฉันขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลในการบังคับใช้กฎหมาย และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติราชการทุกฝ่าย ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติราชการต่างๆ ให้บรรลุล่วงด้วยดี ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการ เพื่อรักษากฎหมาย ให้สถานการณ์ต่างๆ กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ใช้กระบวนการของรัฐสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นกลไกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพหลักนิติรัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการหารือและรับฟังความคิดเห็นความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสงบสุข สมานฉันท์ของคนในชาติต่อไป ขอบคุณค่ะ"
"สวัสดีค่ะ พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ดิฉันขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยกระดับการชุมนุม ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลก็เคารพต่อเสรีภาพและการแสดงออกในการชุมนุมของทุกกลุ่มที่มีความหลากหลาย แต่ก็ไม่ละเลยที่จะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ เพื่อคุ้มครองความสะดวกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ในการใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนการติดต่อราชการ แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ในวันนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายการชุมนุม โดยใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ โดยใช้กำลังบุกทำลายประตูรั้วเข้าไปในสถานที่ราชการ มีการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เพื่อไม่ให้ปฏิบัติราชการได้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและสถานที่ราชการในการให้บริการกับประชาชน รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาไว้ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการรักษาทรัพย์สินของราชการ การดำรงชีวิตโดยปกติสุข รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ความสงบเรียบร้อย และประโยชน์ส่วนรวม ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ เฉพาะ อ.บางพลี จ.ปทุมธานี เฉพาะ อ.ลาดหลุมแก้ว
แม้รัฐบาลจะได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ดิฉันขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลในการบังคับใช้กฎหมาย และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติราชการทุกฝ่าย ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติราชการต่างๆ ให้บรรลุล่วงด้วยดี ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการ เพื่อรักษากฎหมาย ให้สถานการณ์ต่างๆ กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ใช้กระบวนการของรัฐสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นกลไกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพหลักนิติรัฐ
ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการหารือและรับฟังความคิดเห็นความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสงบสุข สมานฉันท์ของคนในชาติต่อไป ขอบคุณค่ะ"