นายกฯ ประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง กทม.-นนทบุรี พ่วงอำเภอบางพลี สมุทรปราการ และอำเภอลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี วอนประชาชนอย่าหนุนม็อบเพราะฝ่าฝืนกฎหมาย ลั่นอยากให้ฝ่ายเห็นต่างใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามกระบวนการสภา
วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. นายกฯ แถลงผ่านโทรทัศน์ร่วมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านคะ วันนี้ดิฉันขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการยกระดับการชุมนุมที่ก่อนหน้านี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ และรัฐบาลก็เคารพต่อเสรีภาพและการแสดงออกในการชุมนุมของทุกกลุ่มที่มีความหลากหลาย แต่ก็ไม่ละเลยที่จะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศ เพื่อคุ้มครองความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน ในการใช้ที่สาธารณะ ตลอดจนการติดต่อราชการ
แต่ปรากฏว่าสถานการณ์ในวันนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายการชุมนุม โดยใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมสถานที่ราชการ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ โดยใช้กำลังบุกทำลายประตูรั้ว เข้าไปในสถานที่ราชการ มีการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เพื่อมิให้ปฏิบัติราชการได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นสถานการณ์อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและสถานที่ราชการในการให้บริการประชาชน รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการรักษาทรัพย์สินของราชการ การดำรงชีวิตโดยปกติสุข รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความสงบเรียบร้อยและประโยชน์ส่วนรวม ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ เฉพาะอำเภอบางพลี จังหวัดปทุมธานี เฉพาะอำเภอลาดหลุมแก้ว
แม้รัฐบาลจะได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ดิฉันขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลในการบังคับใช้กฎหมาย และขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติราชการทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติราชการให้ลุล่วงไปด้วยดี
ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าให้การสนับสนุนการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และอย่าหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ โดยให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการเพื่อรักษากฎหมาย และให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เห็นต่าง ใช้กระบวนการของรัฐสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งถือเป็นกลไกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพหลักนิติรัฐ ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการหารือและรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความสงบสุข สมานฉันท์ของคนในชาติ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 56”