รองเลขาฯ นายกฯ เผย ศอ.รส.คาดม็อบยาวยันธันวา คาดชุมนุมไม่ถึงแสน จับตาดาวกระจาย 25 พ.ย. พร้อมปรับกำลังหลัง คปท.ย้ายประชิดชมัยมรุเชษฐ ยันใช้ทำเนียบประชุม ครม. ด้าน “ดีเจแดง” เย้ย “สุเทพ” เข้าตาจน เป็นแค่ม็อบข้างถนน จวก คปท.ป่าเถื่อน วอนสาวกอดทน การันตีนายกฯ ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก เหน็บประชาธิปัตย์ลองพ้น ส.ส.ทั้งพรรครัฐก็อยู่ได้
วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ว่า ทาง ศอ.รส. และฝ่ายความมั่นคงได้ประเมิน และติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะชุมนุมยืดยาวไปตลอดทั้งเดือน ธ.ค. ส่วนความเคลื่อนไหวของมวลชนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่จะเข้ามาสมทบกับมวลชนใน กทม.นั้น ฝ่ายปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานความเคลื่อนไหวให้ฝ่ายปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะ เช่น ในพื้นที่ภาคใต้ทราบว่า ประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาโดยรถบัส เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าจำนวนประชาชนที่จะเข้ามาจะอยู่ประมาณหลักหมื่นคน แต่ไม่น่าจะเกินหลักแสนคน ส่วนที่นายสุเทพ ระบุว่า จะเคลื่อนมวลชนในวันที่ 25 พ.ย.ไปตามจุดต่างๆ โดยไม่แจ้งสถานที่ และเวลานั้น ทางศอ.รส.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
พล.ต.ต.ธวัช กล่าวอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ย้ายพื้นที่การชุมนุมมาอยู่บริเวณแยกนางเลิ้ง และสะพานเทวกรรม ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่สามารถผ่านเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวางกำลังสำรองและปรับพื้นที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ทำเนียบฯ หรือรัฐสภา สำหรับข้อกังวลว่านายกรัฐมนตรี ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ และจะกระทบต่อการประชุม ครม.ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ตนยืนยันว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะใช้ที่ทำเนียบฯเป็นสถานที่ประชุมตามปกติ โดยไม่ได้เตรียมสถานที่สำรองแต่อย่างใด
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ดูเหมือนปฏิทินเดือนพฤศจิกายน 2556 ของนายสุเทพ จะมีปัญหา มีความคลาดเคลื่อนตลอด จากวันที่ 24 พ.ย.ที่หวังเผด็จศึก แต่ต่อมากลับไม่ใช่แล้ว กลายเป็นวันที่ 25 พ.ย. ทั้งนี้ นับวันจะเคลื่อนลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมีโอกาสลงก็ไม่ยอมลง กลับปีนขึ้นสูง ยกระดับตลอด เวลากระโดดลงจึงต้องบอบช้ำ น่าสงสารอดีตรองนายกฯ อดีต ผอ.ศอฉ. ที่วันนี้เป็นม็อบข้างถนนเหลือนกหวีดอันเดียวเป่าทั้งคืน กลัวสไนเปอร์ตามหลอกหลอน วันนี้ นายสุเทพ กำลังเข้าตาจนเหมือนมวยเป็นรองมากๆ ต้องเดินให้หนัก หวังบุกประชิดให้เกิดการปะทะ หรือต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงจึงคิดจะดาวกระจาย 12 เส้นทาง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องใหม่ ถือว่าโบราณ เชยมาก ซ้ำทางเขาหมด
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า คปท. ที่เดินทางมาชุมนุมที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น ปากบอกมาด้วยความเรียบร้อย เคารพกฎหมาย ไม่กีดขวางการจราจร แต่การนำป้ายผ้ามาปิดทับป้ายพรรคเพื่อไทยนั้น ถือเป็นการละเมิด เป็นการกระทำป่าเถื่อน ไม่ต่างจากการบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ไม่ใช่การชุมนุมอย่างสงบ ต้องการยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งหากมีเหตุปะทะกันขึ้นก็จะโยนบาปให้แก่รัฐบาล ดังนั้น ขอสื่อสารไปยังคนเสื้อแดง และเครือข่ายทั้งหลายว่า ต้องอดทน อดกลั้นต่อการก่อกวน ยั่วยุให้มาก เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากการสร้างสถานการณ์ สำหรับกรณีที่ นายสุเทพ ระบุว่า คนจะมาร่วมชุมนุม 1 ล้านคนเพื่อเปลี่ยนประเทศนั้น คงเป็นไปได้ยาก เต็มที่คงไม่ถึงแสนคน และถ้ามาได้จริงก็คงเปลี่ยนประเทศไม่ได้ ที่เคยกล่าวหาว่าพวกมากลากไป กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย วันนี้ทำไมทำเสียเอง
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวอาจจะมีการยุบสภาฯ นายกฯ อาจจะลาออก และอาจจะมีการปรับ ครม.ว่า ยืนยันว่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะการยุบสภาฯ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความขัดแย้งระหว่างอำนาจบริหาร กับนิติบัญญัติ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่พบว่าเกิดปัญหา ต่อให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกทั้งพรรค สภาฯ ก็เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยทำมาแล้ว ไม่เชื่อจะลองลาออกทั้งพรรคดูก็ได้ ส่วนการปรับ ครม.นั้น เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งยังไม่ส่งสัญญาณเพราะรัฐมนตรีทุกคนยังปฏิบัติงานได้ดี รวมถึงระหว่างนี้มีการเตรียมความพร้อมในการชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย และนายกฯ ไม่มีความเป็นห่วงกังวลใดๆ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นเรื่องปกติตามระบอบประชาธิปไตย
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ผลงานรัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็สามารถนำมาสรุป และใช้เป็นข้อมูลในการชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การอภิปรายครั้งนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แต่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ฝ่ายค้านจะใช้เวทีสภาฯ หาทางออกให้แก่ประเทศ อยากขอให้ฝ่ายค้านหันมาร่วมกับรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่มีปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ อย่ามุ่งทำลายล้างทางการเมืองจนลืมทุกข์ชาวบ้าน