ม็อบประชาธิปัตย์ต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พรึ่บ “สุเทพ” ลั่นพร้อมรบ ปลุกคน ตจว.ชุมนุมศาลากลางทั่วประเทศ แย้มแผนทิ้งตำแหน่ง ส.ส.เตือน “ตระกูลชินวัตร” ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่
วันนี้ (31 ต.ค.) บรรยากาศการชุมนุมค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณพรรคประชาธิปัตย บริเวณสถานีรถไฟสามเสน เริ่มมีมวลชนจากพื้นที่ต่างๆ เดินทางมารวมตัวกันมากขึ้น คาดว่าประชาชนจะมารวมตัวกันในเย็นวันนี้ประมาณ 3-5 หมื่นคน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งปิดการจราจรตลอดสาย หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่แยกเศรษฐศิริ แต่ทางด้านสถานีรถไฟสามเสนยังคงเปิดให้บริการตามปรกติ
ด้านสถานการณ์ภายในการชุมนุม เริ่มมี ส.ส.ประชาธิปัตย์ มาสังเกตการณ์ และขึ้นเวทีปราศรัยทดสอบเครื่องขยายเสียง ทั้งนี้จะมีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมากอาจจะต้องขยายพื้นที่การชุมนุมออกไปอีก แต่จะพยายามไม่ให้กระทบต่อการจราจรโดยรวม ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือต้องยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในอาคารรัฐสภา
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชุมนุมจากกลุ่มอื่น โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณแยกอุรุพงษ์นั้น จะเดินทางมาสมทบ ณ จุดนี้หรือไม่นั้น เมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา คปท.แถลงว่า วันนี้จะยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่จุดเดิม ส่วนจะเคลื่อนขบวนหรือไม่นั้น จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่สถานีรถไฟสามเสนขณะนี้ว่า ด้านการข่าวจะมีจำนวนผู้ร่วมชุมนุม 2-3 หมื่นคน โดยเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมจาก กทม.เป็นส่วนใหญ่
ต่อมาเวลา 16.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับให้สัมภษณ์ก่อนเดินทางไปพบปะผู้ชุมนุมที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสนว่า การออกกฎหมายล้างผิดในลักษณะที่รัฐบาลนี้กำลังทำ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน โดยฝ่ายรัฐบาลดื้อด้าน ใช้พวกมาข่มเหง เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นหน้าที่ของประชาชนเจ้าของประเทศที่จะลุกขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เวทีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดวันนี้ จะจบตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดได้เลย หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาประกาศว่า ยอม และถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกจากสภา เท่านั้น ตนก็จะกลับบ้าน แต่ถ้าไม่มีการถอนก็สู้จนกว่าจะถอน ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่ต้องไปถามประชาชน เพราะต่อไปนี้ตนทำงานร่วมกับประชาชนเต็มตัวแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า การต่อสู้เพื่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ใครอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ก็ทำได้ ไม่ว่าจะ กทม.หรือต่างจังหวัด โดยคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไปรวมกับหน้าศาลากลางจังหวัดได้ทุกจังหวัด
เมื่อถามถึงกรณีว่า การประกาศชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ จะมีนายทหาร นายตำรวจเข้าร่วมด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ต้องรีบ ค่อยๆ รู้ ว่าจะเป็นใคร และจะได้รู้เอง
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่า จะมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 3 หมื่นคนนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะตนไม่ใช่คนคุยโวโอ้อวด และทำตามข้อเท็จจริง มามากก็มาก มาน้อยก็น้อย แต่คนบางคน ยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเก่ง วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเก่งจริง ก็ไม่ต้องเป็นผีไม่มีศาลเที่ยวเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศเช่นนี้ ขอยืนยันว่าเขาเก่งไม่จริง ถ้าเก่งจริงต้องอยู่ประเทศไทย
“ตั้งแต่ 18.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป การต่อสู้จะไม่ใช่แค่เรื่องของประชาธิปัตย์ แต่นับแต่นี้เป็นการต่อสู้ของกระบวนการประชาชน ผมเอง และเพื่อนๆ จากประชาธิปัตย์จะหลอมหัวใจเข้ากับประชาชนสู้เพื่อประเทศไทย ส่วนจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่นั้น ต่อไปนี้ต้องรอดู เพราะตนจะตัดสินใจตามสถานการณ์ อย่างที่บอกสถานการณ์จะจบอย่างไร ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีจิตสำนึกที่ดีรู้ว่าเป็นนายกฯ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไว้ใจ ฉะนั้น ต้องไม่ทำร้ายประชาชน ประกาศถอนกฎหมายออกไปไม่ทำอีกแล้ว การต่อสู้ของพวกผมก็จบ แต่ถ้ายังถือผลประโยชน์ของพี่ชายสำคัญกว่า ทำตัวทรยศต่อประชาชน พวกตนก็ต้องลุกขึ้นจัดการกับนายกฯ” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายเกรงว่าการออกมาครั้งนี้จะเกิดการนองเลือด นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่มาเหล่านี้เป็นคนดี ไม่มีใครพกอาวุธ ไม่มีชายชุดดำชุดแดง มีมือเปล่าและหัวใจเท่านั้น ส่วนที่ตำรวจออกมาบอกว่าจะมีมือที่สามมาก่อกวนนั้น อย่าสนใจเพราะพวกเขาก็มีปัญญาอยู่แค่นั้น เอะอะก็อ้างมือที่สามที่สี่ และขอบอกไว้เลย มือของตำรวจนั่นแหละอย่าทำร้ายประชาชน และถ้าเที่ยวนี้ทำร้ายประชาชนเตรียมตัวไปอยู่ดูไบกับนายใหญ่ได้เลย เพราะฉะนั้น พี่น้องประชาชน ก็ต้องดูแลกันเองโดยอาสาสมัครของประชาธิปัตย์ เพราะตำรวจทำตัวเป็นลูกน้องรัฐบาลขึ้นทุกวัน
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มียุทธวิธีพิเศษ ตรงไปตรงมาเปิดเผย ทั้งหมดทำด้วยหัวใจ ถ้าประชาชนทั้งประเทศหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนด้วย ถ้าประชาชนไม่ออกมารัฐบาลก็จะชนะ อย่างไรก็ตามตอบไม่ได้ว่า ประชาชนต้องออกมาเท่าไหร่ถึงจะชนะรัฐบาลได้ แต่ครั้งนี้ ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เมื่อตัดสินใจว่า จะลงสู่ท้องถนนก็ไม่กังวลอะไร และได้กลายสภาพมาเป็นแกนนำม็อบเต็มตัวแล้ว จึงอยากบอกประชาชนว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน ถ้าทั้งประเทศร่วมใจเป็นหนึ่งเราสามารถทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในบ้นเมืองได้ และรักษาบ้านเมืองได้ ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า จะไม่ปรองดองก็ไม่เป็นไร เพราะตัวเขาอยู่ต่างประเทศนั้น ผมอยากบอกว่า เอาลูกเอาหลานของเขาไปอยู่ต่างประเทศด้วยแล้วกัน เพราะถ้ายังทำอย่างนี้ ระวังพวกท่านจะไม่มีแผ่นดินอยู่” นายสุเทพ กล่าว
วันนี้ (31 ต.ค.) บรรยากาศการชุมนุมค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม บริเวณพรรคประชาธิปัตย บริเวณสถานีรถไฟสามเสน เริ่มมีมวลชนจากพื้นที่ต่างๆ เดินทางมารวมตัวกันมากขึ้น คาดว่าประชาชนจะมารวมตัวกันในเย็นวันนี้ประมาณ 3-5 หมื่นคน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งปิดการจราจรตลอดสาย หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่แยกเศรษฐศิริ แต่ทางด้านสถานีรถไฟสามเสนยังคงเปิดให้บริการตามปรกติ
ด้านสถานการณ์ภายในการชุมนุม เริ่มมี ส.ส.ประชาธิปัตย์ มาสังเกตการณ์ และขึ้นเวทีปราศรัยทดสอบเครื่องขยายเสียง ทั้งนี้จะมีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมากอาจจะต้องขยายพื้นที่การชุมนุมออกไปอีก แต่จะพยายามไม่ให้กระทบต่อการจราจรโดยรวม ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือต้องยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในอาคารรัฐสภา
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชุมนุมจากกลุ่มอื่น โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณแยกอุรุพงษ์นั้น จะเดินทางมาสมทบ ณ จุดนี้หรือไม่นั้น เมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา คปท.แถลงว่า วันนี้จะยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่จุดเดิม ส่วนจะเคลื่อนขบวนหรือไม่นั้น จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่สถานีรถไฟสามเสนขณะนี้ว่า ด้านการข่าวจะมีจำนวนผู้ร่วมชุมนุม 2-3 หมื่นคน โดยเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมจาก กทม.เป็นส่วนใหญ่
ต่อมาเวลา 16.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับให้สัมภษณ์ก่อนเดินทางไปพบปะผู้ชุมนุมที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสนว่า การออกกฎหมายล้างผิดในลักษณะที่รัฐบาลนี้กำลังทำ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขาทำกัน โดยฝ่ายรัฐบาลดื้อด้าน ใช้พวกมาข่มเหง เพราะฉะนั้น วันนี้เป็นหน้าที่ของประชาชนเจ้าของประเทศที่จะลุกขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เวทีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดวันนี้ จะจบตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดได้เลย หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาประกาศว่า ยอม และถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกจากสภา เท่านั้น ตนก็จะกลับบ้าน แต่ถ้าไม่มีการถอนก็สู้จนกว่าจะถอน ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่ต้องไปถามประชาชน เพราะต่อไปนี้ตนทำงานร่วมกับประชาชนเต็มตัวแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า การต่อสู้เพื่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น ใครอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ก็ทำได้ ไม่ว่าจะ กทม.หรือต่างจังหวัด โดยคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไปรวมกับหน้าศาลากลางจังหวัดได้ทุกจังหวัด
เมื่อถามถึงกรณีว่า การประกาศชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ จะมีนายทหาร นายตำรวจเข้าร่วมด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ต้องรีบ ค่อยๆ รู้ ว่าจะเป็นใคร และจะได้รู้เอง
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่า จะมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 3 หมื่นคนนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะตนไม่ใช่คนคุยโวโอ้อวด และทำตามข้อเท็จจริง มามากก็มาก มาน้อยก็น้อย แต่คนบางคน ยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเก่ง วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเก่งจริง ก็ไม่ต้องเป็นผีไม่มีศาลเที่ยวเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศเช่นนี้ ขอยืนยันว่าเขาเก่งไม่จริง ถ้าเก่งจริงต้องอยู่ประเทศไทย
“ตั้งแต่ 18.00 น.ของวันนี้เป็นต้นไป การต่อสู้จะไม่ใช่แค่เรื่องของประชาธิปัตย์ แต่นับแต่นี้เป็นการต่อสู้ของกระบวนการประชาชน ผมเอง และเพื่อนๆ จากประชาธิปัตย์จะหลอมหัวใจเข้ากับประชาชนสู้เพื่อประเทศไทย ส่วนจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่นั้น ต่อไปนี้ต้องรอดู เพราะตนจะตัดสินใจตามสถานการณ์ อย่างที่บอกสถานการณ์จะจบอย่างไร ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีจิตสำนึกที่ดีรู้ว่าเป็นนายกฯ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไว้ใจ ฉะนั้น ต้องไม่ทำร้ายประชาชน ประกาศถอนกฎหมายออกไปไม่ทำอีกแล้ว การต่อสู้ของพวกผมก็จบ แต่ถ้ายังถือผลประโยชน์ของพี่ชายสำคัญกว่า ทำตัวทรยศต่อประชาชน พวกตนก็ต้องลุกขึ้นจัดการกับนายกฯ” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายเกรงว่าการออกมาครั้งนี้จะเกิดการนองเลือด นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่มาเหล่านี้เป็นคนดี ไม่มีใครพกอาวุธ ไม่มีชายชุดดำชุดแดง มีมือเปล่าและหัวใจเท่านั้น ส่วนที่ตำรวจออกมาบอกว่าจะมีมือที่สามมาก่อกวนนั้น อย่าสนใจเพราะพวกเขาก็มีปัญญาอยู่แค่นั้น เอะอะก็อ้างมือที่สามที่สี่ และขอบอกไว้เลย มือของตำรวจนั่นแหละอย่าทำร้ายประชาชน และถ้าเที่ยวนี้ทำร้ายประชาชนเตรียมตัวไปอยู่ดูไบกับนายใหญ่ได้เลย เพราะฉะนั้น พี่น้องประชาชน ก็ต้องดูแลกันเองโดยอาสาสมัครของประชาธิปัตย์ เพราะตำรวจทำตัวเป็นลูกน้องรัฐบาลขึ้นทุกวัน
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มียุทธวิธีพิเศษ ตรงไปตรงมาเปิดเผย ทั้งหมดทำด้วยหัวใจ ถ้าประชาชนทั้งประเทศหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนด้วย ถ้าประชาชนไม่ออกมารัฐบาลก็จะชนะ อย่างไรก็ตามตอบไม่ได้ว่า ประชาชนต้องออกมาเท่าไหร่ถึงจะชนะรัฐบาลได้ แต่ครั้งนี้ ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เมื่อตัดสินใจว่า จะลงสู่ท้องถนนก็ไม่กังวลอะไร และได้กลายสภาพมาเป็นแกนนำม็อบเต็มตัวแล้ว จึงอยากบอกประชาชนว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน ถ้าทั้งประเทศร่วมใจเป็นหนึ่งเราสามารถทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นในบ้นเมืองได้ และรักษาบ้านเมืองได้ ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า จะไม่ปรองดองก็ไม่เป็นไร เพราะตัวเขาอยู่ต่างประเทศนั้น ผมอยากบอกว่า เอาลูกเอาหลานของเขาไปอยู่ต่างประเทศด้วยแล้วกัน เพราะถ้ายังทำอย่างนี้ ระวังพวกท่านจะไม่มีแผ่นดินอยู่” นายสุเทพ กล่าว
