กทม.จ่อเดินเรือส่วนต่อขยายคลองภาษีเจริญให้บริการประชาชนฟรี 7 เดือน ระบุเริ่มได้ธันวาคมนี้เผยหากหมดระยะทดลองพิจารณาระบบกายภาพอีกรอบเพื่อเดินเรือต่อ
วันนี้ (21 ต.ค.) นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือส่วนต่อขยายช่วงคลองภาษีเจริญว่า ว่าขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มอบหมายให้ทางบริษัท กรุงเทพธนาคม เป็นผู้รับผิดชอบในจัดหาแนวทางที่จะให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลเดินเรือ โดยในทีโออาร์ได้ระบุไว้ว่าจะต้องมีการจะต้องมีเรือไม่ต่ำกว่า 10 ลำเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยเรือ 20 นาทีต่อลำ และจะต้องใช้เวลาในการับ-ส่งผู้โดยสารไม่ต่ำกว่าเที่ยวละ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ในการทดลองเดินเรือส่วนต่อขยายนั้นจะให้บริการประชาชนฟรี 7 เดือนแรก และคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้บริการได้ในเดือนธันวาคมนี้ โดยมีระยะทางตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าไปจนสุดคลองภาษีเจริญซึ่งจะมีท่าทั้งหมด 15 ท่าระยะทาง 15 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม สำหรับท่าเรือนั้นขณะนี้ทางสำนักการขนส่งและจราจร (สจส.) ได้เข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยว่ามีมาตรฐานพอที่จะให้บริการประชาชนได้หรือไม่ รวมทั้งจะต้องมีการศึกษาทางกายภาพด้วยว่าหากเดินเรือไปแล้วมีผลกระทบอย่างไรกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งคลอง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระตามมาที่หลัง ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งเรียบร้อยแล้ว
นายอมร กล่าวต่อว่า เมื่อสิ้นสุดระยะการทดลองเดินเรือแล้วนั้นจะต้องมาพิจารณาว่าจำนวนประชาชนที่ใช้บริการมีประมาณเท่าไหร่จึงจะสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารได้ นอกจากนี้ยังดูหลักทางกายภาพว่าเรื่องใดบ้างที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงเรือที่จะนำมาวิ่งอาจจะต้องเลือกเรือที่เป็นระบบดีเซล เนื่องจากว่าเสียง คลื่นรบกวนน้อย เพื่อเป็นการลดการรบกวนชาวบ้านในย่านนั้นด้วย
วันนี้ (21 ต.ค.) นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือส่วนต่อขยายช่วงคลองภาษีเจริญว่า ว่าขณะนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มอบหมายให้ทางบริษัท กรุงเทพธนาคม เป็นผู้รับผิดชอบในจัดหาแนวทางที่จะให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลเดินเรือ โดยในทีโออาร์ได้ระบุไว้ว่าจะต้องมีการจะต้องมีเรือไม่ต่ำกว่า 10 ลำเพื่อให้สอดคล้องกับการปล่อยเรือ 20 นาทีต่อลำ และจะต้องใช้เวลาในการับ-ส่งผู้โดยสารไม่ต่ำกว่าเที่ยวละ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ในการทดลองเดินเรือส่วนต่อขยายนั้นจะให้บริการประชาชนฟรี 7 เดือนแรก และคาดว่าจะเริ่มเปิดใช้บริการได้ในเดือนธันวาคมนี้ โดยมีระยะทางตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าไปจนสุดคลองภาษีเจริญซึ่งจะมีท่าทั้งหมด 15 ท่าระยะทาง 15 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม สำหรับท่าเรือนั้นขณะนี้ทางสำนักการขนส่งและจราจร (สจส.) ได้เข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยว่ามีมาตรฐานพอที่จะให้บริการประชาชนได้หรือไม่ รวมทั้งจะต้องมีการศึกษาทางกายภาพด้วยว่าหากเดินเรือไปแล้วมีผลกระทบอย่างไรกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งคลอง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระตามมาที่หลัง ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งเรียบร้อยแล้ว
นายอมร กล่าวต่อว่า เมื่อสิ้นสุดระยะการทดลองเดินเรือแล้วนั้นจะต้องมาพิจารณาว่าจำนวนประชาชนที่ใช้บริการมีประมาณเท่าไหร่จึงจะสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารได้ นอกจากนี้ยังดูหลักทางกายภาพว่าเรื่องใดบ้างที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงเรือที่จะนำมาวิ่งอาจจะต้องเลือกเรือที่เป็นระบบดีเซล เนื่องจากว่าเสียง คลื่นรบกวนน้อย เพื่อเป็นการลดการรบกวนชาวบ้านในย่านนั้นด้วย
