ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน จี้ “สมศักดิ์-นิคม” รับผิดชอบคำวินิจฉัยแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ไปลาออก พ่วง 312 สมาชิกรัฐสภา ชี้ไร้ความน่าเชื่อถือ จวกนายกฯ ทูลเกล้าฯ กระทำมิบังควร แนะเสียงข้างน้อยก็ไขก๊อกด้วย ไม่สังฆกรรมพวกไม่ยอมรับอำนาจศาล
วันนี้ (20 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรฐัธธรรมนูญ ที่มีมติ 5:4 ระบุว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรค 1 แต่ยังไม่เข้าเงื่อนไขยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิทางการเมืองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และรองประธานฯ นายนิคม ไวยรัชพานิช ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก รวมทั้ง ส.ส.และ ส.ว.312 คนที่ลงมติสนับสนุนร่างแก้ไขฯ ต้องลาออกด้วยเช่นกัน เพราะในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดว่าขั้นตอนและกระบวนการการพิจารณาของรัฐสภามีปัญหาร้ายแรง ทั้งการปกปิดสอดไส้เนื้อหาการแก้ไขฯ การแปรญัตติ และการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ตอกย้ำความเละเทะและหลักปฏิบัติที่น่าเชื่อถือของเสียงข้างมาก
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยเพราะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แปดเปื้อนมีมลทินขึ้นทูลเกล้าฯ โดยไม่รอคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำมิบังควรอย่างยิ่ง หากบุคคลที่กระทำความผิดอย่างเจตนาและจงใจ ยังไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และเสียงข้างน้อย ก็ควรประกาศลาออก ไม่สังฆกรรมกับเสียงข้างมากที่ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และทำผิดแล้วไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ
“การลาออกของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และเสียงข้างน้อยในขณะนี้จะถือว่ามีความชอบธรรมสูงและสามารถอธิบายกับสังคมได้ว่าเสียงข้างมากในสภาฯ กำลังมีเจตนาทำลายหลักการปกครองและการถ่วงดุลทางอำนาจ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย” นายสุริยะใสกล่าว