“ยิ่งลักษณ์” ต้อนรับนายกฯ นิวซีแลนด์ ลงนามความร่วมมือเพิ่มมูลค่าการค้า

นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้อนรับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ หารือการเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 2 เท่า หวังภาคเอกชนมีส่วนร่วมด้านอาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ การผลิต โลจิสติกส์ และสาธารณสุข ตลอดจนการลงทุนในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมลงนามความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว สนง.ก.พ.กับสถาบันการศึกษา 8 แห่งในนิวซีแลนด์ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพกับมหาวิทยาลัยเอยูที


วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลครั้งแรกในรอบ 8 ปี พร้อมร่วมพิธีตรวจแถวจากกองทหารเกียรติยศ หน้าสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้นนายกรัฐมนตรีททั้งสองประเทศ ร่วมกันหารือข้อราชการเต็มคณะ โดยการหารือไทยและนิวซีแลนด์ มีเป้าหมายร่วมกัน ในเรื่องการเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 2 เท่าภายในปี 2563 พร้อมแสดงความยินดีที่นักธุรกิจนิวซีแลนด์ได้เดินทางมาด้วย โดยนายกรัฐมนตรี หวังว่า ภาคเอกชนจะมีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ การผลิต โลจิสติกส์ และสาธารณสุข ตลอดจนการลงทุนในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงในภูมิภาค พร้อมเชิญชวนให้นักธุรกิจนิวซีแลนด์เข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากไทยมีศักยภาพ ในฐานะที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์และสามารถเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียนและอื่นๆ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความตกลง 3 ฉบับ ประกอบด้วย หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว หนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และสถาบันการศึกษาของนิวซีแลนด์จำนวน 8 แห่ง และบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัย Auckland University Technology หรือ AUT

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ร่วมกันแถลงข่าว โดยยืนยันความร่วมมือที่ลึกซึ้งและการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำระดับสูงจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนผลักดันและสานต่อความร่วมมือทวิภาคีในหลากหลายสาขา ทั้งด้านการศึกษา เทคโนโลยี รวมถึงความมั่นคงทางอาหาร และด้านการเกษตร

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ความมั่นคงและมั่งคั่งของภูมิภาค ถือเป็นหัวใจสำคัญของทั้งสองประเทศ พร้อมกล่าวขอบคุณนิวซีแลนด์ที่ให้การสนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ Mutual Assistance Program (MAP) และขอให้นิวซีแลนด์สนับสนุนไทยในการพัฒนาบุคลากรทหารและตำรวจของไทย โดยเฉพาะในด้านนิติเวชซึ่งนิวซีแลนด์มีความเชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ ไทยและนิวซีแลนด์ ได้มีการหารือกันถึงแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านการให้ความช่วยเหลือภายหลังเหตุภัยพิบัติ โดยทั้งสองประเทศได้จัดส่งความช่วยเหลือให้แก่ฟิลิปปินส์ที่ได้ผลกระทบรุนแรงจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน และเห็นพ้องกันที่จะร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ อาทิ ปัญหาภัยพิบัติ การลดความเหลือมล้ำทางเพศ และการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่ให้การสนับสนุไทยในการลงสมัครตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีความสิทธิมนุษยชน วาระปี 2558-2559 จากนั้น เวลา 18.20 น.นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และภาคธุรกิจที่ร่วมคณะ เพื่อเป็นเกียรติในโอกาสเดินทางเยือนไทยด้วย