โฆษก ปชป.ทำนายวุฒิฯ ทาสรับใช้รัฐคว่ำร่างกู้ 2 ล้านล้าน ที่ปรับแต่ง กม.ไม่ให้ใช้เงินตามใจและต้องส่งเงินเข้าคลัง เหตุโกงยาก ก่อนตีกลับสภาฯ ชี้อันตรายเพราะไม่ใช่ กม.การเงิน ส่อประกาศใช้เลย เชื่อเป็นเป้าหมายพี่น้องชินวัตร พรรคเตรียมยื่นศาลตีความ ชี้ร่างนี้ปัญหาเพียบ ตอกนายกฯ เข้าตาจนถึงเข้าสภา แจงสู้นอกสภาเหตุบรรดา ปธ.รัฐสภาลำเอียงน่าเกลียด ขู่เอาผิด กม. “ค้อนปลอม” หากไม่ยืนยันญัตติไม่ไว้วางใจ ฉะเป็นขี้ข้าจัดทำชาติลุกเป็นไฟ
วันนี้ (18 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภามีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท สาระคือการพิจารณาในวาระที่ 2-3 หลังจากกรรมาธิการในส่วนของวุฒิสมาชิกมีการปรับแต่งกฎหมายกู้เงินฉบับดังกล่าว ตนขอทำนายผลล่วงหน้า ว่าวุฒิสมาชิกสายรัฐบาลหรือสายรับใช้รัฐบาล จะคว่ำร่างนี้ เพราะในการประชุมของกรรมาธิการได้มีการแก้ไขใน 2 มาตรา คือ มาตรา 3 และ 6 ทั้งนี้ มาตรา 3 กรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่แก้ไขให้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน มีการระบุโครงการที่ชัดเจน เพื่อผูกมัดรัฐบาลไม่ให้สามารถนำเงินกู้ไ ปใช้ตามใจชอบตรงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลอาจไม่พอแน่นอน เพราะมีการเติมรายละเอียดผูกมัดการกระทำของรัฐบาล และมีการแก้ไขมาตรา 6 โดยร่างของ ส.ส.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน และเมื่อนำเบิกจ่ายไปใช้ ไม่ต้องส่งเงินเข้าคลัง แต่ของวุฒิสมาชิกตัดคำว่า “ไม่” ออก คือส่งเงินเข้าคลังของแผ่นดิน ก่อนที่จะนำมาเบิกใช้จ่ายจากเดิมที่ไม่ต้องส่งเข้าคลังแต่อย่างใด รัฐบาลย่อมไม่พอใจเพราะโกงยาก
“วันนี้ผลที่จะออกมาจึงไม่ยากที่จะคาดเดาว่า วุฒิสมาชิกสายสายขี้ข้าจะคว่ำร่างนี้เพื่อให้ร่างเดิมที่ไม่มีการแก้ไขก็จะถูกส่งกลับไปที่สภาฯ และเมื่อร่างนี้เป็นกฎหมายการเงินชัดเจน จึงไม่จำเป็นต้องแช่แข็งหรือถูกฉีดยาสลบ 180 วัน แต่รัฐบาลสามารถที่จะสั่งการให้ ส.ส.ในฝั่งรัฐบาลยืนยันในร่างเดิมแล้วประกาศใช้ได้เลย ตรงนี้อันตราย”
ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นเป้าหมายหลักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้ ดังนั้นทางพรรค ปชป.ทราบดีว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้น ทางพรรคได้เตรียมเอกสารเพื่อเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว ซึ่งร่างกฎหมายนี้ขัดรัฐธรรมนูญทั้งในกระบวนการตราที่มีการกดบัตรแทนกันของ ส.ส.เพื่อไทย การออกเป็น พ.ร.บ.ที่ล่วงละเมิดอำนาจบริหาร และในเนื้อหาสาระที่ขัดกรอบวินัยการเงินการคลัง รวมถึงปราศจากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการรับฟังความเห็นประชาชน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองเวลานี้ว่า มีความเข้มข้นการเมืองทั้งในและนอกสภา การดำเนินการการเมืองระหว่างผู้แทนฝ่ายการเมืองและฝ่ายค้านนั้น มีหลายกรณีที่จะเกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์นี้ สิ่งเหล่านั้นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้มีความจริงใจในการใช้เวทีของสภาฯ ในการแก้ไขปัญหาในประเทศ นายกฯ มักจะเรียกร้องหาการพุดคุยเจรจาและเรียกร้องให้เข้าสภา เมื่อนายกฯ เข้าตาจนเท่านั้น นี่คือพฤติกรรมของนายกฯ ปัญหาที่ออกมานอกถนนในเวลานี้เกิดจากการไม่ให้ความเคารพต่อสภาของนายกฯและการปฏิบัติหน้าที่ของประธานและรองประธานรัฐสภา ที่ไม่มีความยุติธรรมมีความลำเอียงและเข้าข้างรัฐบาลจนน่าเกลียด นายกฯ และพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ
“วันนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ จะต้องประกาศให้ชัดเจนว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์สมบูรณ์ครบถ้วนและรัฐบาลไม่มีสิทธิที่จะยุบสภา และถ้าวันนี้นายสมศักดิ์ยังไม่ยืนยันในญัตติดังกล่าวเราก็ต้องดำเนินการทางกฎหมายกับประธานสภา เพื่อเป็นตัวอย่างว่าขณะนี้ ท่านทำหน้าที่รับใช้รัฐบาลจนเกินขอบเขต และท่านเองจะเป็นชนวน ทำให้ประเทศไทยลุกเป็นไฟอีกครั้ง”