“ม.ล.สุทธิฉันท์” นำกลุ่มราชตระกูลรวมใจ ยื่น กสม.สอบรัฐละเมิดสิทธิออกพ.ร.บ.มั่นคงฯผู้ชุมนุมโดยสงบต้านล้างผิด แถมชักใยแดงชุมนุม และดีเอสไอใส่ร้าย ปชช.ส่อให้เกิดการปราบปราม พร้อมร่อน จม.จี้นายกฯอย่าให้ตำแหน่งพวกล้มเจ้า ปิดสื่อจัดการจริงจัง เครือข่ายฯเฝ้าระวังความรุนแรงทางการเมือง ยื่นต่อให้จับตาเหตุ “หมอนิรันดร์” แจงตรวจสอบมาตลอด แนะรัฐทำความจริงให้เป็นที่ยอมรับ
วันนี้ (11 พ.ย.) กลุ่มราชตระกูลรวมใจ ประมาณ 10 คน นำโดย ม.ล.สุทธิฉันท์ วรวุฒิ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ในฐานประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบรัฐบาลที่กระทำการละเมิดสิทธิการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธของประชาชนที่ต่อต้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากเห็นว่า การออก พ.ร.บ.ความมั่นคง กีดกันประชาชนที่ต้องการชุมนุมโดยสงบ รวมถึงยังมีการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้แก่ผู้กระทำผิด ขณะที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา อาจมีฝ่ายบริหารอยู่เบื้องหลัง เพราะมีสาระต่อต้านการใช้สิทธิการชุมนุมโดยสงบของประชาชนที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้แถลงข่าวว่ามีนายทุนสนับสนุนการชุมนุมของภาคประชาชน กล่าวหาสร้างภาพสร้างสถานการณ์ ให้เกิดมีการปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร จึงขอให้กรรมการสิทธิฯเร่งดำเนินการตรวจสอบ
นอกจากนี้ กลุ่มราชนิกูล ยังได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีต่อกรณีที่การหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไขจากรัฐบาล จึงขอให้รัฐบาลอย่าแต่งตั้งบุคคลที่ตีความเกี่ยวข้องและเป็นอันตรายต่อสถาบันฯดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะเดียวกันขอให้กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ พิจารณาดำเนินการตรวจสอบและปิดสื่อ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน วิทยุโทรทัศน์ดาวเทียมให้เด็ดขาดกรณีที่เป็นอันตรายต่อสถาบันฯ
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ฯพณฯ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างจริงจังและกระทำด้วยความสำนึกอย่างชัดแจ้ง เพื่อเป็นการยืนยันถึงความจงรักภักดีตามที่ได้กล่าวปฏิญาณไว้จึงขอให้ดำเนินการตามที่ทางกลุ่มฯเรียกร้องให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน”
ขณะเดียวกันเครือข่ายพลเมืองเฝ้าระวังความรุนแรงทางการเมือง นำโดยนางจุฬา สุดบรรทัด ก็ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออนุกรรมการ ระบุว่าแม้การชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะยังเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่ก็มีสัญญาณว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากที่มีความเห็นต่างอีกด้านหนึ่ง ประกอบกับมีการปฏิบัติและท่าทีของเจ้าหน้าที่รัฐต่อผู้ชุมนุม ทางเครือข่ายจึงขอให้อนุกรรมการได้ติดตามการเคลื่อนไหว โดยทางเครือข่ายพร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในภารกิจเฝ้าระวังความรุนแรงทางการเมืองและคุ้มครองสิทธิของประชาชนตามกรอบรัฐธรรมนูญ ตลอดช่วงเวลาของสถานการณ์การชุมนุมนี้
ด้าน นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ทั้งการติดตามการตรวจสอบสถานการณ์ชุมนุมที่เริ่มต้นตั้งแต่สวนลุม มาทำเนียบ จนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ กสม.ตรวจสอบมาตลอด แต่เนื่องจากการชุมนุมยังไม่ยุติ และกลับมีความเข้มข้นทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งท้าทายเรื่องความรับผิดชอบและการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐในการคุ้มครองและรักษาสิทธิในการชุมนุม ซึ่ง กสม.ได้มีการตรวจสอบโดยเชิญหน่วยงานของรัฐมาชี้แจงทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรืออย่างในกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่าจะมีการจับกุมแกนนำ หรือกลุ่มที่สนับสนุนการชุมนุม ทางอนุกรรมการก็จะต้องมีการเชิญหน่วยงานของรัฐมาชี้แจง มิเช่นนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องหน่วยงานของรัฐใช้อำนาจออกมาข่มขู่และสกัดกั้นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพราะหน้าที่ของ กสม.ต้องตรวจหาข้อเท็จจริงที่ชัดเจนไม่ใช่เรื่องพูดขึ้นโดยหาหลักฐาน พยานเอกสารไม่ได้ เช่น การประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงโดยที่ยังไม่พบว่ามีสถานการณ์รุนแรงหรือละเมิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 63
สำหรับสถานการณ์ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและรัฐสภาต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนโดยวิธีการ มากกว่าเป้าหมาย เช่น ทำความจริงให้ปรากฏ และเป็นที่ยอมรับ การต้องพิจารณาว่าบุคคลกลุ่มใดที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม หรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความผิด ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจและดำเนินการในทางที่ต้องการ หรือแม้ขณะนี้จะบอกว่าจะพยายามยับยั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ไม่ทำให้เกิดความชัดเจนในกระบวนการวิธีการ สังคมก็ยังขาดความเชื่อมั่นไว้วางใจ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องทำให้สังคมเกิดความมั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือเล็กๆ ที่ทำให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ ต้องไม่นำไปสู่การทำให้สังคมนี้เกิดความแตกแยก ซึ่งเรื่องที่ยื่นทางอนุกรรมการก็จะได้รีบเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อไป อย่างไรก็ตามการชุมนุมที่เกิดขึ้น ทางสำนักงานฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ชุมนุมมาตลอด
