นายกฯ เข้าทำเนียบช่วงเช้าปฏิบัติภารกิจ ก่อนเดินทางรับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเป็น ปธ.งานวันราชวัลลภ ช่วงบ่ายถกฝ่ายเกี่ยวข้องคดีพระวิหารพร้อม ถกทนายสู้คดีก่อนแถลงหลังมีคำพิพากษา 40 นาที โฆษกรัฐเปิดให้สื่อบันทึกภาพห้องวอร์รูมตามติดคดีพระวิหารที่ทำเนียบ มีการติดตั้งวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ “จารุพงศ์” สั่งผู้ว่าฯ รับมือสถานการณ์พระวิหาร-นิรโทษกรรมย้ำ ม็อบ ปชป.หวังล้มรัฐ เตรียมเอาผิดเป็นกบฏ เชื่อใช้ปมพระวิหารปลุกปั่น
วันนี้ (11 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. เพื่อบันทึกเทปการปาฐกถาเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและบทบาทของสตรี ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเอธิโอเบีย ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายนนี้ โดยก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดจะเดินทางไปร่วมเวทีแต่ได้ยกเลิก โดยมอบหมายให้นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปแทน เพราะนายกรัฐมนตรีจะติดตามการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารระหว่างไทยและกัมพูชา
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางออกจากทำเนียบเพื่อร่วมเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานงานวันราชวัลลภ ประจำปี 2556 และพระราชทานเข็มราชวัลลภแก่นายทหารพิเศษ อดีตนายทหารมหาดเล็ก รักษาพระองค์ฯ ที่ได้รับพระราชทานยศเป็นนายพล และนายทหารมหาดเล็ก รักษาพระองค์ จำนวน 55 ราย ณ กองบังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ มหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา ที่วอร์รูม ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 16.00 น.นายกรัฐมนตรีจะเข้ารับฟังการถ่ายทอดสดศาลอ่านคำพิพากษา ก่อนที่จะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ
ส่วนนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำสื่อมวลชนดูความพร้อมของรัฐบาลที่ตั้งวอร์รูม ติดตามการพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก ในเวลา 16.00 น.นี้ โดยห้องสีเขียวภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นวอร์รูม ที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยผู้นำเหล่าทัพ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับชมการอ่านคำพิพากษาของศาล ซึ่งจะมีการยิงสัญญาณสดจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอแลนด์ มายังประเทศไทย อีกทั้งห้องสีเขียวยังติดตั้งระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชื่อมต่อสัญญาณการติดต่อสื่อสารไปยังทุกจังหวัด เพื่อให้รับทราบข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งให้นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการได้ทันที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนไทย กัมพูชา พร้อมกันนี้ยัง
มีการเชื่อมต่อระบบสื่อสารกับคณะผู้แทนไทย ที่ไปรับฟังคำตัดสินของศาลโลก เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสามารถพูดคุย หารือกับคณะทำงานได้โดยตรง
ขณะที่ห้องสีม่วงจะใช้เป็นสตูดิโอดำเนินรายการของโฆษกรัฐบาล โฆษกกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสัมภาษณ์พิเศษ คณะผู้แทนไทย ที่ต้องทำความเข้าใจกับคำพิพากษา เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลที่ไม่บิดเบือน
ทั้งนี้ คาดว่าศาลโลกจะใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่าง 16.00-18.00 น. จากนั้น นายวีระชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก จะวีโอดีมายังวอร์รูมเพื่อหารือถึงคำพิพากษา และร่วมร่างแถลงการณ์เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกับประชาชน จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีก็จะอ่านแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ทันทีที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังระบุว่า รัฐบาลไม่มีการเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ ด้วยการเตรียมออกจากทำเนียบรัฐบาลหากเกิดการชุมนุมลุกลามมายังทำเนียบรัฐบาล
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าการที่ม็อบที่เคยบอกว่าจะเลิกชุมนุม หากรัฐบาลถอน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่วันนี้แสดงให้เห็นว่าม็อบไม่ปฏิบัติตามที่ได้เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือต้องการล้มล้างรัฐบาล ซึ่งพฤติกรรมขณะนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายกบฏ ล้มล้างรัฐบาล ซึ่งจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่า หากฝ่ายค้านเห็นว่า รัฐบาลมีความผิดพลาดและล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ควรใช้เวทีสภาในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนวันที่ 28 พ.ย.นี้ พร้อมมองว่าสถานการณ์ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการลงทุน และการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคาดการณ์ว่าฝ่ายค้านจะต้องใช้คำตัดสินของศาลโลกในคดีปราสาทพระวิหาร ในช่วงเย็นวันนี้ (11 พ.ย.) เพื่อปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยระบุ ได้เตรียมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์ หลังศาลโลกอ่านคำพิพากษา โดยเน้นย้ำดูแลรักษาสถานที่ราชการอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนทุกเรื่อง ทั้งการถอนร่าง พ.ร.บ นิรโทษกรรม และกระบวนการพิจารณาในคดีปราสาทพระวิหาร