เกาะกระแส
00 เชื่อว่าเวลานี้คนไทยคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าจะจัดการกับ "พวกเหลี่ยมจัด" ที่นำโดย ทักษิณ ชินวัตร กลุ่มนี้อย่างไรดี และเชื่อว่าวันที่ 11 พ.ย.นี้ จะได้เห็นการแสดงออกได้อย่างเต็มที่กันเสียที นั่นคือ "ไล่มันไปทั้งโคตร" ถือว่า วันนี้คือวัน "ตาสว่างแห่งชาติ" รวมพลไล่ออกไปให้ "พ้นซอย"ไปให้ไกลลิบยิ่งดี เพราะที่ผ่านมาถือว่าตระกูลนี้ ได้สูบเลือดสูบเนื้อสังคมไทยมานานเกินพอแล้ว แต่ก็ยังกัดฟันทนอยู่ได้ตั้งนาน แต่ก็อย่างว่าแหละ ทุกอย่างย่อมมี"จุดสิ้นสุด" หลังจากคนพวกนี้ไม่ยอมหยุด "ได้คืบเอาวา" อยู่ตลอดเวลา
00 ถามย้ำอีกทีก็ได้ว่า ฝีมือของรัฐบาล "นางนายกฯ" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างไร "เธอโง่" หรือฉลาดหลักแหลม มีความหวังคุ้มค่ากับกับเงินเดือนเงินภาษีของราษฎรบ้างหรือไม่ ผ่านมาเกือบสามปีเป็นอย่างไร คนไทยมีความสุขเพิ่มขึ้นมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำมาค้าขายดีขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกัยคนในครอบครัวของเธอแล้ว คนพวกนี้รวยขึ้น หรือ "โกงมากขึ้น" หรือเปล่า ที่โม้ว่าจะกระชากค่าครองชีพลงมาแล้วเป็นไง พี่น้อง "สบายมั๊ยค้า" หากไม่เชื่อก็ลองบอกสักเรื่องสิว่าผลงานของรัฐบาล "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" มีอะไรบ้าง ให้เวลาตอบสักพักใหญ่ก็ยังนึกไม่ออก เพราะมันไม่มีสักเรื่อง ก็ขนาดรธน. กำหนดให้ต้องแถลงผลงานรัฐบาลต่อสภาในรอบหนึ่งปี ก็ยังเค้นไม่ออก กว่าจะแถลงได้ ผ่านไปเกือบสามปีแล้ว แต่ถ้าบอกว่ามีผลงานอะไรบ้างที่ทำเพื่อ "พี่ชาย" ก็นับกันไม่หวาดไม่ไหว มันช่างอัปยศสิ้นดี
00 สำหรับ พ.ร.บ.ล้างผิด "เหมาเข่ง" เที่ยวนี้ถือว่า "เหลืออด" เหลือทนกันจริงๆ เพราะคนไทยรับไม่ได้ ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพจึงออกมา มันไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่ออกมาเพื่อปกป้องหลักนิติธรรม นิติรัฐ ถ้ากม.อุบาทว์แบบนี้ออกมาใช้ได้ ต่อไปการจัดการกับคนโกงก็ไม่มีความหมาย และ ป.ป.ช.ก็แถลงชัดเจนแล้วว่า คดีทุจริตที่ค้างคาอยู่กว่า 3 หมื่นคดี ก็จะลบล้างหมด เป็นครั้งแรกที่ระดับ "ตุลาการ" ยังทนไม่ไหว ต้องออกมาร่วมกันต้าน ถ้าลองเป็นแบบนี้มันก็ต้อง "ชั่วกันทั้งโคตร" และมีทางเดียวก็ต้องไล่มันไปทั้งโคตรเท่านั้น และนาทีนี้ก็ต้องพ่วง "สองขี้ข้า" ที่เป็นตัวสร้างปัญหาให้บ้านเมืองออกไปด้วย นั่นคือ ขี้ข้าคนแรก ที่เป็นประธานรัฐสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อีกคนที่เป็นขี้ข้าคนใหม่ที่ไม่อาจลืมเป็นอันขาดก็คือ ประธานวุฒิสภา นิคม ไวยรัชพานิช ถ้าไม่มีสองคนนี้เป็นเครื่องมือ"เรื่องอุบาทว์" ทั้งหลายในบ้านเมืองนี้ คงเกิดขึ้นไม่ง่าย
00 นาทีนี้คงไม่ต้องไปสนใจ "มุกตลกฝืดตบตา" ที่บอกว่าถอยสุดซอยแล้ว สัญญาว่าจะไม่เสนอเข้ามาอีกแล้ว นี่คือสัญญาน้ำลายสกปรกของพวกโจร ที่พอ"เจ้าทรัพย์" จับได้ และตื่นตัวป้องกัน จึงทำทุกอย่างให้ตายใจ แต่พอเผลอก็เอาอีก เหมือนกับที่เคยทำมาตลอด ที่เห็นชัดก็คือ ร่าง กม.นิรโทษฯ นี่แหละ ตอนแรกบอกพวกหัวโจกไม่เกี่ยว ทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยว แต่พอเผลอก็ดันพรวดเข้ามาหน้าตาเฉย ดังนั้น ถ้าไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากรำคาญอีก ก็ต้องไล่มันไปให้พ้นเท่านั้น อย่าวอกแวก ใจอ่อน เป็นอันขาด
00 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถแยกคนเสื้อแดงออกมาได้ชัดเจนเช่นเดียวกันว่า ในที่สุดคนพวกนี้ก็เป็นแค่สมุนการเมือง ของพรรคเพื่อไทย เป็นสมุนของครอบครัวชินวัตร เท่านั้น กับอีกพวกที่เป็นแดงหลักการ ซึ่งกลุ่มหลังนี่ถือว่ามีจำนวนน้อย โดยเฉพาะพวก"หัวโจก" ที่พยายามเล่นละครตบตา แต่มันไม่เนียนแถมทุเรศ โดยเฉพาะบทจูบปากกับ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร ที่บอกว่าให้อภัยกันแล้ว ทั้งที่งานนี้เป็นการ "อัพค่าตัว" เพิ่มราคาให้หัวโจกบางคน ที่แน่ๆ อีกไม่นานเราจะได้เห็น ฯพณฯ รมต.ตู่. จตุพร พรหมพันธุ์ หลังจากมี รมต.เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ "โชว์ห่วย" กันไปแล้ว สนุกกันใหญ่ละทีนี้
00 อีกเรื่องใหญ่ที่ต้องมาถึงจนได้ก็คือ คำตัดสินของศาลโลก เรื่องเขตแดนปราสาทพระวิหาร ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องมาเครียดกันเลย และหากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประกาศให้ชัดตั้งแต่ต้นว่า เราไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ไม่รับรู้ แต่นี่เป็นเพราะเรามีรัฐบาล และคนที่อยู่เหนือรัฐบาลดันมีผลประโยชน์ร่วมกับผู้นำกัมพูชา ถึงขั้นเป็น "ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจส่วนตัว" แถมยังมีลูกสาวของ สมชาย-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไปเป็น "ดอง" กันเสียอีก ลองหลับตานึกภาพเอาก็แล้วกัน ว่าผลจะออกมาอย่างไร มิหนำซ้ำเรายังมีผู้นำกองทัพที่ "โหล่ยโท่ย" จนบัดนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้นำกองทัพฝ่ายไหนกันแน่ เพราะเรามีทั้งรัฐบาลที่ห่วย กับผู้นำกองทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สั่งให้ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาและคนไทยเงียบเสียงเอาไว้ เพียงเพราะเกรงว่าฝ่ายโน้นจะไม่พอใจ และเข้าใจผิด... ทุด !!