ปธ.สภา-ปธ.วุฒิฯ- 312 สมาชิกรัฐสภาเมินเข้าแจงศาล รธน.คดีแก้ รธน.ที่มา ส.ว. ส่งผลนัดไต่สวน 8 พ.ย.มีแค่ผู้ร้องและพยานร่วม 10 ปาก ขณะที่ประชุมคณะตุลาการ 6 พ.ย.นี้มีพิจารณาคุณสมบัติ 2 ส.ส.พรรครักประเทศไทย “ชัยวัฒน์-โปรดปราน” หลัง กกต.มีมติพ้นจากสมาชิกพรรคเนื่องจากลาออกทำให้พ้นจาก ส.ส.
วันนี้ (4 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดไต่สวนคู่กรณีในคำร้องที่ ส.ส.และ ส.ว.ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.เข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิถีทางที่มิได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 หรือไม่ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ และได้ให้คู่กรณีส่งบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงพร้อมบัญชีพยานที่ประสงค์จะเข้ารับการไต่สวนกลับมายังศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าฝ่ายผู้ถูกร้อง คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานุวุฒิสภา และสมาชิกรัฐสภารวม 312 คน ไม่มีบุคคลใดยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันมา มีเพียงฝ่ายผู้ร้อง คือ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง พร้อมยื่นบัญชีพยานที่ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.และ ส.ว.เพื่อขอเข้ารับการไต่สวน รวมพยานทั้งหมดประมาณ 10 ราย ยกเว้น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ร้องที่ไม่ได้ยื่นบันทึกถ้อยคำมา
ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้คู่กรณียื่นบันทึกถ้อยคำและบัญชีพยานแล้ว การที่ฝ่ายผู้ถูกร้องไม่ยื่น ศาลก็จะถือว่าไม่ติดใจและจะสืบพยานฝ่ายผู้ร้องเพียงฝ่ายเดียว โดยทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็จะได้นำรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้เสนอเข้าที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 6 พ.ย.ให้พิจารณา เพื่อกำหนดแนวทางในการไต่สวนวันที่ 8 พ.ย.ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันที่ 6 พ.ย.นั้นที่ประชุมยังมีวาระการพิจารณากรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ และนายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย เนื่องจากลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทย โดยที่ประชุมฯจะมีพิจารณาบันทึกถ้อยคำของคู่กรณี รวมถึงพิจารณาว่าจะต้องไต่สวนพยานตามที่มีการร้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว กกต.ได้มีมติเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ว่าการที่นายชัยวัฒน์ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือลาออกจากเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 11 ม.ค. 55 และนายโปรดปราน ได้ลงลายมือชื่อในหนังสือลาออกจากเป็นสมาชิกพรรครักประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 10 ม.ค. 55 จริง หลังการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 54 โดยดำเนินการเรื่องดังกล่าว ณ ที่ทำการพรรครักประเทศไทย และยื่นต่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยในวันเดียวกันนั้น ตามกฎหมายแล้วถือว่าเมื่อหนังสือลาออกของบุคคลทั้งสองคน ยื่นถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรค การลาออกนั้นเป็นอันสมบูรณ์ ส่งผลให้สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (7) ที่ กกต.ต้องยื่นต่อประธานสภาฯ เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ดังนั้นเป็นไปได้ว่าคำร้องที่ประธานสภาฯ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นน่าจะมาจากกรณีเดียวกันนี้