เกาะกระแส
00 อย่าเพิ่งงง หงุดหงิดกับข้อความข้างบนที่ว่า "ความชั่วของแม้วมันดี" และแม้วที่ว่านั่นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เขาสั่งให้มานั่งคร่อมเก้าอี้นายกฯ เพื่อใช้สำหรับลงนามรักษาอำนาจรัฐเอาไว้เท่านั้น ถามว่าแล้ว ความชั่วของ แม้ว-ทักษิณ มันดีอย่างไร ก็ต้องตอบแบบที่เห็นก็คือเป็น"ความชั่ว" ที่เผยให้สังคมได้เห็นอย่างหมดเปลือก ทำให้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ที่แม้ในอดีตอาจแยกแตกออกไปเริ่มกลับกอดคอรวมตัวกันใหม่ เพื่อเป้าหมายร่วมกันเพียงอย่างเดียวคือ "ไล่มันไปให้พ้น"
00 การใช้กำลังรุมข่มขืนน้ำใจคนไทย ด้วยการผ่านร่าง "กฎหมายอุบาทว์" เพื่อหวังลบล้างความผิดให้กับ "โคตรโกง" ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวเท่านั้น มันทำให้เวลานี้คนไทยเริ่มหันกลับมา "จับมือ" กันแล้ว"เดินออกมา" พร้อมๆ กัน บรรยากาศที่เห็นดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว และที่ผ่านมา ทักษิณ เป็นคนที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกย่อยยับ แต่ขณะเดียวกัน ด้วยความชั่วความเลวของเขาเช่นเดียวกันนี่แหละ ที่กำลังทำให้คนไทยเริ่มหันกลับมาร่วมมือกันใหม่ ในนามของภาคประชาชน "คนทนไม่ไหว"
00 นาทีนี้เราได้เห็นภาคประชาชนแทบทุกกลุ่ม ที่ทยอยออกมา อาทิ กลุ่มนักวิชาการตามหาวิทยาลัย ทั้ง ธรรมศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มขยับ แสดงตัวเปิดหน้าชนกันชัดเจน และวันจันทร์ที่ 4 พ.ย. จะเป็นวันดีเดย์สำคัญอีกวันหนึ่ง เพราะทุกเครือข่ายต่อต้าน กม.อุบาทว์ ได้นัดหมายออกมาคัดค้านพร้อมกัน ที่น่าจับตาก็คือกลุ่ม "นักธุรกิจย่านสีลม" ที่เคยเคลื่อนไหวจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วในปี 35 คราวนี้ก็ทนไม่ไหว ต้องออกมาอีกรอบ นี่ยังไม่นับกลุ่ม นักศึกษา นักวิชาการ และมวลชนที่ออกมาปักหลักพักค้างอยู่แล้ว ทั้งที่ สวนลุมพินี แยกอุรุพงษ์ รวมทั้งกลุ่มมวลชนเวทีพรรคปราธิปัตย์ ที่ปักหลักอยู่ที่สถานีรถไฟสามเสน
00 พูดถึงเวทีปชป. ก็อยากจะเตือนด้วยความหวังดี ทั้งที่นาทีนี้ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะเดี๋ยวจะเสียบรรยากาศกันเปล่าๆ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพูด เพื่อเตือนสติเอาไว้ก่อนว่า ลักษณะมวลชนที่ออกมาคราวนี้เกือบทั้งหมด พวกเขาล้วน"ตื่นรู้-ก้าวหน้า"ไปไกลเกินกว่าที่นักการเมืองมาใช้สำนวนโวหารฉวยโอกาสหาเสียงกันแบบเฉพาะหน้ากันแล้ว เพราะสิ่งที่คนไทยต้องการก็คือ "อนาคตข้างหน้า" ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป จะ"ปฏิรูปกันทุกภาคส่วน" อย่างไร เพื่อไม่ให้ความเลวกลับมาอีก ไม่ใช่คราวนี้เมื่อขับไล่ อำนาจแม้วออกไป แล้วก็มีอำนาจชั่วใหม่เข้ามาอีก พรรคประชาธิปัตย์ต้องมองให้ไกล
00 ขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นกลุ่มองค์กรที่ถือว่ามี "พลังในตัวเอง" มากที่สุด พร้อมที่สุดในตอนนี้ ถึงเวลาที่จะต้อง "เสียสละ" กันอย่างจริงจัง และจริงใจ แบบเต็มร้อย อย่าสู้ๆ หยุดๆ กั๊กๆ รวมทั้งอย่าผลักภาระไปให้คนอื่น เนื่องจากตัวเองนั่นแหละมีศักยภาพที่สุด เพราะคนอื่นเขาเจ็บตายกันมามากแล้ว และคราวนี้ก็มีสิทธิ์เจ็บตายกันอีก เพราะถึงอย่างไร แม้ว มันมีกลไกรัฐ มีข้าราชการทหาร ตำรวจ เป็นขี้ข้ารองตีนที่พร้อมเสนอหน้าแย่งกัน แย่งกันยิง แย่งกันทุบมวลชนที่ออกมาต่อต้านได้ตลอดเวลา ดังนั้น ถึงเวลาที่คนอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน ต้องออกมานำ "แบบม้วนเดียวจบ" ได้แล้ว อย่ามัวแต่ท่องอยู่แต่วลีเดิม "ผมเชื่อมั่นในรัฐสภา" มันอาจจะใช้ได้บางยุค แต่ตอนนี้มันไม่เหลือสภาพรัฐสภา แต่มันไม่ต่างจาก "ซ่องโจร" หรือ "สภาของโจร" ไปแล้ว
