เบื้องหลัง...มติพรรคเผาไทย กดปุ่มมัดมือส.ส.หนุนนิรโทษฯ

เมื่อยากจะประเมินได้ว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางเดินของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯจะเดินไปอย่างไรหลังมีการนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรเมื่อ 31 ตุลาคม 2556ที่ผ่านมา มันจะเดินไปอย่างไรเพราะเป็นเรื่องที่ยากจะหยั่งรู้ได้

แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังของมติพรรคเพื่อไทยที่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากแกนนำพรรคหลังการประชุมใหญ่ส.ส.พรรคเพื่อไทยเมื่อ29 ต.ค. 56 ที่ประเด็นหลัก ๆก็คือพรรคเพื่อไทย อ้างว่าพรรคมีความยากลำบากในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะอยู่ในสถานการณ์ความขัดแย้งของสังคม แต่พรรคก็มีข้อยุติ

ให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมลงมติในทางเดียวกันให้เกิดความเป็นเอกภาพเพื่อสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามมติของกรรมาธิการเสียงข้างมาก

แปลไทยเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ ได้ว่า มติพรรคเพื่อไทยบังคับให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนต้องเข้าประชุมสภาฯโดยพร้อมเพียง และต้องโหวตให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯตามร่างของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯทุกมาตราทุกตัวอักษร

ห้ามโหวตไปให้ความเห็นชอบตามร่างเดิมของวรชัยเหมะโดยเด็ดขาด

“ทีมข่าวการเมือง”มองว่ามติพรรคเพื่อไทยดังกล่าวมีควาสนใจยิ่งเพราะเป็นมติพรรคที่มีฉากดราม่าการเมืองให้เห็นและวิเคราะห์ได้หลายช็อตนอกเหนือจากหน้าฉากที่เห็นชัดว่า มันคือ

“มติบังคับ-มัดมือ”

พวกส.ส.เพื่อไทย ให้ต้องกดปุ่มโหวตทำตามคำสั่งของพรรคที่มีเบื้องหลังกำกับมาแบบเด็ดขาดว่า หากใครไม่ทำตามหรือแข็งข้อก็อาจจะพิจารณาลงโทษการเมืองด้วยการไม่ส่งลงเลือกตั้งเพื่อดัดหลังทำให้อนาคตการเมืองตีบตัน

บนกระแสข่าวที่ยืนยันได้ว่าก่อนหน้าการแถลงท่าทีดังกล่าวของเพื่อไทย รวมถึงก่อนการเปิดห้องประชุมใหญ่ส.ส.เพื่อไทยเพื่อหารือกันถึงท่าทีของพรรคต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ

พบว่าวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมเล็กของพรรคเพื่อไทยมีการประชุมคีย์แมนของพรรคหรือเรียกว่า “คณะกรรมการประสานภารกิจพรรคเพื่อไทย”เป็นบอร์ดการเมืองของเพื่อไทย แม้จะไม่มีบทบาทมากเท่ากับคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคคือเป็นคณะกรรมการที่จะทำหน้าที่คอยกำหนดทิศทางท่าทีพรรคเพื่อไทยต่อสถานการณ์การเมืองในเรื่องสำคัญๆเช่นการช่วยคัดเลือกคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ก่อนจะส่งให้กรรมการบริหารพรรคและทักษิณพิจารณาอีกครั้ง

ข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมบอร์ดประสานภารกิจดังกล่าวได้มีข้อสรุปใหญ่ออกมาว่าส.ส.เพื่อไทยทุกคนต้องโหวตเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯของกรรมาธิการโดยช่วงหนึ่งในการประชุม สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยทักษิณ ชินวัตรได้ระบุในที่ประชุมว่าหากส.ส.คนไหนฝ่าฝืน ก็อาจจำเป็นต้องใช้ข้อบังคับพรรคพิจารณาไม่ส่งส.ส.คนนั้นลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ท่าทีดังกล่าวพบว่าได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วภายในกลุ่มส.ส.เพื่อไทยที่รับรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงสายโดยที่ตัวเองยังไม่ทันได้เข้าตึกที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ

พอข่าวเรื่องจะจัดการใครที่แข็งขืนจะไม่ส่งลงเลือกตั้งเลยทำให้พวกส.ส.สายแดงหลายสิบคน พอทราบและได้รับการยืนยันข่าวท่าทีจากเดิมที่บอกคัดค้านไม่เอาด้วย ก็เปลี่ยนไปแทบจะทันที

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว ก็อาจยกเว้นให้กับส.ส.เสื้อแดง ที่เป็นแกนนำนปช.ระดับตัวเอ้บนความเข้าใจระหว่างกันว่าพวกส.ส.เสื้อแดงเหล่านี้ ที่น่าจะมีประมาณ 2-3 คนเช่น ณัฐวุฒิใสยเกื้อ -เหวง โตจิราการ-ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่แจ้งกับผู้ใหญ่ในพรรคว่าหากขืนทำตามมติพรรคก็จะถูกคนเสื้อแดงประณามและหมดความเชื่อถือจึงขอให้พรรคยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ

จึงขอให้รู้ว่าแกนนำพรรคที่ทำมาเป็นเล่นบทขึงขังกำชับทั้งในพรรคและผ่านสื่อว่าห้ามส.ส.เพื่อไทยคนไหนแตกแถวก็ขยิบตาให้พวกนี้อยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน กว่าที่พรรคเพื่อไทยจะมีมติพรรคให้ส.ส.ทุกคนโหวตเห็นชอบกับร่างของกมธ. ที่ได้รับรู้มาก็คือในการประชุมส.ส.เพื่อไทยวันดังกล่าวก็คือมีส.ส.เพื่อไทยหลายคนพูดสนับสนุนการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯดังกล่าวของกมธ.กลางที่ประชุมใหญ่ส.ส.เพื่อไทยที่แม้ไม่มีการวิดีโอลิงค์หรือโฟนอินมายังที่ประชุมส.ส.เพื่อไทยของทักษิณชินวัตรแต่ทักษิณ ก็ส่ง สมชาย และเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์มาคุมแทน

แม้สองผัวเมียจอบแสบไม่ได้พูดจาแสดงความเห็นอะไรแต่ก็เข้าไปนั่งเหมือนกับจะบอกส.ส.ในพท.ว่าส.ส.ต้องโหวตตามร่างกมธ.ห้ามแตกแถวห้ามแหกคอก

จนมีข่าววงในเล่ามาว่าในที่ประชุมส.ส.เพื่อไทยดังกล่าว ได้มีส.ส.เพื่อไทยหลายต่อหลายคนได้พูดสนับสนุนให้เพื่อไทยเดินหน้าลุยโหวตร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ให้ออกมาเร็วที่สุดก็อย่างที่มีข่าวยืนยันว่าในที่ประชุมมีส.ส.อย่างปวีณ แซ่จึงส.ส.ศรีษะเกษ เพื่อไทยพูดในที่ประชุมส.ส.เพื่อไทยดังกล่าวตอนหนึ่งว่า

“ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เพื่อไทยก็หาเสียงมาตลอดว่าขอให้เลือกพรรคเพื่อจะได้พาท่านทักษิณกลับบ้านโดยเฉพาะการหาเสียงในภาคอีสานส.ส.ของพรรคก็หาเสียงประเด็นนี้จนทำให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง คือหาเสียงว่าจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน วันนี้ประชาชนเขาทวงถามตลอดว่าเมื่อไหร่ท่านทักษิณจะได้กลับบ้านเสียที เพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาสองปีกว่าแล้ว เมื่อดูเวลาแล้วต้องถามว่าถ้าไม่เอาตอนนี้แล้วจะเอาตอนไหน

เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรก็เป็นกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้ว ตอนนี้พร้อมที่สุดแล้ว ต้องเอาทักษิณกลับบ้านไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน“

ไม่เว้นแม้แต่พวกส.ส.สายเสื้อแดง แม้ไม่ใช่แกนนำนปช.แต่ก็เป็นส.ส.สายเสื้อแดงเต็มตัว อาทินพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ สายนปช.อีสานรวมถึงยังเป็นกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วย ก็พบว่าพลิกท่าทีพอสมควร

หลังก่อนหน้านี้เดิมทีทำเป็นบอกว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับร่างกมธ.บางเรื่อง แต่พอช่วงหลังเริ่มเห็นสัญญาณชัดจากแกนนำพรรคทุกระดับไล่ตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร-สมชายและเยาวภาวงศ์สวัสดิ์-จารุพงศ์ เรืองสุวรรณและภูมิธรรมเวชยชัยที่ยืนกรานมาร่วมสองสัปดาห์ว่าให้เอาร่างกมธ.ไม่เอาร่างของวรชัย

ก็ทำให้พวกส.ส.สายเสื้อแดงหลายคน ท่าทีจากที่ทำขึงขังบอกจะเสนอให้พรรคมีมติให้โหวตเห็นชอบกลับไปใช้ร่างเดิมของวรชัยเหมะ ก็อ่อนยวบทันที แล้วก็ไปแสดงท่าทีหนุนหลังร่างกมธ.โดยยกเหตุผลมาอ้างสารพัดทำนองว่าไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนแต่ต้องเห็นแก่ประเทศชาติแม้จะทำใจลำบากและอาจตอบคำถามมวลชนเสื้อแดงได้ไม่เต็มปาก สบตาไม่เต็มร้อยกับการที่จะยอมให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ หลุดพ้นการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดี98 ศพ

ตามข่าวที่มีการถ่ายทอดกันมาพวกสายเสื้อแดงหลายคน พลิกท่าทีกันแบบ พวกเดียวกันยังนึกไม่ถึงเพียงแต่ลีลาของใครจะเนียนกว่ากันในการยกเหตุมาอ้างว่าทำไมท่าทีจากตอนแรกบอกไม่ได้ต้องเอาร่างของวรชัยแต่ตอนหลังบอกยังไงก็ได้

อย่างหมอเชิดชัยตันติศิรินทร์ก็มีข่าวว่าได้พูดต่อที่ประชุมพรรควันดังกล่าวเช่นกันว่าเข้าใจเหตุผลของพรรคว่าทำไมไม่เอาร่างของวรชัยมาเอาร่างของกมธ.โดยพร้อมปฏิบัติตามมติพรรค แถมมีข่าวว่า นพ.เชิดชัย ได้อ้างคำพูดของเติ้งเสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีนมาพูดคุยกับส.ส.เพื่อไทย ว่า ไม่ยึดติดว่าพรรคจะนิรโทษกรรมอย่างไรขอให้ช่วยคนเสื้อแดงให้ออกมาจากคุกให้ได้โดยเร็ว พร้อมกับยกคำพูดอมตะของเติ้งเสี่ยว ผิง อดีตผู้นำจีนที่ว่า แมวสีไหน ไม่สำคัญจะสีดำหรือสีขาวขอให้จับหนูให้ได้เป็นพอ ที่นพ.เชิดชัยเปรียบเทียบว่า

“ มันก็เหมือนกับที่พรรคกำลังทำตอนนี้คือใช้วิธีการไหนก็ได้เพื่อให้มีการนิรโทษกรรมคนเสื้อแดงที่ติดคุกให้ได้พ้นโทษโดยเร็ว”

นอกจากนี้ก็มีการให้ข้อมูลกันออกมาจากส.ส.เพื่อไทยบางว่ามีอยู่บางช่วยวางตอนพวกสายเสื้อแดงอย่าง วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อและแกนนำนปช.กล่าวในที่ประชุมว่า แม้จะขมขื่นแต่ยอมรับมติพรรค อยากให้อภัยกัน

“วันนี้นิรโทษกรรมต้องแลกกันถ้าเราได้ฝ่ายเดียวเขาไม่ได้ ใครจะไปยอมวันนี้ต้องเอาพ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นเหมือนหัวมังกรกลับมาก่อนและพร้อมจะไปทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงเพื่อให้เข้าใจแนวทางดังกล่าวว่าทำไมพรรคถึงไม่เอาร่างของวรชัยเหมือนตอนโหวตวาระแรก จะได้หใประชาชนรู้เหตุผลและความจำเป็น”

มาถึงตรงนี้ทำให้เห็นได้ว่าแม้ไม่รู้ว่า เส้นทางของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯจะมีผลออกมาแบบไหนแต่ที่มาที่ไปของมติพรรคเพื่อไทยที่สั่งห้ามส.ส.ของพรรคแตกแถวรวมถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของพวกส.ส.สายเสื้อแดง ชนิดหลายคนเสียการยอมรับจากมวลชนไปแล้ว

หลังมติลุยสุดซอยหนุนพรบ.ล้างผิดให้ทักษิณทำให้เห็นชัดมากขึ้นว่าที่พูดกันว่า ส.ส.เพื่อไทยมีสภาพไม่ต่างอะไรกับพนักงานบริษัทเพื่อไทยหรือพนักงานบริษัททักษิณมันเป็นเรื่องจริง เพราะทุกอย่างรอทักษิณ-แกนนำพรรคไม่กี่คนกดปุ่มอย่างเดียว

หรือใครจะเถียง?