รายงานการเมือง โดย แสงตะวัน
ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบร่างดังกล่าวเสร็จตามขั้นตอนไปแล้ว
โดยที่ที่ประชุมเห็นชอบตามร่างของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวาระ 2 ทุกมาตรา และเห็นชอบร่างดังกล่าววาระ 3 ไปแล้ว เมื่อช่วงใกล้จะรุ่งเช้าของวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. 2556 ชนิดที่หลายคนก็คงคาดไม่ถึง
ทักษิณ ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย กดปุ่มสั่งการเด็ดขาดให้ “สภาทาส” ต้องเข็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ออกมาให้เร็วที่สุด ยิ่งเมื่อทักษิณ-แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เห็นภาพมีประชาชนหลายหมื่นคนมารวมตัวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯกันที่สถานีรถไฟสามเสนกันเนืองแน่นและมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกรงว่าหากปล่อยให้สภาฯ พิจารณากันยืดเยื้อลากยาวกันไปถึงวันศุกร์-เสาร์ จะคุมสถานการณ์กันยากลำบาก เลยสั่งให้สภาทาสเดินหน้าลุยโหวตปิดเกมเร็ว
โดยใช้แผนชั่วที่เคยทำมาแล้วหลายครั้ง นั่นก็คือให้เสนอปิดอภิปรายลูกเดียว ไม่ยอมให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายแสดงความเห็นอะไร อย่างมาตรา 3 ที่เป็นมาตราที่มีปัญหามากที่สุด มีข้อท้วงติงมากที่สุดว่ากรรมาธิการเสียงข้างมากฯเขียนกันออกมาตาม “ใบสั่ง” ของ นช.ทักษิณ และถูกคาดหมายว่าจะเป็นมาตราที่มีการอภิปรายกันร้อนแรงมากที่สุดเพราะมี ส.ส.ประชาธิปัตย์จ้องอภิปรายกันหลายสิบคน
จนคาดว่าเฉพาะมาตรา 3 อย่างเดียว น่าจะใช้เวลาการอภิปรายไม่น้อยกว่า 6-7 ชั่วโมง แต่ปรากฏว่ามาเจอเอาวิธีการสกปรกของเพื่อไทยใช้วิธีเปิดประชุมสภาฯ ต่อเนื่อง Non stop จากเช้าวันพฤหัสบดีมาจบเอาเช้าวันศุกร์ที่ 1 พ.ย. คือเกือบตี 5 เพื่อเร่งผ่านร่างออกมาให้เร็วที่สุด และใช้วิธีการเสนอปิดอภิปรายอย่างเร่งรีบโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่มาตรา 2 และ 3
แม้ ส.ส.ประชาธิปัตย์จะพยายามใช้วิธีการประท้วงสารพัดรูปแบบ เช่น โห่ไล่ประธานสภาฯ โห่ประณามสภาทาส สภาขี้ข้า มีการอภิปรายอัดประธานในที่ประชุมอย่างหนักว่าไม่ยอมปิดประชุมสภาฯทั้งที่ล่วงเลยเวลาเข้าไป ตี 2 ตี 3 แล้ว ผิดวิสัยที่จะมีการประชุมอะไรกันมาราธอนแบบนี้
ทว่า ก็ต้านทานไม่ได้ เพราะพวกเพื่อไทยมันหน้าด้านอยู่แล้ว เดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อช่วยนายใหญ่เสียงทักท้วงว่าการเสนอปิดอภิปรายเพื่อปิดปากฝ่ายค้านแม้ฝ่ายค้านจะพยายามพูดจนปากแทบฉีกเพื่อขอใช้สิทธิของ ส.ส.ที่ต้องการอภิปรายแสดงความเห็นตามที่ได้ขอสงวนคำแปรญัตติเอาไว้แต่พวกเพื่อไทยก็ไม่สนใจ เดินหน้ากดปุ่ม เห็นควรให้ ปิดอภิปรายอย่างเดียว
ส่งผลให้บางมาตราเช่นมาตรา 5 ที่ก็สำคัญเช่นกันปรากฏว่าใช้เวลาการประชุมกันไม่กี่นาที ก็เสร็จแล้ว!
จนสุดท้าย เมื่อมีการพิจารณาครบทั้ง 7 มาตราก็เข้าสู่การลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในวาระ 3 หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมฝักถั่วก็ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ วาระ 3 ในช่วงเวลาประมาณเกือบตี 4 ครึ่ง จากนั้นก็ปิดการประชุมทันที และขั้นตอนต่อไปก็คือจะส่งร่าง พ.ร.บ.อัปยศนี้ไปให้วุฒิสภาต่อไป
พฤติกรรมของสภาทาส และประธานสภาฯ-รองประธานสภาฯ ครั้งนี้ ที่ยอมลากยาวไม่หลับไม่นอน นั่งประชุมกันหลังแข็งร่วม 18-19 ชั่วโมง ถามว่าหากไม่ใช่ร่าง พ.ร.บ.ที่จะทำให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับประเทศได้เงินคืนร่วม 4 หมื่นกว่าล้านบาท และแกนนำพรรคเพื่อไทยสั่งการมาเด็ดขาดว่าต้องผ่านออกมาให้ได้ภายในวันเดียว มีหรือที่ไอ้พวก ส.ส.เพื่อไทย และส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมันจะยอมนั่งประชุมกันหลายสิบชั่วโมง
โดยพบว่าคะแนนที่เห็นชอบให้มีการปิดอภิปรายและคะแนนเห็นชอบตามร่างของ กมธ.ทั้ง 7 มาตรา และในการลงคะแนนเสียงเห็นชอบวาระ 3 ผลออกมาว่า คะแนนเสียงโหวตเกิน 300 เสียงแทบทุกครั้ง แสดงว่ามีการกำชับมาว่าห้ามไม่ให้ ส.ส.เพื่อไทยและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหนีหายโดดประชุมเด็ดขาด คะแนนถึงออกมาพรึบเป็นฝักถั่วแบบนี้ได้
ดูแล้วก็น่าเสียดาย ที่การประชุมสภาอัปยศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงดึกมาก โดยเฉพาะไฮไลต์สำคัญที่เกิดขึ้นช่วงประมาณ ตี 2 ถึงตี 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่สนใจติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ได้นอนหลับพักผ่อนกันเกือบหมดแล้ว ทำให้หลายคนพลาดการได้เห็นภาพสภาทรราช-สภาอัปยศดังกล่าว ผนวกกับ ส.ส.ประชาธิปัตย์เองก็คงคาดไม่ถึงว่ามันจะรีบเร่งกันขนาดนี้ ผสมกับความอ่อนล้าที่ประชุมกันตลอดทั้งวัน แถมบางคนต้องวิ่งไปมาทั้งรัฐสภาและไปขึ้นเวทีที่สถานีรถไฟสามเสน เลยทำให้การคัดค้านการเสนอปิดอภิปรายของ ส.ส.เพื่อไทย ความเข้มข้นหายไปกว่าที่ควรจะทำที่เชื่อว่าหากมีการทำแบบนี้ในช่วงเย็นหรือไม่ดึกมากรับรองเดือดกว่านี้หลายสิบเท่า
ถึงตอนนี้ก็อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์แล้วว่าจะทำอย่างไร ให้เวทีสามเสนเมื่อนกหวีดเป่าออกมาแล้ว คนมาร่วมกันหลายหมื่นคน แล้วประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรกับมวลชนเหล่านี้ เพื่อทำให้เห็นว่า ทักษิณ-เพื่อไทย-สภาทาส มันสมควรต้องได้รับการสั่งสอนจากประชาชนบ้าง