xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” ชี้ “มาร์ค” พบข้าวเปลี่ยนนอมินีโกง ฉะรัฐรู้เห็นล้างผิด เหม็นขี้ฟันปราบทุจริต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ เผย หน.พรรคลงพื้นที่สอบจำนำข้าวพบโกงเช่นเดิม ชาวนาไม่ได้หมื่นห้า จีทูจีที่โม้ไว้ไม่จริง แค่เปลี่ยนนอมินีตัวใหม่ จี้นายกฯ จัดการ ก่อนเจอข้อมูลชัดๆ ศึกซักฟอก ตอกดื้อตาใสปัดไม่เกี่ยวล้างผิด “นช.แม้ว” ชี้เป็นเป้าหลัก พท.รู้เห็นมาตลอด ฉะนายกฯ เป็นตุ๊กตาไขลาน ปล่อยให้เกิด เหม็นขี้ฟันจ้อปราบโกงแต่นิรโทษกรรมคนโกง แต่มั่นใจไม่สำเร็จ-ขัด รธน.



วันนี้ (27 ต.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าวว่า จากการลงพื้นที่ดังกล่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวนาว่ายังคงมีปัญหาการทุจริตและชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว 1.5 หมื่นบาทต่อตัน พรรคจึงขอเรียนว่าแม้รัฐบาลจะพยายามเปลี่ยนรัฐมนตรีและข้าราชการที่รับผิดชอบ แต่จากการสำรวจของพรรคทั้งในเชิงลึกและกว้าง พบว่ายังมีการทุจริตยังเหมือนเดิม คือ มี 3 ขั้นตอน 1. ขั้นตอนในการรับจำนำทุจริตความชื้น น้ำหนักข้าว ยังเกิดอย่างต่อเนื่อง และที่ร้ายที่สุด คือ การสวมสิทธิ ซึ่งขบวนการเเหล่านี้ยังดำรงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง 2. ขั้นตอนเก็บรักษาข้าว เริ่มตั้งแต่ค่าขนข้าว ค่าสีแปร ค่าตรวจคุณภาพข้าว ค่ารมควัน ค่าประกันภัยข้าว ซึ่งเท่ากับว่ายังมีการหาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินที่นำมาใช้ในโครงการจำนำข้าว 3. ขั้นตอนการระบายข้าว รัฐบาลพยายามบอกว่ามีการระบายข้าวแบบจีทูจีในหลายประเทศ แต่จากการตรวจสอบของพรรคในฤดูกาลที่ผ่านมาพบว่าการระบายข้าวแบบจีทูจีไม่เป็นความจริง มีการเล่นเแร่แปรธาตุตั้งนอมินีขึ้นมาหาประโยชน์จากการระบายข้าวดังกล่าว โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน

นายองอาจกล่าวด้วยว่า การดำเนินการระบายข้าวในปัจจุบันกระบวนการก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครเท่านั้น จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 ขั้นตอนดังกล่าวเป็นขบวนการทุจริตการจำนำข้าวที่ยังคงอยู่ แม้รัฐบาลจะเปลี่ยนรัฐมนตรีและข้าราชการแล้วก็ตาม จึงขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกฯ และประธาน กขช.ว่าต้องเร่งหาวิธีการสกัดกั้นวิธิการทุจริตที่เกิดขึ้น หากนายกฯ ไม่เร่งแก้ปัญหาในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ จะได้ยินกับหูและเห็นกับตาตัวเองว่า สิ่งที่ตนพูดเกี่ยวกับขบวนการทุจริตว่ายังมีอยู่จริงหรือไม่ ตนไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้ นายกฯ จึงต้องเร่งสำรวจตรวจสอบเพื่อระงับยับยั้งการทุจริตจำนำข้าวที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายองอาจกล่าวถึงความพยายามที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาลเพื่อไทยนั้น ได้เดินหน้าเพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการเพิ่มข้อความในมาตรา 3 ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยโดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แต่นายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยพยายามปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง แต่เป็นการดื้อตาใสว่าไม่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี และนักการเมืองในเครือข่ายของพรรคเพื่อไทยที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาและคดี ทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเฉพาะคดีทุจริตมี พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคพวกเข้าไปเกี่ยวข้องถึง 16 คดี มีบุคคลเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 75 คน

ดังนั้น การแก้ไขตามนายประยุทธจึงเป็นเรื่องที่่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนมาโดยตลอด และนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่มีเป้าหมายมาตั้งแต่ต้นว่าจะดำเนินการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคพวก หลุดพ้นจากคดีอาญา และคดีทุจริตต่างๆ ตนยืนยันว่านายกฯ รัฐบาลและแกนนำเพื่อไทยรู้เห็นเป็นใจกับขั้นตอนต่างๆ ที่จะร่วมด้วยช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณและเครือข่ายบริวารไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งก่อการร้าย เผาเมือง และคดีทุจริต 16 คดีที่มีคนเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 75 คนด้วย เป็นความพยายามที่จะทำทุกวิถีทางในการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณให้กลับบ้านโดยไม่มีความผิด ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรเลิกดื้อตาใสและยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลไม่ใช่เรื่องของรัฐสภา เพราะมีการดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้บรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้ โดยยืนยันชัดเจนว่าเดินหน้าแน่นอนไม่มีถอยหลัง

“นายกฯ ยิ่งลักษณ์ และรัฐบาลกำลังคิดถึงประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องมากกว่าบ้านเมือง เพราะหากคิดถึงประเทศต้องคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง แต่นายกฯ ไม่แสดงออกในการหาทางยุติหรือยับยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยใช้วิธีนิ่งเฉย ทำตัวเหมือนตุ๊กตาไขลาน ปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่อินังขังขอบ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของนายกรัฐมนตรีที่ดี ในขณะที่ภาคประชาชนมีการรวมตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นายกฯ จึงควรไตร่ตรองก่อนที่จะมีการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระ 2 และ 3” นายองอาจกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่ากฎหมายไม่สามารถมีผลบังคับใช้ได้เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการเพิ่มข้อความที่ไม่เป็นไปตามหลักการและเหตุผลที่สภาให้ความเห็นชอบในวาระ 1 จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกมาบังคับใช้ เพราะยังมีอีกหลายประเด็ดที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา รัฐบาลจึงควรพิจารณาเรื่องนี้ ที่สำคัญคือการนิรโทษกรรมคนทุจริตคอร์รัปชันเท่ากับรัฐบาลกำลังสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชัน ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีต้องหยุดพูดการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตคอร์รัปชัน เพราะเห็นด้วยกับการนิรโทษให้คนทุจริต เพราะการออกกฎหมายดังกล่าวคือการช่วยเหลือคนทุจริตครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด หยุดพูดเรื่องการปราบปรามทุจริตเพราะคงไม่มีใครเชื่อถือเหม็นขี้ฟันเปล่าๆ อีกทั้งเชื่อว่าคนในสังคมจะไม่ยอมรับการนิรโทษกรรมให้กับคนทุจริตคอร์รัปชันได้ ดังนั้น นายกฯ ไม่ควรสนับสนุนพฤติกรรมที่จะนิรโทษกรรมให้คนโกง จึงหวังว่านายกฯ จะตระหนักว่าทุจริตเป็นมะเร็งร้ายของบ้านเมือง โดยไม่เข้าไปร่วมด้วยช่วยเหลือเพื่อให้คนทุจริตลอยนวล แต่นายกฯ คงจะวางเฉย จึงขอให้ประชาชนที่ต่อต้านการทุจริตต้องแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคนทุจริต




กำลังโหลดความคิดเห็น