xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ" ซัด "เสกสรรค์" ขยะทางประวัติศาสตร์ เตือนทุนจีนบุกทำคนไทยฉิบหาย ปราม "ปู" อย่าฟรีวีซ่าเด็ดขาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สนธิ" ชี้ "เสกสรรค์" เชิดชู "แม้ว" เป็นตัวแทนประชาธิปไตย สะท้อนเป็นคนไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง ยึดติดกับทฤษฎีเก่าๆ เปรียบเป็น "ขยะทางประวัติศาสตร์" เผย "ทักษิณ" หันพึ่งจีน หลังอเมริกาเลิกไว้ใจ พร้อมระบุจีนต้องการรถไฟความเร็วสูงเพื่อใช้ไทยเชื่อมภูมิภาคอาเซียน กันถูกอเมริกาปิดล้อม เตือนทุนจีนกำลังรุกไทยหนัก ถ้าดำเนินนโยบายห่วยทุนไทยฉิบหายแน่ ปราม "ยิ่งลักษณ์" อย่าเปิดฟรีวีซ่าด้วยเด็ดขาด หวั่นคนจีนแห่มาตั้งรกรากยึดพื้นที่ทำมาหากินหมด


วันนี้ (18 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางเอเอสทีวี ถึงกรณีที่ปตท.ขู่ฟ้อง ASTV ผู้จัดการ จากการเสนอข่าวปล่อยน้ำมันรั่วลงทะเลกระทบสิ่งแวดล้อม ว่า นี่เป็นบทเรียนหนึ่งที่อยากให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มาลงโฆษณากับเราไม่ได้แปลว่ามีสิทธิปิดปากไม่ให้พูด จุดยืนของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นแล้วหยุดขู่ได้แล้ว ถ้าจะฟ้องๆเลย

ใครอยู่แผนกประชาสัมพันธ์ของ ปตท. ต้องถอดรองเท้าแล้วเอามาตบหน้า เพราะถ้าไม่พอใจข่าวชิ้นไหน หรือคิดว่าข่าวชิ้นไหนไม่ถูกต้อง ควรส่งหลักฐานมาชี้แจง แต่ส่งจดหมายมาขู่แบบนี้มันเป็นอันธพาล คงเคยชินกับการเอาเงินค่าโฆษณาตบหน้าคนอื่นแล้วไปเที่ยวเยี่ยวรดหน้า แล้วมันก็จะมีสื่อพวกนี้เยอะที่รับเงินแล้วไม่กล้าพูด แต่ไม่ใช่เอเอสทีวี ผู้จัดการ

นายสนธิ กล่าวต่อถึงปาฐกถาของ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ว่า ตนขอเรียกคน 14 ตุลาหลายๆคนว่าวีรชนไร้เดียงสา ตอน 14 ตุลา คนส่วนใหญ่รวมถึงนายเสกสรรค์ ในช่วงนั้นเป็นเด็กหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัย สิ่งที่รู้ในเรื่องของการต่อสู้คือสิ่งที่เรียนรู้จากการอ่านหนังสือทฤษฎีของคาร์ล มาร์กซ์ แล้วเผอิญสิ่งที่สู้คือเผด็จการทหาร ยุคถนอม ประภาส ซึ่งเป็นยุคที่ขาวดำชัดเจน ด้วยเหตุนี้ก็เลยเป็นการสู้เพื่อคำว่า ประชาธิปไตย แต่ในทางลึกแล้วเลียนแบบประชาธิปไตยมาจากตะวันตกหมดเลย ในขณะเดียวกันคนพวกนั้นก็กำลังได้รับการบ่มอบรมจากลัทธิเหมา มาร์กซิสต์ หลายคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ มองว่าต้องไม่มีการแบ่งชนชั้น ประเด็นตรงนี้มันฝังจิตมา และพอเหตุการณ์ผ่านไป 40 ปี มันเป็น 40 ปีของการเปลี่ยนแปลง อุดมการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันหลายคนที่ใช้ทฤษฎี เมื่อ 14 ตุลา พอมาเหตุการณ์ทุกวันนี้มันไม่มีสอนในหนังสือ เลยมีความคิดแบบนายเสกสรรค์เป็นต้น

นายเสกสรรค์ เป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ ควรต้องเข้าใจหลักการแบ่งอำนาจระหว่างนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แต่จนวันนี้นายเสกสรรค์ยังดูไม่ออกเลยหรือว่านิติบัญญัติกับบริหารมันพวกเดียวกัน เพียงแค่นี้ก็สอบตกแล้ว หมกมุ่นในอดีต ไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง เชื่ออย่างเดียวว่าทักษิณคือตัวแทนประชาธิปไตย แค่นี้ตนก็ถือว่าไม่มีราคาแล้ว คนอื่นบอกนายเสกสรรค์เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ แต่ตนมองว่าเป็นขยะทางประวัติศาสตร์ไปแล้ว ปาฐกถาที่พูดวันนั้นเปรียบกับว่านายเสกสรรค์นอนหลับไป 40 ปี แล้วเพิ่งตื่นขึ้นมาแล้วนึกถึงทฤษฎีเก่าๆเอามาพูด

แล้วนายเสกสรรค์ไปมองว่ากล่มทุนของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายประชา มาลีนนท์ เป็นกลุ่มทุนใหม่ ไปร่วมกับพวกชนชั้นกลางใหม่ ที่พูดมาไม่พูดเรื่องจริยธรรมหรือศีลธรรมเลย โครงสร้างทางการเมืองที่เอามาพูดเป็นทฤษฎีที่ล้าสมัย ไม่พูดถึงความเสียหายจากทุนสามานย์ แต่ดันไปพูดถึงทุนเก่า ทั้งที่ทุนเก่ามันไม่มีแล้ว ที่อาละวาดอยู่ทุกวันนี้คือทุนสามานย์ คือทุนใหม่ ทุนของเครือข่ายทักษิณ แล้วภูมิใจนักหนากับเสื้อแดงที่สู้เพื่อลดความเลื่อมล้ำของสังคม แต่แล้วทำไมรัฐบาลของเสื้อแดงทำไมไม่เก็บภาษีมรดก ทำไมไม่ปฏิรูปที่ดิน

ส่วนที่บอกว่าเสื้อแดงสืบทอดเจตนารมณ์ 14 ตุลา สืบทอดตรงไหน แล้วมองว่ารัฐประหาร 19 กันยา เป็นสิ่งผิดพลาดใหญ่หลวงของประเทศชาติ แล้วที่พวกสัตว์นรกที่อยู่ในสภาฯ ที่เอาเสียงข้างมากจะแก้กฎหมายให้ทักษิณพ้นผิด ไม่ใช่เผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งหรือ แล้วยังหาว่าพันธมิตรฯกลัวการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่พันธมิตรฯเป็นคนที่ต้องการจะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ตนว่านายเสกสรรค์ควรกลับไปจำศีลเหมือนเดิมดีกว่า อย่าได้ออกมาเลย หลายคนบอกว่าพูดออกมาแล้วสังคมสะเทือน สำหรับตนแล้วสังคมสมเพชมากกว่า วันนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนว่านายเสกสรรค์ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวในสมอง เป็นขยะทางประวัติศาสตร์จริงๆ

นายสนธิ กล่าวถึงกรณีนายกฯโกหกว่าจีนจะซื้อข้าวจากไทย ว่า ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน เป็นคนที่ตอแหลลงตับจริงๆ แล้วตอแหลแบบหน้าตาย จีนไม่มีวันที่จะซื้อข้าวจากไทยตอนนี้่ จนกว่าข้าวในสต็อกล็อตนี้หมดไป เขาถึงอาจจะพิจารณาซื้อจริงๆ เหตุผลเพราะว่าก่อนที่ นายหลี่ เค่อเฉียง จะมาครม.ของจีน เขามีมติว่าจะซื้อข้าวจากไทย แต่ต้องผูกไว้กับเงื่อนไขของรถไฟความเร็วสูงด้วย และยังไม่ซื้อตอนนี้ คนจีนไม่โง่ เขากำลังประสบปัญหาของกินไร้คุณภาพ มีการจับพ่อค้าขี้โกงแล้วประหารหลายคนแล้ว ฉะนั้นไม่มีทางเอาข้าวไทยคุณภาพแย่ไปให้ประชาชนเขากิน และในที่สุดความจริงก็ปรากฎแล้วว่ามันเป็นแค่กรอบไม่ใช่เอ็มโอยู

อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ครม.จีนสั่งไว้เด็ดขาดว่าถ้าจะเจรจาเรื่องซื้อข้าวต้องผูกกับรถไฟความเร็วสูง นั่นก็เพราะจีนต้องการเชื่อมภูมิภาคนี้ทั้งหมด เหตุเพราะโดนอเมริกาปิดประเทศด้วยแสนยานุภาพของอเมริกา ในขณะเดียวกันจีนก็เร่งพัฒนาอาวุธตัวเอง มีการเร่งสร้างเรือบรรทุกเครื่องบิน เพราะว่าในประวัติศาสตร์ของโลกอาณาจักรไหนก็ตามถ้าไม่มีแสนยานุภาพทางทะเลต้องถือว่าไม่ใช่มหาอำนาจ กองทัพเรือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะมีเรือบรรทุกเครื่องบินแล้วไปจอดตรงไหนก็ได้แล้วใช้เครื่องบินบินไปถล่ม

จีนต้องการคานอเมริกาด้วยการรวมอาเซียน พอดูภูมิรัฐศาสตร์ มีแค่ประเทศอเมริกากับไทยที่มีชายฝั่งทะเลติด 2 มหาสมุทร ฉะนั้นไทยจึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในอาเซียน ใครๆก็ต้องการไทย เมื่อก่อนมักพูดกันว่าไทยจีนพี่น้องกัน สมัยก่อนอาจจะใช่แต่สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว จีนมองผลประโยชน์เท่านั้น จีนมีเงินเหลือฝากอยู่ในธนาคารอเมริกันในรูปแบบของพันธบัตรเป็นเงินกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ 12 ปีที่แล้ว 1 เหรียญสหรัฐฯ แลกเงินหยวนได้ 8.7 วันนี้เหลือ 5.2 แปลว่า จีนเจ๊งเพราะเอาเงินไปฝากเป็นดอลลาร์ไปแล้ว 40-50 % จีนก็กลัวอเมริกาชักดาบหนี้ที่จีนไปฝากไว้เป็นพันธบัตร ก็เลยต้องเอาดอลลาร์มาใช้ ด้วยการเอาไปแจกที่โน่นที่นี่เพื่อที่จะขายของจีนออกไปและปักหลักในเรื่องของแหล่งพลังงานต่างๆ แล้วก็ใช้นโยบายการทูตทางการเงิน ที่เรียกว่า Financial Diplomacy จีนเอาเงินให้ลาวเต็มเลย แต่มีประเทศไทยที่ไม่ได้ เพราะทำอะไรด้วยตัวเองเนื่องจากต้องการโกงกัน นั่นคือว่าทำไมไทยถึงอยากทำรถไฟความเร็วสูงด้วยตัวเอง

วันนี้จีนต้องการยึดไทยเป็นหัวหาด และทักษิณต้องพึ่งจีนไม่มีที่ไปแล้ว เพราะว่าอเมริกาไม่ไว้ใจทักษิณแล้ว เพราะไปทำตัวเป็นนายหน้าให้จีน ในการเจรจากับฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า เพื่อให้จีนมีอำนาจเหนือทะเลจีนตอนใต้

นายสนธิ กล่าวว่า จีนต้องทำทุกทางไม่ให้อเมริกาปิดล้อมและธุรกิจจีนเองก็เริ่มช้าลง เพราะจีดีพีไม่โตเหมือนแต่ก่อน จีนเลยเริ่มออกนอกประเทศ แล้วทุนจีนสามานย์ไม่ต่างจากอเมริกา เผลอๆสามานย์กว่า เพราะว่าทุนจีนไม่มีวัฒนธรรม ทุนอเมริกาอยู่ในโลกมานานแล้ว เจอปัญหาสิ่งแวดล้อม เจอคนประท้วง เจอเรื่องค่าแรงงาน เจอเรื่องการใช้แรงงานเด็ก อเมริกาเลยระวังหมด แต่จีนไม่สนใจ คนจีนแผ่นดินใหญ่มีสันดานเสียอย่างคือถ้ากูมีเงิน ถือว่ากูมีสิทธิจะทำอะไรก็ได้

เคยมีคนเล่าให้ฟังว่ามีทุนจีนจากเซี่ยงไฮ้หรือจากปักกิ่ง จะมาสร้างศูนย์รวมสินค้าจีนอยู่แถวๆ ปทุมธานี ใหญ่มโหฬารเป็นร้อยเป็นพันไร่ คนไทยที่งี่เง่าบอกดีๆเอามาลงทุนเมืองไทย ถ้ามาเมื่อไหร่คนไทยเจ๊งกันเป็นแถว แล้ววันนี้นายกฯบอกดีใจประเทศไทยกับประเทศจีนจะไม่ต้องใช้วีซ่าแล้ว ฉิบหายเลยถ้างั้น ขนาดต้องขอวีซ่า ไปดูแถวรัชดาคนจีนเต็มไปหมด อยู่ที่นั่นไม่ยอมไปไหน ถ้าทิ้งไว้สักพักหนึ่ง ย่านรัชดาทั้งหมดจะเป็นย่านเมืองจีนหมด เอาแค่เสฉวนมณฑลเดียว มีประชากร 120 ล้านคน เอาแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจีน ไม่ต้องขอวีซ่าแล้วเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย ประเทศไทยตายหรือไม่ เหลือแต่กระดูก แล้วทุนจีนนี่ใหญ่จริงๆ แล้วมันก็จะมีนักธุรกิจไทยที่งกเงินเอาทุนจีนเข้ามาแล้วก็มากระทืบคนไทย ตนถึงบอกว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบาก ลักษณะจีนแบบนี้คือลักษณะจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจ ไม่ได้ต่างจากอเมริกาเลย เลวกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าทุนจีนไม่มีวัฒนธรรม แต่จะตำหนิเขาก็ไม่ได้ เพราะเขาต้องเอาประเทศเขารอดก่อน คำถามคือว่าแล้วประเทศไทยจะเอาประเทศเรารอดหรือเปล่า

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด ไทยต้องรู้ว่าคุณค่าของเราอยู่ที่ไหน ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์เราสำคัญที่สุดในอาเซียน ถ้ามองให้ดีๆ พอพ้นจากเราไปก็คือจุดเชื่อมต่ออินเดีย พม่า ถ้าจีนลงมาทางพม่า เข้าอินเดีย กับระหว่างที่อินเดียเข้ามาไทย แล้วไทยไปอินเดีย อินเดียจะชอบไทยมากกว่า ไทยจะชอบอินเดียมากกว่า ในขณะนี้กุญแจสำคัญที่สุดของประเทศไทย คือว่าทำอย่างไรที่เราต้องรักษาอัตลักษณ์ของเราให้ได้ ต้องรู้จักการเจรจา ผลประโยชน์ของประเทศชาติต้องมาก่อน อย่าไปคิดว่าเขามีเงิน อยากเอาเงินเขามาลงทุน

วิธีหนึ่งที่จีนจัดการกับพื้นที่ที่เป็นชนกลุ่มน้อย อย่างเช่นทิเบตหรือซินเจียง เขาใช้ประชาชนชาวฮั่นบุกเข้าไปตั้งรกรากที่นั่น เหมืองหลวงชื่ออุรุมชี คนซินเจียงซึ่งเป็นชาวมุสลิม จากสมัยก่อนมีอยู่ 80 % วันนี้เหลือ 46 % คนจีนจากสมัยก่อนมี 5 % วันนี้ 34 % โดนกลืนหมด ผมตนถึงบอกว่าถ้าเราไม่ระวังให้ดี ทุนใหญ่จีนจะมาครอบงำทุนประเทศไทย แล้วเรามีพวกสายล่อฟ้าเชื่อมทุนใหญ่จีนเยอะแยะไปหมดเลย ซีพีก็ตัวหนึ่ง แล้วตอนนี้บริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น บริษัทไห่เอ๋อ มันเริ่มมาตั้งในเมืองไทยแล้ว ฉะนั้นต้องระวังให้ดี รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจน

อันดับแรกต้องไม่ฟรีวีซ่า เพราะนั่นคือเปิดประตูให้ซาตานเข้ามาเลย ความฉิบหายมาเยือนแน่นอน แล้วคนจีนคนไหนที่อยู่เกินกำหนดต้องให้ออกจากประเทศไทยให้หมด และต้องไม่ให้เกิดชุมชนจีนขนากใหญ่ เพราะนั่นคือที่สั่งสมของความชั่วร้าย ทั้งคาราโอเกะ ผับ บาร์ แล้วตำรวจไทยต้องหยุดรับเงินจากพวกมาเฟียจีน เราต้องดำเนินนโยบายอย่างระวัง อย่างเรื่องรถไฟความเร็วสูง ถ้าจีนบีบไทยนัก ไทยก็ไม่ต้องสร้างเอง ให้เป็นสัมปทานไป แต่มีเงื่อนไข ต้องเอาคนของเราเข้าไปบริหารครึ่งหนึ่ง พอครบ 30 ปี เราเทคโอเวอร์ต่อ

ที่สำคัญไทยต้องเลิกทำตัวเป็นขอทาน ไม่ใช่ว่าพอซื้อข้าวเราก็ต้องพินอบพิเทา แต่ไม่ต้องก้าวร้าวเขา แต่ต้องรู้ว่าเราก็ต้องคบกับอเมริกา ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาระยะห่างระหว่างอเมริกาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเราเข้าข้างอเมริกา ส่วนในกรณีของทะเลจีนตอนใต้ ไทยต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างมหาอำนาจจีนกับอเมริกา เพราะฉะนั้นสมควรจะให้คุยกันเอง อย่าเข้าไปยุ่ง

นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า อีกประการประชาชนคนไทยต้องส่งเสียงให้คนจีนรู้ ต้องถามว่าทำไมถึงให้ นช.ทักษิณ ไปพำนัก แล้วใช้ประเทศจีนเป็นฐานในการปฏิบัติการมาล้มล้างประเทศไทย คนไทยต้องส่งเสียงให้ดังกว่านี้ อาจจะต้องรวมตัวกันทำจดหมายเซ็นกันเป็นหมื่น-แสนคนและส่งไปให้สถานทูตจีน ให้ผู้นำจีนรับทราบ นี่คือวิธีการส่วนหนึ่งที่ต้องทำ แต่ที่สำคัญที่สุดคนไทยจะต้องแสดงสิทธิของตัวเองออกมา แค่ทุกวันนี้แหล่งขายของหลายๆแห่งแทบจะถูกคนจีนยึดครองหมดแล้ว

และอีกอย่างที่จะต้องทำให้ได้คือต้องจัดการพลังงานของบ้านเรา ต้องรู้จักการต่อรองเจรจา จริงๆ แล้วยุคนี้ไม่ได้ต่างกับสมัยรัชกาลที่ 5 เลยแม้แต่นิดเดียว ต่างกันแต่ว่า สมัยโน้นมันใช้เรือปืนเข้ามา สมัยนี้มันใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเข้ามา ถ้ารู้จักพอเพียง ไม่มีอะไรมายั่วยวนได้ เหตุผลที่ไม่รู้จักพอเพียงเลยทำให้มีความโลภ มีกิเลส เลยขอโน่นขอนี่ อีกทั้งเราควรจัดระเบียบพืชผลทางการเกษตรให้ดี เปลี่ยนประเทศให้เป็นประเทศออร์แกนิกส์ แล้วจะทำให้มูลค่าสินค้าทางเกษตรเพิ่มขึ้น ต้องอย่าให้ที่นา ที่การเกษตรตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ สรุปคือว่าต้องหัดให้คนไทยรักชาติมากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากฉิบหาย แต่ต้องพยายามทำ





คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 18 ต.ค. 2556

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 20.00-22.30 น. ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ น.ส.กมลพร วรกุล ร่วมดำเนินรายการ

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ

กมลพร - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับคุณผู้ชมทุกท่านเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ

จินดารัตน์ - จะรีบไปไหน กลัวเจ้าของรายการทักอีกเหรอ ว่าจะเมาท์กันไปถึงไหน

กมลพร - ฝนมันตก มากับสายฝน

จินดารัตน์ - สัญญาณเข้มแข็งตอนนี้

กมลพร - จริงเหรอ

จินดารัตน์ - จริง สัญญาณเข้มแข็ง

กมลพร - สัญญาณยังชัดเจนอยู่

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณสนธิ

กมลพร - สวัสดีค่ะ

สนธิ - สวัสดีครับ

จินดารัตน์ - ไม่กล้าเมาท์นานเลยเดี๋ยวนี้

กมลพร - ทำไมล่ะ

จินดารัตน์ - ฉันนั่งอยู่นี่นะ พวกแกไม่ทักฉันเลย ฉันกลับนะ

กมลพร - ทักเลยได้มั้ย ถ้างั้น เขาบอกว่ามีประชาสัมพันธ์ มีจองคอนเสิร์ต มีหนังสงหนังสือ แต่สนใจอย่างอื่นมากกว่า

สนธิ - อะไร นังตัวดี

จินดารัตน์ - เสื้อนี่เราก็เพิ่งเห็นนะคะ เพิ่งเห็นก่อนออกอากาศนี่ล่ะ

กมลพร - ใช่ แป๊บเดียว เมื่อสักครู่ คนเห็นก่อนเราก็คือคนในแฟนเพจด้วยซ้ำ

จินดารัตน์ - ใช่ แล้ว อ.ปานเทพ ก็ปิดเงียบเลยนะ เพิ่งจะเอามาโพสต์ตอนเย็นนี่เอง แต่เห็นแล้วก็กรี๊ด อยากจะได้

กมลพร - อยากได้ เก๋ก็อยากได้

จินดารัตน์ - แฟนๆ ในแฟนเพจถามมาเยอะค่ะว่า ทำตัวเดียว ให้คนเดียวใส่ หรือว่ามีจำหน่าย มีอะไรบ้างมั้ย

สนธิ - ผมเป็นคนชอบใส่เสื้อคอกลม แล้วผมก็นึกยังไงไม่รู้ ผมก็เลยบอกไก่ คุณเสาวลักษณ์ ซึ่งเขาเป็นเลขาฯ ใหญ่ของผม อยู่กับผมมาเกือบ 20 ปีแล้ว ประมาณ 20 ปี ไก่ พี่อยากได้เสื้อตัวหนึ่ง มาออกรายการวันศุกร์นี้ ให้มันมีความหมายที่มันสะท้อนความคิดของพี่ และมีลักษณะที่มันธรรมดาสามัญ simple ไก่เขาก็นึก เอาภาพโน้นไหม บอกไม่เอา เอาคำพูดเฉยๆ แล้วพี่จะเอาอะไร ก็เอาแล้วยังงัย? ที่นี้คำว่า แล้วยังงัยจริงๆ แล้ว ผมอยากให้แอนกับเก๋คิดให้ดีๆ คำพูดตรงนี้เป็นคำขั้นสูง อุปมาอุปไมย เหมือนพูดกันบอกว่า มันก็เป็นของมันอย่างนี้แหละ ใช่ไหม เหมือนกับเวลาทำอะไรก็ตาม แล้วมันทำไม่สำเร็จ เหตุผลที่ทำไม่สำเร็จเพราะว่า เขารู้อยู่แล้วทำไม่สำเร็จ ก็ยังดันทำไป และคนที่ดูออก เขาก็บอกมันก็เป็นของมันอย่างนี้ ทำไปก็ได้แค่นี้ มันก็เป็นของมันอย่างนี้ หรือว่าแล้วยังงัย คือรู้ผลลับอยู่แล้ว แล้วทำไปทำไม ใช่ไหม เหมือนกับเรามีลูกสาวคนหนึ่ง แล้วลูกสาวไปหลงผู้ชายคนหนึ่ง เราก็เตือนแล้วบอก อย่า อย่านะไอ้นี้ของปลอมนะ มันหล่อแต่กินไม่ได้มันรวยแต่กินไม่ได้ มันรวยแต่เค็ม แล้วพอลูกสาวเราปีกหักกลับมาใช่ไหม ก็บอกแล้ว แล้วยังงัย ก็พ่อก็พูดแล้ว แม่ก็พูดแล้ว แล้วยังงัย ความจริงของคำว่า แล้วยังงัยความหมายมันลึกซึ้งมาก มันให้ข้อคิดมันเป็นคติธรรมอันหนึ่ง ผมยังจำได้จริงๆ แล้วผมต้องยอมรับว่า ผมเอามาจากหลวงตามหาบัว เวลาไปเล่าให้ท่านฟังเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องทางโลก ท่านฟังแบบเซ็งๆ เหมือนท่านก็รู้อยู่แล้วว่า ผลเป็นไงพอเล่าจบท่านก็บอกแล้วยังงัย ทำให้เราหยุดพูดเลย เพราะท่านพูดคำเดียวว่าแล้วยังงัย เล่าต่อไป พอเล่าแล้วไปจบตอนที่มันไม่จบ คือจบแบบไม่จบ ท่านก็จะบอกแล้วยังงัย ไปเป็นตอนๆ นะ จนในที่สุดครั้งที่ 3 ท่านบอก แล้วยังงัย เราก็เลยรู้สึกอายที่จะเล่าต่อไปแล้ว เหมือนท่านรู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างนี้ แล้วยังงัย นั่นคือที่มาของมัน ผมก็เลยให้ไก่ทำ ไก่ก็เลยทำมาให้ ไก่เขาเป็นกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ก็เลยบอกว่า เขาทำแล้วกัน ถ้าใครอยากจะได้ก็บริจาคเงินเข้ามูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แล้วจะส่งไปให้

จินดารัตน์ - เสื้อยังไม่มานะคะ แต่ก็สั่งได้เพราะจะมีจำนวนจำกัด บริจาคเงินได้ที่มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ตัวละ 200 บาท แต่ถ้าไซส์ใหญ่ XXL จะขายอยู่ที่ 250

สนธิ - คือไซส์ผม XXL

จินดารัตน์ - หมายเลขโทรศัพท์ 083-999-4881 , 081-844-9272 แอนคิดว่าเสื้อตัวนี้อาจจะเป็นปรากฏการณ์เสื้อมูลนิธิยามฯ อีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับที่เราเคยมี "เราจะสู้เพื่อในหลวง" "ลูกจีนรักชาติ" แล้วก็อันนี้ "แล้ว-ยัง-งัย ?"

กมลพร - มันเป็นคำตอบ ตอบเหมือนไม่ตอบ อะไรประมาณนั้น

จินดารัตน์ - แต่เลือกสถานที่ใส่ไปนิดหนึ่งนะ

กมลพร - ทำไมล่ะ เก๋ว่าใส่ได้ทุกที่ล่ะ

สนธิ - ผมว่าใครที่มีเมียพูดมากนะ ผัวน่าจะซื้อตัวนี้

กมลพร - พี่โดม

สนธิ - แล้ว-ยัง-งัย ?

กมลพร - ซื้อให้พี่โดมใส่ตัวนึง

จินดารัตน์ - แล้ว-ยัง-งัย ? ใครสนใจก็ตามหมายเลขนั้นนะคะ โทรศัพท์ไปสอบถาม ไปจองได้ หรืออะไรก็แล้วแต่ ลองถามพี่เขาดูว่ายังไง บริจาคเงินได้ยังไง และส่งของกันยังไง เพราะว่าเสื้อมูลนิธิยามฯ ผ่านมือพี่ไก่ทุกตัวนะ ทุกลาย ทุกแบบ พี่ไก่เป็นคนจัดการให้

สนธิ - ไก่เขาบอกว่าชุดนี้ เสื้อรุ่นนี้เขาจะทำน้อย

จินดารัตน์ - มีสีเดียวด้วยใช่ไหมคะ

สนธิ - สีเดียว ขาว สีเดียวดีกว่า

จินดารัตน์ - คลาสสิคสุดแล้วค่ะ สีขาว

สนธิ - คลาสสิคที่สุด ขาวกับดำ

กมลพร - เมื่อกี้ยังม่วงอยู่เลยนะคะ เหมือนรู้เวลาออกอากาศ ยังง่วงอยู่เลย ตอนนี้โดดไปโดดมา

จินดารัตน์ - เขารู้ว่าคนดูรอเขาอยู่

กมลพร - มาด้วยเรื่องข่าวประชาสัมพันธ์กันก่อนดีกว่าไหมคะ

จินดารัตน์ - เอาข่าวประชาสัมพันธ์ก่อนเลยนะ

กมลพร - ข่าวประชาสัมพันธ์ก่อนเลยเพราะว่า จริงๆ มีคนถามเยอะ โดยเฉพาะกรณีคนอยากไปคอนเสิร์ตใจประสานใจครั้งที่ 2 บรรเลงโดยวงดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ควบคุมโดย อ.สถาพร นิยมทอง คราวนี้ห้ามพลาดอีกนะคะ เพราะว่าคราวที่แล้วชะล่าใจซื้อช้า บัตรหมด คราวนี้ก็เลยจัดในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 14.00-17.00 น. ณ โรงละครแห่งชาติ รายได้มอบให้กับมูลนิธิดุริยางค์สากล กรมศิลปากร ก็ในงานจะมีนักร้องของกรมศิลปากรครบทีม นักร้องกิตติมศักดิ์ที่พลาดไม่ได้ เพราะหาชมยากมาก ศิลปินแห่งชาติอย่าง อ.ชินกร ไกรลาศ กับเพลงยอยศ พระลอ และยังมีคุณนัดดา วิยกาญจน์ คุณสเกน สุทธิวงศ์ และ อ.ปานเทพ พงษ์พัวพันธ์

จินดารัตน์ - บัตรตอนนี้ได้ทราบจาก อ.ปานเทพ ล่าสุดว่าเหลือน้อยมากแล้ว

กมลพร - นี่อีกตั้งนานนะ เหลือน้อยอีกแล้วหรอ

จินดารัตน์ - ก็ครั้งที่แล้วบัตรหมดก่อนแสดงเดือนหนึ่ง บัตรเหลือน้อยมากจริงๆ นะคะ เหลือหลักแบบสิบใบนะ ต้องรีบโทรนะคะ เบอร์ 02 -526-926 และ 089-893-3208

กมลพร - มีเครื่องทำน้ำด่างมีหลายคนมาถามตกลงยังไง เครื่องมาหรือยัง จะซื้อ

สนธิ - หมดไปแล้ว

กมลพร - อ้าว หมดไปแล้วหรือคะ

จินดารัตน์ - มิน่าล่ะ วันนี้เดินไปเอเอสทีวีช็อป บ้านเจ้าพระยา วันนั้นวางอยู่เยอะนะ วันนี้หายไปแล้ว

สนธิ - หมดแล้ว เพราะว่าตอนนี้ด้วยความเคารพ เครื่องทำน้ำด่าง พอเรารู้ว่านอกจากทานแล้วเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เอาไปบาลานซ์ความเป็นกรดในร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระแล้วหมายเลข 3 ล้างผัก แช่น้ำ หมายเลข 3 ใช้ 15 นาที 3 ครั้ง 90% ของสารพิษ ที่อยู่ในผักหายหมด ที่สุดยอดกว่านั้นคือ เอาปลาทะเลไปแช่ ปลาที่โดนราดฟอร์มาลีน เอาไปแช่หายหมด 100%

จินดารัตน์ - ไม่เหลือตกค้างเลย

สนธิ - ไม่เหลือตกค้างเลยเลยครับ ผมอยากให้ท่านผู้ชม และพวกพี่น้องพันธมิตรฯ รู้ไว้ซักนิดปัจจุบันนี้ผลไม้ต่างๆ ที่เราไปซื้อที่ตลาดที่ดูสด มันชุบฟอร์มาลีนหมด เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่า ผลไม่บางอย่างที่เห็น 4 วัน ยังสดเลย น้ำด่างนะ ถ้าจะซื้อผลไม่แต่ก่อนไม่กล้าซื้อ ตอนนี้ซื้อได้แล้ว เอามาแช่น้ำด่างหมายเลข 3 2 ครั้ง 15 นาที เทออกอีก 15 นาทีฟอร์มาลีนหมด

กมลพร - สำคัญแบบยืนยันจากแม่บ้านเกือบ 100% ว่า ผักมันกรอบขึ้น

สนธิ - ผักกรอบขึ้นครับ

จินดารัตน์ - และปลอดภัยนี่คือหลายคนกำลังรู้สึกว่า คุณภาพชีวิตเริ่มดีขึ้นแล้ว จากเมื่อก่อนไม่ค่อยกล้าซื้ออะไรมาทาน

สนธิ - อ.ปานเทพ ตอนนี้กำลังใช้เครื่องทำน้ำด่างหมายเลข 3 เอาไปทดลองใหม่ ทำอะไรรู้มั้ย ซาวข้าว ถ้าซาวข้าวแล้วพวกสารที่เกาะติดข้าวออกหมด สารพิษ

จินดารัตน์ - ที่เขารม

สนธิ - ที่เขารมอะไรต่างๆ ไว้

กมลพร - รัฐบาลจะมาสั่งซื้อจากเราอีกเยอะ ทั้งรม ทั้งเน่า

จินดารัตน์ - จะมาอีกครั้งหนึ่งกลางเดือนพฤศจิกายนนะคะ สั่งจองได้ที่หมายเลข 02-633-5353 หรือเอเอสทีวีช็อป บ้านเจ้าพระยา แต่ว่าเรียนนิดหนึ่ง ตอนนี้ระบบคอลเซ็นเตอร์มีปัญหา ยังใช้การไม่ได้ จะรีบแก้ไขโดยด่วนนะคะ ถ้ายังไงอดใจอีกนิดหนึ่ง กลางเดือนพฤศจิกายนจะมาล็อตใหม่ กี่เครื่อง อย่างไร เดี๋ยวแจ้งให้ทราบ

กมลพร - นอกจากนั้น ที่ต้องอดใจอีกนิดหนึ่งคือ น้ำมันมะพร้าว

จินดารัตน์ - ทยอยมาแล้วนะ

กมลพร - ทยอยมาแล้วใช่ไหมคะ

จินดารัตน์ - ที่สั่งวันแรกๆ เลย 5-6-7 วันนั้นที่เราจัดงานกัน คนที่สั่งกันวันที่ 5 น่าจะเริ่มได้แล้ว

กมลพร - สำหรับที่ใครยังอยากจะจองอยู่ก็ยังไปลงชื่อได้ที่เอเอสทีวีช็อป บ้านเจ้าพระยา เหมือนกัน หรือไม่ก็โทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของเรา 02-633-5353 แม้ว่าวันนี้ยังใช้การไม่ได้ ถ้าใช้ได้จะรีบแจ้งให้ทราบ

จินดารัตน์ - วันนี้แอนเจอพี่สาวค่ะคุณสนธิ พี่สาวชอบทำคือ เขามาทาง ORGANIC เยอะแล้ว เขาชอบทำขนมให้ลูกให้สามีทาน เวลาทำขนม แม่บ้านที่ทำเค้กอะไรบ่อยๆ เขาจะรู้ว่าต้องใส่น้ำมันพืช ใส่ทีเป็นถ้วย เขาบอกตั้งแต่เขาได้น้ำมันมะพร้าวไป โอ้โห เขาโล่งใจ ว่าวันนี้ฉันไม่ได้กินสารพิษที่ไม่รู้ว่า มันจะเข้าไปทำอะไรในร่างกายบ้าง พอได้น้ำมันมะพร้าวไปแฮปปี้มาก เขาบอกว่า เวลาทำกับข้าวมันจะหอมมาก เจียวไข่ทีจะหอม คนติดใจกันเป็นแถว อดใจรอนิดหนึ่ง ก็จะรีบทยอยทำส่งมาให้ บ้านเราทุนน้อย ถ้าทุนเยอะป่านนี้สั่งมาเยอะกว่านี้แล้ว

สนธิ - เครื่องทำน้ำด่าง เราสั่งทีหนึ่งก็ไม่เกิน 500 เครื่องต่อเดือน เพราะไม่มีตังค์ ฉะนั้นแล้วผมไม่อยากให้คนที่อยากได้รอ ประมาณวันที่ 10 กว่าเดือนหน้าถึงจะได้ ถ้าคอลเซ็นเตอร์ไม่ติด พรุ่งนี้วันเสาร์ วันอาทิตย์ไปเอเอสทีวีช็อปเลย ไปจองที่นั่นเลย ไม่พลาด เฉพาะแค่ร้านผัก แล้วก็ร้านปลา และผลไม้ที่ชุบฟอร์มาลีน ทำให้เราทานผักกรอบขึ้น สารพิษแทบจะไม่มี ปลาไม่มีฟอร์มาลีนติดเลย ผลไม้ไม่มีเลย เฉพาะ 2 อย่างนี้ 3 อย่างนี้ ก็คุ้มแล้ว ยังไม่นับกับการทำน้ำด่างเบอร์ 2 ที่ทานเข้าไปแล้วทำให้สุขภาพดี คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับเรื่องนี้

จินดารัตน์ - หลังจากปรากฏการณ์น้ำมันมะพร้าว มาถึงปรากฏการณ์หนังสือ ครั้งที่แล้วถ้าใครไปเข้าคิวซื้อหนังสือ อ.ปานเทพ ครั้งนี้ต้องรีบหน่อยนะคะ เล่ม 2 ออกแล้วใช่ไหมคะคุณสนธิ

สนธิ - รหัสลับล้างพิษตับครับ ท่านผู้ชมที่เคยซื้อหนังสือ อ.ปานเทพ กิน ดื่ม ด่าง ล้างพิษตับ เล่มแรกไป เล่ม 2 ออกมาแล้วครับ เล่ม 2 ดีมากครับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับข้อมูลในการล้างพิษตับ มีหลักฐานงานวิจับ แล้วอธิบายให้ฟัง ว่ามันเป็นอย่างไร เช่น เขาว่ากันว่าล้างพิษตับเป็นเรื่องหลอก อ.ปานเทพ เอาข้อมูลมาให้ดู เอางานวิจัยมาให้ดู แก่ช้าต้านโรคอายุยืนล้างพิษตับ มี อ.ปานเทพ อุตส่าห์เอาข้อควรระวังด้วยนะ ว่าปัญหาการล้างพิษตับ ผู้หญิงมีข้อควรระวังมากกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ แล้ว อ.ปานเทพ เอาสูตรการล้างพิษตับ ให้มีประสิทธิภาพผสมผสานการล้างพิษตับของเยอรมัน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และไทย เอามาดูให้รู้ว่าอันไหนดีกว่า แล้วก็คือคำตอบที่ อ.ปานเทพ มีว่าเราล้างพิษตับไปทำไม หนังสือเล่มนี้ไม่ผิดหวังครับ เล่มแรกของ อ.ปานเทพ พิมพ์เกือบแสนเล่ม ถล่มทลาย เล่มนี้อยากให้ซื้อเก็บเอาไว้แล้วอ่าน คือ ในบ้านเรามันควรจะมีหนังสือบางประเภทที่ต้องซื้อยังไม่อ่านตอนนี้ไม่เป็นไร แต่เมื่อมีเวลาก็ต้องอ่าน หนังสือธรรมะดีๆ หนังสือคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ ของเรื่องจิต ของหลวงตามหาบัว ล้างพิษตับของ อ.ปานเทพ 2 เล่ม เล่มแรก "กินดื่มด่างล้างพิษตับ" กับเล่มที่ 2 "รหัสลับล้างพิษตับ" ก็เป็นหนังสือที่ควรจะซื้อเก็บเอาไว้ เมื่อมีเวลาแล้วมานั่งอ่าน เผลอๆ อ่านไปแล้วอาจจะโกรธตัวเองว่า ทำไมฉันไม่อ่านเร็วกว่านี้

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ

สนธิ - หนังสือบางประเภท อย่าว่าแต่ซื้อเลย เอามาเช็ดขี้หมาก็ยังไม่มีประโยชน์อย่างเช่น หนังสือพิมพ์บางฉบับในประเทศไทย เพราะฉะนั้นแล้วอย่าลืม อ.ปานเทพ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประมาณช่วงบ่าย อ.ปานเทพ จะไปพูดที่นั่น แล้วจะไปเซ็นหนังสือให้ ผมอยากให้พี่น้องที่อยากจะซื้อหนังสือเล่มนี้ ถ้าอยากเจอ อ.ปานเทพ หรือ อ.ปานเทพ กลายเป็นหมอชาวบ้านไปแล้วนะ ความที่ศึกษาโรคภัยไข้เจ็บ คนนั่นเป็นอันนี้คนนี้เป็นอันนั้น ทำให้ อ.ปานเทพ เข้าใจหลักธรรมชาติ และวิธีแนะนำของ อ.ปานเทพ ไม่ใช่เป็นหมอแนะนำนะ แต่คงจะใช้ประสบการณ์ และสังเกตสังกา และงานวิจัยที่แกรับทราบ แกสอนออกไปได้ผลชะงักเลย

จินดารัตน์ - เดี๋ยวนี้คนเจอ อ.ปานเทพนี่ ขอคุยเรื่องสุขภาพ

สนธิ - คุยเรื่องสุขภาพหมดนะ

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ขอคำแนะนำ ยังไงไปเจอกับ อ.ปานเทพได้นะคะ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันอาทิตย์นี้ ที่โซนซี บูธ M01

สนธิ - โซนซีนะครับ ไปหาเอ บี ซี แล้วบูธ M01

กมลพร - ที่เดิมของเรา แต่ว่าอาจารย์จะไปเวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องโลตัส งวดนี้จะไปเจอกันในห้องโลตัส ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่นั่งมีจำนวนจำกัดด้วย ต้องจองนะคะ ที่นั่งมีจำนวนจำกัด และ 1 ชื่อในการจอง โทรจองได้ไม่เกิน 3 ชื่อ เพราะว่าห้องมันไม่ได้ใหญ่โตมาก โทรศัพท์ไปจองได้ที่เบอร์ 02-629-2700 นะคะ

จินดารัตน์ - นอกจากหนังสือ อ.ปานเทพแล้ว ยังมีหนังสือที่น่าสนใจของสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์หลายเล่ม อย่างของพี่รุ่งมณี เมฆโสภณ จะมีสตรีหมายเลข 0

กมลพร - น่าสนใจมากค่ะเล่มนี้เพราะว่า ล่าสุดพี่รุ่งบอกเป็นนวนิยาย ซึ่งอ้างอิงจากตัวละครจริงๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยนะ

สนธิ - คืออย่างนี้ รุ่งมณี เมฆโสภณ เป็นลูกศิษย์ผมคนหนึ่ง เขาทำร้ายผมร้ายแรงพอสมควร เพราะว่าในหน้าสารบัญที่เขาเขียนเขาบอกว่า หนังสือเล่มนี้อุทิศให้ครูสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ประสิทธิประสาทวิชาทำข่าวสืบสวนสอบสวน ทีนี้คนซึ่งเป็นตัวเอกในเรื่องนี้ ยังมีตัวตนอยู่ในสังคม

กมลพร - หลายคนอ่านแล้วสงสัย อยากรู้

สนธิ - หลายคนอ่านแล้วสงสัยว่า ฝีมือสนธิแน่นอน ที่อยู่เบื้องหลังให้รุ่งมณีเขียน อะไรๆ ก็กู แล้วยังงัยล่ะ ทีนี้ สุภาพสตรีคนนี้ อายุ 80 กว่า แต่เป็นคนซึ่งมีตัวตนจริง แต่รุ่งมณีเอามาใส่เป็นตัวละคร แล้วก็ใช้ประเทศไทย ใช้ชื่อว่าประเทศสารขัณฑ์ สุภาพสตรีคนนี้อยู่เบื้องหลังทุกๆ เรื่องในวงการเมือง ในพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับองคมนตรีคนหนึ่ง อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง แล้วก็มีเกี่ยวข้องในแวดวงอำนาจไปหมด มีการจับแพะชนแกะตลอดเวลา รุ่งมณีก็เลยเอาข้อมูลตรงนี้ไปสืบเสาะต่อ แล้วในที่สุดเธอก็เอามาเขียนเป็นหนังสือ ชื่อสตรีหมายเลข 0

จินดารัตน์ - ตัวละครส่วนใหญ่ยังมีชีวิตอยู่

สนธิ - มีหมดครับ ส่วนใหญ่

กมลพร - งั้นเรารู้แล้วล่ะ เราจะถามใคร ว่าสตรีหมายเลข 0 คือใคร

จินดารัตน์ - พี่รุ่งมณีจะไปเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ในวันอาทิตย์เช่นเดียวกันนะคะ เวลา 4 โมงเย็นถึง 5 โมงเย็น ก็ไปฟัง อ.ปานเทพ เสร็จ

กมลพร - ของพี่รุ่งวันอาทิตย์ที่ 27 ค่ะ

จินดารัตน์ - อ๋อ สัปดาห์หน้า ของ อ.ปานเทพ วันที่ 20

สนธิ - ของคุณรุ่งมณีอีกอาทิตย์หนึ่ง

กมลพร - ใช่ค่ะ อาทิตย์ที่ 27

จินดารัตน์ - ใครไปซื้อหนังสือที่บูธสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ จะได้ส่วนลดด้วยนะคะ ช่วงงานสัปดาห์หนังสือ

สนธิ - อีกเล่มนึง

กมลพร - อีกเล่มนึง เล่มนี้เขาจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนนะคะกว่าจะได้ ตอนสั่งจองมีแต่ปกให้จองด้วย จริงๆ หนูเป็นคนโฆษณาเอง มีแต่ปกนะคะ ก็คือ พระเครื่องสมเด็จพระญาณสังวรฯ ในวาระ 100 ปี พระชันษา สมเด็จพระญาณสังวร วันพุธที่ 23 ตุลาคมนี้ 18.00-19.00 น. คุณปัญจภัทร อังคสุวรรณ และคณะ ก็จะไปพบกับผู้อ่านทุกท่านที่จองเอาไว้

จินดารัตน์ - มีคณะด้วยเหรอ

กมลพร - มีคณะ ก็เขาเขียนอย่างนั้นน่ะ ปัญจภัทร อังคสุวรรณ และคณะ

จินดารัตน์ - ไปพบกันได้นะคะ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเป็นงานที่เรียกได้ว่าเป็นจิตสาธารณะ ศูนย์ล้างพิษตับบุญคณา ได้จัดหลักสูตรรวมพลคนมีนิ่ว เพื่อที่จะสานต่องานวิจัยของคุณหมออนัน ศรีพนัสกุล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ม.ขอนแก่น ได้สำรวจและเก็บสถิติการตรวจและอัลตราซาวด์ มากว่า 224 คนแล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลในการพัฒนาเรื่องการล้างพิษตับอย่างเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น สุดท้ายคุณหมอได้ตัดสินใจพิสูจน์ให้เห็น (***สัญญาณหาย***) สำหรับคนมีนิ่วในถุงน้ำดีโดยเฉพาะ ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายนนี้ เพื่อที่จะต่อยอดงานวิจัยให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จะได้เอามาพิสูจน์ชัดว่า มันเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ไม่ใช่พ่อมดหมอผีนะ ที่จะเสกนิ่วออกจากถุงน้ำดีได้ ไปร่วมกันนะคะ สนใจติดต่อได้ที่ 086-458-0077 ถือว่าได้ราคาเครื่องหนึ่งด้วย และก็ได้งานวิจัยให้กับคุณหมอเอามาเป็นผลพิสูจน์ด้วย หมดแล้วนะ

กมลพร - จบนะคะ หมดแล้วได้เงินกันเท่าไรเนี้ยเรา เอาเวลาเขาอ่านข่าวประชาสัมพันธ์เขาได้กันข่าวละ 50,000

จินดารัตน์ - บ้า 2.5 แสน

กมลพร - อ้าวหรอ เดี๋ยวนี้ขยับราคา อีกเรื่องหนึ่งที่คงจะต้องถามกับคุณสนธิ และขอทรรศนะคุณสนธิว่า แล้วยังงัยต่อ สำหรับกรณีคดีที่ศาลโลกจะพิพากษากรณีเขตแดนไทย-กัมพูชา จะมีกำหนดวันลงมาแล้วว่า เป็น 11 พฤศจิกายน 4 โมงเย็นตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีมีความกังวลใจมากในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วันจันทร์นี้จะเรียกหน่วยงานความมั่นคง รวมไปถึง ผบ.เหล่าทัพ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และตัวของ สมช.ไปคุยกันว่า จะรับมืออย่างไรดี ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้

สนธิ - คือเรื่องนี้ผมมีความรู้สึกว่า มันผิดสังเกตบางประการ ประการแรกศาลโลกนัดฟังคำพิพากษาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ นี่เลื่อนขึ้นมาเร็วทั้งสองเดือน ผิดปกติมากนะครับ ผมมีความรู้สึกว่าการเลื่อนขึ้นมาเร็วครั้งนี้ มันจะมีนัยทางการเมือง และมีนัยการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างสูงเลย ผมคิดว่าในขณะนี้ถ้าพูดถึงประเทศไทย และประเทศกัมพูชา ผมมองว่า ในขณะนี้ทั้งประเทศไทยและประเทศกัมพูชา อยู่ในท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศจีนกับประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ ซึ่งเรื่องนี้จะเกี่ยวพันกับตอนเบรก 2 ที่ผมจะพูดถึงเรื่องบทบาทของจีนในประเทศไทย เอาเป็นสั้นๆ ก่อนตอนนี้ว่า ในขณะนี้ผู้นำฝ่ายค้านเขมร สม รังสี จะกลับไปที่กัมพูชาไม่ได้ ถ้าอเมริกาไม่หนุนหลัง ฮุนเซนเอาตายเลย ตอนนี้กลับไม่ได้แล้ว และแรงสนับสนุน สม รังสีในขณะนี้ ค่อนข้างจะมากขึ้น และฮุน เซน อยู่ในสถานภาพที่ไม่ได้ได้เปรียบเหมือนสมัยก่อนที่ได้เปรียบมากๆ นั่นข้อแรก

อันที่ 2.ช่วงหลังนี่ฮุน เซน เอาใจจีนมาก จีนกับ ฮุน เซน จับมือกันแน่นเลย ในขณะเดียวกันทางอเมริกาแทบจะเข้าเขมรไม่ได้ การที่เข้าไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าเข้าไม่ได้นะ ก็คือว่าอิทธิพลที่อเมริกามีต่อเขมร น้อยลงมา ล่าสุดจีนเพิ่งจะอนุมัติเงินกู้ให้เขมรเกือบ 60,000 ล้านบาท ในการสร้างโรงกลั่นน้ำมันโรงแรก ในพนมเปญ อันที่ 2 ช่วงหลังนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เดินสายให้จีนเต็มที่ ในการที่จะล็อบบี้ประเทศต่างๆ เพื่อให้เอาใจจีนในเรื่องของปัญหาทะเลจีนตอนใต้ ตรงนี้ก็เลยทำให้อเมริกาไม่ชอบใจ ผมคิดว่า ผมกำลังมองว่า 11 พฤศจิกายนนี้ คำพิพากษาออกมา น่าจะไม่เป็นคุณกับประเทศไทย น่าจะเป็นผลร้าย แต่ว่าทางรัฐบาลชุดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งแน่นอนที่สุด พี่ชายเขา ก็คือทักษิณ ชินวัตร ก็คงจะแอบไปตกลง ติดต่อกับฮุน เซน เรียบร้อยแล้ว เหตุผลหนึ่งซึ่งเขาเอายิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็เพราะว่าเอามาเตรียมรองรับคำพิพากษาตรงนี้ เพราะว่าเราก็จะเจอผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน ที่จะบอกว่า ผมต้องฟังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผมเป็นทหาร ผมต้องฟังรัฐบาล

จินดารัตน์ - เอามาสะกดวิญญาณ

สนธิ - เอามาสะกดวิญญาณ เอาจับวิญญาณลงหม้อ แล้วก็ถ่วงลงไปในน้ำคลำ น้ำเหม็นๆ ยังไม่ทันไรเลย ทีท่าของทหารไทย ผู้ใหญ่ในกองทัพ ทีท่าของรัฐมนตรีกลาโหมเริ่มออกมาชัดเจนแล้ว ว่าเราต้องเคารพมติศาลโลก ทันทีเลยนะ คือพูดแบบปูพื้นมาก่อนล่วงหน้าเลย เพราะฉะนั้นน่าสนใจมาก วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ สนใจว่าทำไมมันถึงเร็ว เป็นไปได้มั้ยว่า อเมริกาเองก็ไม่ต้องการรัฐบาลชุดยิ่งลักษณ์แล้ว อยากจะขอยืมมือประชาชนไทยออกมาประท้วงเรื่องนี้ และในขณะเดียวกัน สม รังสี ก็อยู่ที่เขมร

เพราะฉะนั้นแล้วการเมืองในขณะที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทยกับเกิดขึ้นในเขมรนั้น ล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากต่างประเทศทั้งสิ้น แล้วประเดี๋ยวเบรกที่ 2 เราจะมาพูดถึงเรื่องบทบาทจีน ซึ่งรับประกันว่า เป็นเรื่องใหม่ แล้วผมก็จะอธิบายทุกอย่างให้พ่อแม่พี่น้องและท่านผู้ชมได้ฟัง แล้วจะเห็นได้ชัดว่า ถึงผมจะเป็นลูกจีน แต่ผมเป็นลูกจีนที่รักชาติไทย ชาติไทยต้องมาก่อน ผมกำลังจะบอกให้รู้ล่วงหน้า ให้ 2 คนนี้รู้ล่วงหน้าด้วย ว่าประเทศจีนวันนี้น่ากลัวไม่ต่างกว่าประเทศอเมริกา แล้วคำว่าไทยจีนเป็นพี่น้องกันมันเริ่มไม่มีความหมายไปแล้ว มันไม่ใช่พี่น้องกันแล้ว ไทยมีเท่าไหร่จีนมีเท่าไหร่มาแลกกัน ไม่ใช่เรื่องพี่เรื่องน้องเป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องอิทธิพล เป็นเรื่องคุณได้เท่าไหร่ เราได้เท่าไหร่ แล้วมาเจรจากัน แล้วจะเกี่ยวพันกันกับเรื่องข้าวด้วย

กมลพร - แล้วมันบังเอิญๆ นะคะ คุณสนธิ ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ที่ ครม.อนุมัติงบซื้ออาวุธให้ทหาร ซื้อเฮลิคอปเตอร์ ซื้ออะไรมันเป็นช่วงจังหวะนี้พอดี ขณะเดียวกันที่มือไม้ของคุณทักษิณที่อยู่ในสภาฯ ก็เร่งเหลือเกินสำหรับกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ให้ทันท่วงที นี้คุณนิคม เออ แกเป็นประธานวุฒิฯ ไม่ใช่มือไม้ คุณนิคมนะก็นัดแล้ว ว่าภายในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ มาตรา 190 น่าจะเรียบร้อย

สนธิ - ก็นี่ไง 190 นะ แก้เพื่อรองรับข้อตกลงระหว่างไทยกับจีน

จินดารัตน์ - แล้วมันยังมีเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมจะตามมาเรื่อยๆ ด้วยนะ เรื่องนี้เราคงจะต้องได้คุยกัน ซักครั้งหนึ่งนะคะ อีกเรื่องหนึ่งความสามานย์ของคุณใหญ่ ปตท.ส่งจดหมายจากสำนักทนายความของเขามาบอกว่า ให้ระงับการเผยแพร่ข่าว ที่ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง มาวันที่ 10 ตุลาคม บอกว่าจากการที่เราเผยแพร่ข่าวออกไป 6 ข่าว 6 บทความ มันทำให้บริษัทเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงมากเลยนะ เรื่องธรรมาภิบาลเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่เราเสนอข่าวไป บอกถ้าไม่หยุด

กมลพร - จะดำเนินการกับเราภายใน 7 วัน นับจาก วันที่ 10 และ 7 วันก็วันนี้ 17 แล้วยังงัย ก็ปรากฏว่าคนที่มาคือตัวแทนทนายความได้นิยามชื่อจำได้ว่านาย 3 สี ไตรรงค์ ตันทสุข ทนายความผู้ได้รับมอบหมายอำนาจจากบริษัท ปตท.สผ. และ PTTEPAA คือเขาก็ระบุว่ามีอำนาจจากการที่จะมายื่นฟ้องร้องในนามของ ปตท.สผ. สำรวจและผลิตไม่ได้มาในนามสำนักงานใหญ่ คราวนี้เราก็ไปเช็กข่าว ข่าววงในเรียบร้อยว่า 3 สีนะไม่ใช่ทนายความในส่วนบริษัทเป็นทนายความนอกผู้รับจ้างมาอีกทีหนึง ได้รับมอบอำนาจไง

จินดารัตน์ - เอามาทำหน้าที่อีกทีหนึ่ง

กมลพร - เออ เช็กๆ วงในเยอะ 3 สี ไม่ใช่คนข้างในแน่ แล้วมาฟ้องในนาม สผ. และ PTTEPAA ก็คือบริษัทของ สผ. ที่เป็นปีกที่ออสเตรเลียบริษัทลูก บริษัทหนึ่ง

จินดารัตน์ - ชื่อบริษัท PTTEP Australasia ที่เคยเกิดน้ำมันรั่วขึ้นมา

กมลพร - ใช่ๆ

จินดารัตน์ - แล้วเขาก็ให้รัฐบาลออสเตรเลียสั่งให้ ปตท.จ่ายเงินชดเชย ค่าสิ่งแวดล้อม อุ๊ยฟ้องร้อง บริษัท PTTEP Australasia ที่เคยเกิดน้ำมันรั่วขึ้นมา เขาให้รัฐบาลออสเตรเลียสั่งให้ ปตท.จ่ายเงิน ชดเชย สิ่งแวดล้อม ฟ้องร้องเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต จำนวนเงินมหาศาล แต่ ปตท.ก็ออกมาชี้แจงว่าไม่จริง ที่เขาต้องจ้าย จ่ายแค่ 15.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าปรับด้านความปลอดภัย ไม่ใช่ค่าปรับด้านสิ่งแวดล้อม มาออกข่าวแบบนี้เสียหาย ฟ้องนะ กลัวไหมคะ

สนธิ - อย่า อย่าช้า คุณเอาอะไรมาพูดกับพวกเรา ผมจะถามหน่อย อันนี้ก็เป็นบทเรียนอันหนึ่งที่ผมอยากให้พันธมิตรฯ และท่านผู้ชม หลายคนเห็นโฆษณา ปตท.ในเว็บไซต์ผู้จัดการ ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ไปรับทำไมโฆษณา ปตท. เอเอสทีวีเปลี่ยนสีแล้ว แอน เรานี่ทำสื่อ ใครอยากจะลงโฆษณาเอาเงินมาให้เราเราขอบคุณ ไม่ขัดข้อง แต่การเอาเงินมาลงโฆษณากับเรา ไม่ได้แปลว่า คุณมีสิทธิในการปิดปากเรา และนี่ก็พิสูจน์ชัดเจน ฉะนั้นในขณะซึ่งเขามาลงโฆษณากับเราแต่เรา แต่เราก็วิพากษ์วิจารณ์เขาอยู่จนเขาส่งทนายมาว่าเรา มันก็เป็นการพิสูจน์ชัดเจนว่า ใครเอาเงินมาลงโฆษณากับเราไม่มีผลกับการตัดสินใจของเรา เพราะจุดยืนของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง ข้อแรก

อันที่สอง จดหมายที่ทนายความส่งมา ผมคิดว่ามันเป็นจดหมายที่บัดซบ เพราะว่าคุณกำลังมาบอกว่าห้ามเอเอสทีวี ผู้จัดการเสนอข่าวกับ ปตท. ให้เสนอเฉพาะข่าวดีๆ ฉะนั้นคุณทำชั่วอะไรก็ตาม คุณกำลังบอกว่า ถ้าผมทำชั่วคุณห้ามเสนอข่าว ถ้าคุณเสนอข่าวทำให้ผมเสียหาย ผมจะฟ้องคุณ นี่คุณเอาส่วนไหนของส้นตีนคิดครับ ปตท. ผมคิดว่าผู้บริหาร ปตท.ไอ้กรรมการ ปตท. มันเฮงซวย มันใช้การไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว และไหนบอก ทำให้มันเสียธรรมาภิบาล ธรรมภิบาลมึงฉิบหายตั้งแต่มึงทำน้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ดแล้ว จนวันนี้ก็ยังแก้เขาไม่ได้

ส่วนไอ้เพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แทนที่จะมาปกป้องประชาชน คุณกลับไปปกป้อง ปตท. คุณจะรับใช้เขามากเกินไปแล้วนายเพ้ง ฉะนั้นมึงอย่าช้า รีบฟ้องมาได้เลย กูอยากเจอมึงจริงๆ แล้วก็จะมีเรื่องราวต่อไปเกี่ยวกับ ปตท. เรื่องชั่วๆนี่เยอะแยะไปหมดทำไมไม่พูด เรื่องที่ตัวเองแอบส่งแก๊สออกนอกประเทศทำให้แก๊สเราราคาแพง เรื่องชั่วๆ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของโรงกลั่น บวกราคาค่ากลั่นซะสูงลิบลิ่ว แล้วก็ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น เรื่องชั่วๆที่เช่าท่อส่งแก๊ส น้ำมัน จากรัฐบาลในราคาที่ถูกโคตรถูก แล้วก็มาบวกราคาแพงๆ ขายน้ำมันแพง แก๊สแพง ขอโทษเอเอสทีวีผู้จัดการไม่ใช่เสื้อแดงนะ ทีเวลาพวกมึงจะขึ้นแก๊สกันแล้วก็ไปเชียร์ให้ขึ้น มีประเทศเดียวในโลก

พันธมิตรฯ เสื้อเหลือง พวกเราเป็นคนมีปัญญา แล้วที่สำคัญที่สุดเอเอสทีวีไม่เคยยอมในเรื่องความชั่วช้า คุณใหญ่มาจากไหนเราก็ไม่เคย ฉะนั้นแล้วหยุดขู่ได้แล้ว น่ารำคาญ ถ้าจะมามาเลย จริงๆแล้วเดี๋ยววันหลังผมจะบอกคนที่ออฟฟิศว่า เมื่อไหร่ก็ตามมีจดหมายขู่มาจาก ปตท.เมื่อไหร่ ให้เอาจดหมายนี้ ผมจะให้เอามาเช็ดตูดเวลาขี้ แต่ว่าเนื่องจากกระดาษมันสาก บาดก้น เอาอย่างนี้ดีกว่า เอาเป็นที่รองฉี่ของแมวแล้วกัน เพราะว่าที่ออฟฟิศเรามีแมวหลายตัว จะได้มาฉี่รด ส่งมาขอให้มียี่ห้อ ปตท.หน่อยนะ อย่าเอาเป็นสำนักงานทนายความ มันจะได้สะใจหน่อย อย่าช้าๆ รีบๆฟ้อง

กมลพร - แล้วถ้าดูกันจริงๆ ไปตามอ่านเนื้อข่าวในรายละเอียด ต้องบอกเลยว่า ไตรรงค์มาผิดที่แน่นอน เพราะเขาบอกว่าได้รับมอบอำนาจจาก ปตท.สผ.อย่างน้อย 2 ข่าว ที่ไม่ได้เกี่ยวกับ สผ.เลย ไม่ได้เขียนถึง สผ.ด้วย ส่วนใหญ่จะพูดถึงจีซี คือกรณีน้ำมันรั่ว กับกรณีที่เราได้ข่าวมาจากต่างประเทศอีกที เช่น กรณีรัฐบาลพม่า

สนธิ - ใครอยู่แผนกประชาสัมพันธ์ของ ปตท. ทั้ง สผ.ทั้ง ปตท. ต้องถอดรองเท้าแล้วเอามาตบหน้ามันหน่อย วิธีการถ้าคุณไม่พอใจข่าวชิ้นไหน หรือคุณคิดว่าข่าวชิ้นไหนไม่ถูกต้อง คุณทำหนังสือชี้แจงมาเลย หรือคุณส่งทีมงานมาเลย แล้วคุณก็ต้องมาบอกที่คุณลงไปอย่างนี้ไม่ถูกนะครับ ผมมีหลักฐานแบบนี้ๆ บก.เราก็จะเอานักข่าวมานั่งคุยกัน แล้วมาพิจารณากัน ถ้าของคุณมีเหตุมีผลมีหลักฐาน เราก็จะลงข่าวให้คุณว่า คุณมาชี้แจงว่าข้อเท็จจริงผิดพลาดแบบนี้ๆ นี่คือวิธีการทำงานที่ถูกต้อง ปตท.มันไม่ใช่บริษัทที่มีธรรมาภิบาล ปตท.เป็นบริษัทอันธพพาลนะ แสดงว่า โทษนะมึงทำอะไรก็ไม่มีสิทธิ์ สื่อไม่มีสิทธิ์ลงใช่ไหม คือพวกมึงเคยชินกับการที่เอาเงินค่าโฆษณาตบหน้าเขา แล้วมึงไปเยี่ยวรดหน้าเขา ทำแผ่นดินไทยฉิบหาย รังแกประชาชนไทย แล้วมึงก็รู้ว่ามึงเอาเงินไปตบหน้าเขา แล้วมันก็จะมีสื่อเชี่ยๆ พวกนี้เยอะที่รับเงินแล้วไม่กล้าพูด แต่ไม่ใช่เอเอสทีวี ผู้จัดการ เข้าใจเสียใหม่ได้เเล้ว

กมลพร - เหมือนกรณีเสม็ดไงคะ คนเสม็ดพูดว่า ไปบอกเขาว่า พี่พูดอย่างนี้ทำไมน้องไม่ลงอย่างนี้ นักข่าวในพื้นที่ เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากบอกว่าพอดีเขาลงโฆษณากับเรา บก.บ้างแหละ เจ้าของบ้างแหละพูดบอกว่า อย่าลงแรงนัก เราก็ลงได้แค่นี้ เราก็ได้ตัดแค่นี้ และความไว้วางใจของประชาชนมันทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นสื่อ เนื่องจากว่าล่าสุดอย่างน้อยคนเสม็ดกลุ่มหนึ่ง เขาก็เดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปที่จะไปเรียกร้องกับ ปตท. วันนั้นนักข่าวไปเยอะมาก เขาหันมาถามเลย ประมงเล็ก เอเอสทีวีมาหรือยัง ทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักเรามาก่อนนะ อย่างที่เคยไว้

สนธิ - เขาเชื่อใจ

กมลพร - เขาเชื่อใจเรามาก เขารอเรา ซึ่งเรารู้สึกว่า ความเชื่อใจแบบนี้แหละที่สื่ออย่างเราได้รับ แล้วเราภูมิใจ และจดหมายขู่ของอีตาสามสี หรือจะ สภ. หรือ ปตท.ใหญ่ ไม่มีผลกับเรา กลับไปทำความรู้จักใหม่กับเราดีกว่า กลับบ้านไป

สนธิ - อยากให้ท่านผู้ชมและพันธมิตรฯ ให้จำเอาไว้ว่า เราเคยพูดมาแล้ว ว่าเราจะซื่อตรง เราจะมั่นคง เราจะไม่เปลี่ยน ไม่มีคุณค่าของเงิน หรือว่าทรัพย์สมบัติอะไรที่จะมาทำให้เราทรยศต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรยศต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรามีกันเพียงแค่นี้ เรารักกัน เราลำบากก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เราจะไม่ทอดทิ้งซึ่งกันและกัน และพวกเราจะไม่มีวันทำแบบนี้ ผมจะเล่าเบื้องหลังให้ฟัง ผมเล่าแล้วผมภูมิใจ มีข่าวอยู่ชิ้นหนึ่ง คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเอาข้าวไปแลกรถไฟนี่เป็นเรื่องที่ดี มีรถไฟความเร็วสูงแล้วเศรษฐกิจจะเจริญรุ่งเรือง เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เพราะฉะนั้นพวกนักวิชาการ หรือพวกฝ่ายคัดค้านอย่าไปฟังมัน อย่ามาคัดค้าน เท่านั้นเอง comment 7 หน้ากระดาษ 99% ด่าคุณธนินท์ เจียรวนนท์ เสียผู้เสียคนหมดเลย ไม่มีเหลือเลยนะ ก็แน่สิมึงขายข้าวได้ มึงรวย ประเทศไทยฉิบหายก็ไม่ใช่เรื่องของมึง มึงเอาแต่ได้อย่างเดียว ด่าจนกระทั่งผมเข้ามาดู จู่ๆ มันมีผิดพลาดทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ ผมเข้าไปดูอีกที comment หายหมดเลย ไม่มี comment ผมเลยโทรศัพท์ไปหาลูกชายผม ปั๊ป ป๋าพูดนะ ปั๊ปเป็นคนสั่งให้พวกออนไลน์เขาถอด comment ของนายธนินท์ เจียรวนนท์เปล่า เขาไม่ได้สั่งป๋า เพราะปั๊ปเห็นด้วยที่สมควรจะโดนด่า ปั๊ปไม่แคร์ใช่ไหม ถ้ามันไม่ลงโฆษณาปั๊ป ปั๊ปไม่แคร์หรอก แม่งไม่ลงก็ช่างแม่ง แอนผมภูมิใจไหม

จินดารัตน์ - ค่ะ

กมลพร - เราก็ภูมิใจ

สนธิ - ทุกคนก็ภูมิใจเรื่องนี้ แล้วตอนหลังพอมาแก้ทางเทคนิคแล้ว comment กลับมาใหม่ และนี่คือคำตอบว่า ทำไมเราต้องขายน้ำมันมะพร้าว เครื่องทำน้ำด่าง พี่น้องประชาชน พี่น้องพันธมิตรฯ เข้าใจเราหรือยัง เราพอใจจะเอากำไรน้ำมันมะพร้าวขวดละไม่กี่สิบบาทจากพ่อแม่พี่น้อง เครื่องทำน้ำด่าง เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเอามาทำให้เรามีศักดิ์ศรี เราพอใจตรงนี้ และเราก็มีความสุข

จินดารัตน์ - พี่น้องเราก็แสนจะน่ารักนะคะ เราทำอะไรออกมาขาย เขามั่นใจเขาเชื่อใจเราว่า มันต้องเป็นของดี

สนธิ - ของดี

จินดารัตน์ - เขาก็อุดหนุนช่วยกันซื้อ แม้กระทั่งเสื้อแล้วยังงัยนี่ค่ะ พี่ไก่แจ้งมาว่า ไอ้ที่โทรไม่ติดเพราะยังสั่งกันไม่หยุดเลยค่ะ

สนธิ - ทั้งหมดนี่นะ เราพยายามยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือของพี่น้อง เพื่อที่เราจะได้เป็นเอเอสทีวี เราจะได้เป็นคนที่รับปากพ่อแม่พี่น้องว่า เราจะไม่เปลี่ยน เราจะซื่อตรง เราจะมั่นคง ขอให้พี่น้องจำเอาไว้ แล้วพวกเรานี่ภูมิใจมาก ภูมิใจจริงๆ จากชีวิตพวกเรา

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น