xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จวกต่อ พ.ร.บ.มั่นคงยันปลาย พ.ย.ใช้ กม.กดหัวชาวบ้าน หวัง ตร.คุ้มครองรัฐลุแก่อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
โฆษกประชาธิปัตย์ซัดรัฐต่อ พ.ร.บ.มั่นคงยาวไปยัน 29 พ.ย.ใช้กฏหมายกดหัวประชาชน หวังเอาตำรวจคุ้มครองให้ทำผิดลุแก่อำนาจ ยุชาวบ้านไม่ถอย เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” จุดจบไม่ต่างเผด็จการ “มัลลิกา” เย้ยหวาดกลัวม็อบ ขอนายกฯ ตั้งสติ เตือนทำเศรษฐกิจถดถอย ป้อง “สุขุมพันธุ์” เสมอภาค


วันนี้ (18 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ถึง 29 พ.ย. 56 นั้นว่า เป็นการใช้กฎหมายกดหัวประชาชน และใช้อำนาจเพื่อรัฐบาลทั้งผ่านรัฐธรรมนูญ กฎหมายล้างผิด และกระบวนการอื่นๆ ที่รัฐบาลต้องการ โดยเอาตำรวจมาคุ้มครองรัฐบาลให้ทำผิดได้อย่างตามอำเภอใจ ซึ่งทุกอย่างเกิดจากการที่รัฐบาลทำผิดกฎหมาย ลุแก่อำนาจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจงใจสร้างความแตกแยกและดูถูกประชาชนที่เห็นต่างว่าไม่มีศักยภาพมากพอ แต่ตนเชื่อว่าประชาชนจะไม่ถอย แม้รัฐบาลจะขนตำรวจมาจำนวนมากก็สะท้อนว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ และรัฐบาลเผด็จการที่ผ่านมาก็เห็นจุดจบแล้วว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมทั้งคณะจะมีจุดจบไม่ต่างกัน

ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า การต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยอ้างความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่แยกอุรุพงษ์ แสดงความหวาดกลัวและหวั่นไหวของรัฐบาล จึงพยายามจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะการชุมนุมของประชาชนเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ จึงถือเป็นการลุแก่อำนาจและกลัวจนเกินเหตุ ทั้งนี้การขยายเวลาไปถึง 29 พ.ย. 56 นั้นเป็นการขยายเกินความจำเป็น เพื่อเอื้อต่อการกระทำของรัฐบาลในการผลักดันกฎหมายที่ไม่ชอบหลายเรื่อง เพราะเป็นการขยายถึงวันปิดประชุมสภา เป็นการลิดรอนการแสดงออกของประชาชนอย่างชัดเจน จึงขอสะท้อนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ตั้งสติวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน ทบทวนกรณีการขยายเวลาให้ลดเวลาเพิ่มเสรีภาพให้ประชาชนในการแสดงออก ไม่เช่นนั้นประชาชนจะรู้สึกอึดอัดจนเพิ่มแรงกดดันกับสังคมมากขึ้น

น.ส.มัลลิกากล่าวอีกว่า การที่นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รมช.มหาดไทย พยายามตรวจสอบพฤติกรรม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.และเจ้าหน้าที่ กทม.ที่ให้บริการสิทธิขั้นพื้นฐานกับผู้ชุมนุมนั้น ตนยืนยันนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. เสมอภาคกันทั้งที่การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ หรือแยกอุรุพงษ์ ดังนั้นการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ว่าฯ กทม.จึงถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบ การอำนวยความสะดวกในเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของ กทม.ไม่ต่างกัน ทำให้มีประชาชนคิดที่จะเอาผิดนายวิสาร ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย และอยากขอเตือนความจำว่านายวิสาร และลูกสาว รวมทั้งส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เคยไปอยู่ในเวทีการชุมนุมของกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มีพฤติกรรมรุนแรง ก่อคดีอาญาทั้งการเผาบ้านเผาเมือง ทำร้ายประชาชน ส่วนการอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนการชุมนุมนั้น ก็เพื่อดิสเครดิตความน่าเชื่อถือของผู้ชุมนุม

“การชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์เป็นการชุมนุมตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความผิดทางอาญาอื่น เพราะไม่ประกาศระดมน้ำมันล้านลิตร ไม่มีแกนนำประกาศว่าเผาเลยผมรับผิดชอบเอง ดังนั้นจึงหวังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะพิจารณาลดการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง เพื่อไม่ให้ทำลายความมั่นใจของนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพราะจะยิ่งทำให้ภาวะเศรษฐกิจของไทยถดถอยมากขึ้นไปอีก” น.ส.มัลลิกากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น