“ยิ่งลักษณ์” ถกกลาโหม-บัวแก้ว ปมคำตัดสินพระวิหารจันทร์นี้ “บิ๊กตู่” สั่งทหารชายแดนนิ่ง

จันทร์นี้ นายกฯ เตรียมถกเหล่าทัพ-กต.สรุปแนวโน้มคำตัดสินศาลโลก เร่งทำความเข้าใจ ปชช.ต่อเนื่อง ผบ.ทบ.สั่งทหารชายแดนพระวิหารนิ่ง ห้ามปรับ-เพิ่มเติมกำลัง ยันเน้นการเจรจา

วันนี้ (17 ต.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงกองทัพ เปิดเผยว่า วันที่ 21 ตุลาคมนี้ พล.อ.ยุทธศํกดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าประชุมหารือและให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีปราสาทพระวิหารต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ จะมีการสรุปแนวโน้มของคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จะเป็นอย่างไร และกองทัพคงไม่ต้องเตรียมข้อมูลชี้แจงอะไรในที่ประชุม เพราะทุกอย่างได้ทำมาเป็นอย่างดีในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน

“หลังจากที่คณะทีมกฎหมายของไทยได้ไปแถลงข้อมูลในคดีพระวิหารเมื่อช่วงเมษายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วประเทศด้วยการเดินทางไปชี้แจง ประชาสัมพันธ์ มีการ์ตูนอนิเมชัน หนังสือแจง บทความข่าว เพื่อให้คนไทยมีความพร้อมในการรับรู้ข้อมูล ส่วนหน่วยงานมั่นคงได้ติดต่อกับทางกัมพูชาตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดีในวันนี้สถานการณ์ชายแดนมีความสงบเรียบร้อยมา 1 ปีเศษ ประชาชนสามารถค้าขาย เปิดด่านให้ทั้งคนไทย-กัมพูชาเดินทางไปมาได้ด้วยความเรียบร้อย ดังนั้น เราทำได้ดีในการชี้แจงต่อศาลโลกแล้ว วันนี้ต้องรอฟังคำตัดสินของศาลโลก” แหล่งข่าว ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้กองกำลังสุรนารีกำชับกำลังพลที่ดูแลตามบริเวณแนวชายแดนอย่าได้ตื่นตระหนกในช่วงจะมีคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) พร้อมเน้นย้ำให้ทำตามแผนที่ได้ฝึกกันมา และอย่าสร้างเนื่องไข ทั้งนี้ หากมีปัญหาเกิดขึ้นให้เน้นการพูดคุยประสานงานระหว่าง ผบ.หน่วยกับ ผบ.หน่วยกัมพูชา นอกจากนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วง 3 วันที่ผ่านมา หน่วยทหารกัมพูชาที่เคยดูแลพื้นที่ปราสาทพระวิหารที่ได้ถอยออกไปเมื่อช่วงต้นปี2556 ได้นำกำลังมารักษาพื้นที่แนวพระวิหารเพื่อดูแลตามแนวชายแดนกัมพูชาเช่นเดิม

พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาค 2 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนด้านเขาพระวิหารว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)สั่งการให้ทหารที่ประจำที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และด้านเขาพระวิหารนิ่ง ไม่ต้องตื่นตระหนัก กับข่าวที่ศาลโลกจะตัดสินคดีพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร ในวันที่ 11 พย.นี้ โดยกำชับไม่ให้มีการปรับกำลัง หรือเพิ่มเติมกำลังใดๆที่แนวชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เพราะเป็นข้อตกลงเดิมที่ไทยและกัมพูชา เคยทำกันไว้ ส่วนที่มีข่าวว่า ทหารเขมรส่งกำลังกลับเข้ามาเพิ่มที่ชายแดนด้านเขาพระวิหารนั้น เป็นการหมุนเวียนกำลังทหารเฉยๆ และเป็นกำลังทหารที่เคยเข้าไปดูแลสถานการณ์การเมืองภายใน ตั้งแต่ตอนเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องส่งกลับมา ไม่ได้ถือว่าเป็นการเพิ่มเติมกำลังทหารแต่อย่างใด

“ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เป็นไปด้วยดีมาก มีอะไรก็คุยกันผ่านทางระดับ ผู้บังคับกองร้อย ผบ.หน่วยในพื้นที่ เราเน้นที่การเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน มีอะไรก็พูดคุยกัน ถ้ามีเสียงปืน หรืออะไรก็ต้องประสานถามกันในระหว่างผบ.หน่วย สองฝ่าย ภายใน 5 นาทีก็รู้เรื่องกันแล้ว จึงไม่ค่อยมีปัญหา” แม่ทัพภาค 2 กล่าว

พล.ท.ชาญชัย กล่าวว่า ในพื้นที่ชายแดน เรามีการวางจุดประสานงานของไทย-กัมพูชา ไว้ในช่องสำคัญๆ ต่างๆ ตลอดแนวชายแดน เพื่อไว้ติดต่อกันเวลามีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่ บางทีปืนลั่น หรือมีทหารเขมรเครียด ทางเราก็ต้องนิ่ง แล้วถามกลับไปตามช่องทางว่า เกิดอะไรขึ้น ซึ่งในช่วงหลัง ทาง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ดูแลลูกน้องดี ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแบบนี้แล้ว

“ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินออกมาอย่างไร ทหารเราก็จะต้องอยู่ในความสงบ และยึดหลักการความเป็นเพื่อนบ้านกัน ผบ.ทบ.เน้นย้ำมากว่า อย่ามีการเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนย้ายกำลัง ซึ่งในพื้นที่ PDZ นั้น ห้ามไม่ให้มีการ เคลื่อนกำลังใดอยู่แล้ว แต่ในพื้นที่ A B C D นั้น ก็มีการลาดตระเวณร่วม การดูแลชายแดนกันตามปกติ แต่ก็ยึดข้อตกลงอย่างเคร่งครัด ไม่มีการเพิ่มเติมกำลังทหาร และเราจะไม่เป็นฝ่ายสร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น โดยเด็ดขาด” แม่ทัพภาค 2 กล่าว

เมื่อถามว่า ให้ความมั่นใจแก่ประชาชนคนไทยได้หรือไม่ว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ทางกองทัพจะดูแลชายแดน ดูแลอธิปไตยของไทยได้ พล.ท.ชาญชัย กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นในทหารไทยของกองทัพภาค 2 ทุกคนได้เลยว่า จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยยึดตามคำสั่งของ ผบ.ทบ. อย่างเคร่งครัด อีกทั้งเราก็มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และมีการซักซ้อมตามแผนกันมาตามวงรอบอยู่แล้ว อีกทั้งท่าน ผบ.ทบ.ให้ความสำคัญในเรื่องการวางแผนการดูแลชายแดน ในระดับต่างๆตามแผนป้องกันประเทศ ไว้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจในกองทัพ ทั้งนี้อย่าวิตกว่าจะเกิดการสู้รบขึ้น เพราะทุกอย่างต้องใช้การเจรจา ใช้การพูดคุยกัน ยิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเช่นนี้ ทั้งในระดับรัฐบาลและ กองทัพ ก็น่าจะพูดคุยกันได้

ในส่วนของการดูแลประชาชนตามแนวชายแดนนั้น แม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า เรมีแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ที่ทำงานประสานกับทางมหาดไทยอยู่แล้ว ในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านที่ติดกับแนวชายแดน โดยจะมีการไปแจ้งเตือนเรื่อง ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ หากกรณีเกิดปํญหาที่ชายแดน ทั้งการเข้าที่กำบังหลบภัย การตรวจสอบความพร้อมของ หลุมหลบภัยต่างๆ ตอนนี้กำลังทหารส่วนใหญ่ของกองทัพภาค 2 ก็ระดมกำลังกันไปช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วม ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน แต่ในส่วนที่ดูแลชายแดนก็มีตามปกติ