xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.โวยหักดิบโหวตชำเรา รธน.มาตรา 190 เชื่อเอื้อประโยชน์ “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี (แฟ้มภาพ)
ส.ส.ประชาธิปัตย์ โวยรัฐบาลเสนอหับดิบโหวตรื้อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ทั้งที่มีส่วนได้เสียมาก เชื่อเอื้อประโยชน์ “นช.แม้ว” ทำธุรกิจ

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ว่ามีผลทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกรณีเรื่องที่จะเข้าสู่รัฐสภา โดยจะทำให้เรื่องที่เข้าข่ายที่เข้าข่ายสนธิสัญญาที่เป็นคู่กรณีระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือรัฐต่อองค์กรระหว่างประเทศ เหลือเพียงแค่ 4ประเด็นเท่านั้น คือ 1.) หนังสัญญาเปลี่ยนเขตแดนอาณาเขต 2.) การเปลี่ยนเขตแดนพื้นที่นอกอาณาเขตจึงจะเข้ากระบวนการให้รัฐสภาพิจารณา 3.) การออก พ.ร.บ.ตามหนังสือสัญญา4.) การเปิดเขตการค้าเสรี (FTA)

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า การลงมติมาตรา 190 เมื่อวานนี้ เป็นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีส่วนได้เสียเยอะมาก โดยมีข้อสังเกตในหลายประเด็นคือ ที่โดยปกติแล้วจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อกำหนดกรอบการเจรจา แล้วมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน จากนั้นเมื่อมีการคุยกับประเทศคู่สัญญาแล้วก็จะต้องให้ที่ประชุมรัฐสภารับรองก่อน แต่กลับมีการตัดขั้นตอนการกำหนดกรอบการเจรจาและการรับฟังความเห็นประชาชนออกไป โดยให้เป็นไปตามกฎหมายลูกกำหนด ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ดำเนินการเรื่องข้อตกลงกับต่างประเทศได้ และสามารถดำเนินการประชุมในทางลับกับประเทศคู่สัญญา แล้วนำเข้าให้รัฐสภาเห็นชอบโดยไม่ต้องกำหนดกรอบการเจรจาและฟังความเห็นประชาชน หากไม่มีการออกกฎหมายลูก จึงทำให้รัฐสภาจำเป็นต้องลงมติโดยที่ไม่สามารถปรับแก้ได้

นอกจากนี้อาจมีการช่องโหว่เพื่อหาผลประโยชน์ด้านพลังงาน อย่างเช่นที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่น เคยยอมรับว่ามีธุรกิจด้านพลังงานในรายการช่องVoice TV ซึ่งจะมีการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย โดยการตั้งบริษัทเอกชนขึ้นมาขอสัมปทานขุดน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อน โดยไม่ต้องเข้าข่ายตามมาตรา 190 เนื่องจากเป็นบริษัทเอกชน และเป็นข้อตกลงเรื่องการขุดเจาะน้ำมัน ไม่ได้เป็นเรื่องการเปลี่ยนเขตแดนทางทะเล ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้ทางทีมงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหาช่องทางดำเนินการเอาผิดต่อไป ทั้งเรื่องเนื้อหาและกระบวนการที่มีการเสนอปิดอภิปรายทั้งที่ยังมีผู้สงวนคำแปรญัตติเพื่ออภิปรายไว้

ทั้งนี้นายอรรถวิชช์ ยังมองว่า การลงมติเมื่อวานนี้ มี ส.ว.จำนวนมากที่ลงมติไปในทิศทางของรัฐบาล ซึ่งเป็นสัญญาณการกินรวมอำนาจหากมีการเลือกตั้ง ส.ว. ตามที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งหน้า ที่จะต้องได้กลุ่ม ส.ว.เหล่านี้กลับมาทำหน้าที่ และการลงมติของ ส.ว.เหล่านี้ ก็เป็นเหมือนการขอฐานเสียงล่วงหน้าจากพรรคเพื่อไทย จนสุดท้ายอาจเกิดวงจรอุบาทว์ มีการโกงเป็นระบบ เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น