นายกฯ มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น “แบงก์กรุงไทย” คว้าไปครอง ฝาก รมต.นำงานกระทรวงกับงานรัฐวิสาหกิจมาบูรณาการกัน อ้างเพื่อสอดคล้อง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชมแนวคิด “สู่ศักราชใหม่ พลังรัฐวิสาหกิจไทย รวมใจเชื่อมโลก” เพื่อความยั่งยืนของประเทศ
วันนี้ (16 ต.ค.) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2556 เพื่อประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ดีเด่นในด้านต่างๆ และสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง โดยนายกฯ ได้มอบโล่รางวัลรัฐวิสาหกิจที่ดีเด่นประจำปี 2556 ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2556 ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย รัฐวิสาหกิจดีเด่นที่ได้รับรางวัลพัฒนาองค์กรดีเด่น ได้แก่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย รัฐวิสาหกิจที่ได้รางวัลเปิดเผยข้อมูลดีเด่น ได้แก่ การประปานครหลวง และธนาคารออมสิน รัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่น ได้แก่ ปตท.รัฐวิสาหกิจที่ได้รับรางวัลด้าน CSR ดีเด่นคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมกลุ่มสถาบันการเงิน ปี 2556 คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่วนรางวัลผู้นำองค์กรรัฐวิสาหกิจดีเด่น คือ นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้กล่าวบนเวทีแสดงความยินดีกับรัฐวิสาหกิจและบุคคลที่ได้รับรางวัล ว่า ผลงานดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้รัฐวิสาหกิจถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศของรัฐบาล รวมถึงตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีกลไกในการบริหารงานที่คล่องตัว จึงขอให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจรักษาความคล่องตัวที่มีอยู่เพื่อให้การบริการภาครัฐเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ส่วนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจใดที่ยังไม่ได้รับรางวัลก็อย่าท้อ อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมรัฐวิสาหกิจหลายหน่วยงานที่ช่วยกันในการปรับบทบาทภารกิจต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบุกเบิกริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน การขับเคลื่อนต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจในการเข้าถึงพื้นที่ ตลอดจนตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และการรักษาไว้ซึ่งการบริหารงานอย่างมืออาชีพ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจถือเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลที่จะทำงานร่วมกันในการนำพาประเทศด้วยทิศทางที่ชัดเจน ซึ่งขอชื่นชมหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ได้มีการนำนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ของประเทศรวมถึงทิศทางต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนไปดำเนินการ และขอให้นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้สื่อสารไปยังหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ต่างๆ สำหรับเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันนั้น ขณะนี้มีหลายองค์กรที่ช่วยกันตอบโจทย์เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่งตรงนี้อยากให้มีการมองตั้งแต่ระดับวิสาหกิจชุมชน SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และให้มองลึกลงไปในมิติของแต่ละอุตสาหกรรม โดยฝากให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องนำงานของกระทรวงและงานของรัฐวิสาหกิจมาบูรณาการกัน เพื่อให้การทำงานมีการเชื่อมโยงสอดคล้อง และเติบโตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันนอกจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจะต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนแล้ว ยังต้องทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นที่ยอมรับ โดยยึดหลักเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี ความโปร่งใสในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบและการดูแลทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ได้บูรณาการทิศทางนโยบายของรัฐบาลร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เป็นอย่างดีมาโดยตลอด และแนวคิด “Bridging Thailand to The New Era : สู่ศักราชใหม่ พลังรัฐวิสาหกิจไทย รวมใจเชื่อมโลก” เป็นแนวคิดที่ดีและถือเป็นการเปิดศักราชใหม่สำหรับพลังรัฐวิสาหกิจที่จะรวมใจเชื่อมโลก ซึ่งถ้าทุกภาคส่วนรวมพลังกันจะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปสู่ทิศทางที่พัฒนาและคล่องตัวในการที่จะตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อความยั่งยืนของประเทศต่อไป