เสวนารื้อระบบพรรคเจ้าของคนเดียว แก้วิกฤตการเมือง “เจิมศักดิ์” ชี้ยุคนี้ตั้งพรรคเป็นรูปแบบธุรกิจ ส.ส.ไม่ได้ร่วมด้วยอุดมการณ์ “คำนูณ” ฉะต่อมีหน้าที่แค่โหวตตามสั่ง ไร้ความคิด ย้อนนายทุนพรรคเริ่ม รธน.ปี 17 บังคับให้สังกัดพรรค ล่าสุดต้องเป็นสมาชิก 90 วัน ทำ หน.พรรคผูกขาดอำนาจ ชาติส่อวิกฤต เป็นรัฐล้มเหลว หนุนสังกัดอิสระ ลุยตามอุดมการณ์
วันนี้ (16 ต.ค.) การเสวนาเรื่อง “รื้อระบบพรรคการเมืองเจ้าของคนเดียว แก้วิกฤตการเมืองไทย” จัดโดยคณะกรรมาธิการ ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ร่วมกับกลุ่ม 40 ส.ว. และสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย 2556 ที่จัดขึ้นเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ การเมืองไทยที่มีระบบพรรคการเมืองเจ้าของคนเดียว โดยมี รองศาสตราจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.แบบสรรหา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.แบบสรรหา นายคมสันต์ โพธิ์คง ร่วมเป็นวิทยากร
โดยรองศาสตราจารย์ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กล่าวถึงธรรมชาติของการจัดตั้งพรรคการเมืองว่า พรรคการเมือง คือ ที่รวมอุดมการณ์ทางการเมืองที่จะกำหนดนโยบายโดยเชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยกับนโยบายร่วมสนับสนุนพรรคด้วยการลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อพัฒนาบ้านเมืองตามอุดมการณ์ของพรรค แต่ปัจจุบันระบบพรรคการเมืองไม่เป็นไปในรูปแบบนี้ ส.ส.ไม่ได้เข้าร่วมพรรคเพราะอุดมการณ์ แต่กลับมุ่งมองถึงโอกาสทางการเมืองมากกว่า ขณะนี้การตั้งพรรคการเมืองกลายเป็นพรรคการเมืองในรูปแบบธุรกิจแบบควบรวม
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.แบบสรรหา กล่าวว่า ส.ส.เหมือนพนักงานบริษัทตามแต่ที่เจ้าของจะสั่งให้ทำอะไร มีความพร้อมเพรียงในการโหวต โดยมีวิปฯ ส่งสัญลักษณ์ให้โหวตตามที่กำหนดไว้แต่ต้น โดยที่สมาชิกไม่ได้ใช้ความคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจเอง สิ่งเหล่านี้เป็นบรรยากาสที่พบจนชินตา
นายคำนูณกล่าวด้วยว่า ระบบนายทุนพรรคการเมือง เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2517 ฉบับที่ 10 ที่เริ่มบังคับให้นักการเมืองสังกัดพรรคการเมือง จนมาถึงรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ได้เติมบทบัญญัตว่า ส.ส.เมื่อยุบสภาแล้ว เปลี่ยนพรรคไม่ได้ต้องเป็นสมาชิกพรรคอย่างน้อย 90 วัน ซึ่งหมายความว่า หัวหน้าพรรคต้องมีอำนาจเด็ดขาดเห็นได้ว่าระบบพรรคการเมืองเจ้าของคนเดียวมีผลการผูกขาดอำนาจการบริหารประเทศอย่างเบ็ดเสร็จทุกด้านซึ่งจะทำให้ประเทศก้าวเข้าสู่สภาวะวิกฤติอย่างร้ายแรง พ้นจากสภาพความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม เป็นรัฐที่ล้มเหลวในที่สุด
นายคำนูณมองว่า ควรมีการบัญญัติรัฐธรรมนูญให้ ส.ส.ไม่สังกัดพรรคการเมือง สามารถมีอิสระในการทำงาน ตามอุดมการณ์ของตนเอง ซึ่งจะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีกว่าปัจจุบันนี้
