xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ จีนโผล่สภา อ้อนยกมือเอ็มโอยูเศรษฐกิจ สภาร่วมผ่าน 477 เสียงไม่แคร์เสียเปรียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเอกฉันท์ 477 เสียงผ่านเอ็มโอยูบันทึกความเข้าใจเศรษฐกิจไทย-จีนและเพื่อนบ้าน ทั้งที่สมาชิกส่วนหนึ่งห่วงไทยเสียเปรียบ นายกฯ จีนโผล่โปรยยาหอม จะรับข้าวไทย 1 ล้านตัน เตรียมตั้งแบงก์สกุลเงินบาทชำระหนี้ระหว่างประเทศ ยกเลิกวีซ่าคนไทย ก่อนอ้อนสภาไทยยกมือหนุนทุกกฎหมายกระชับสัมพันธ์


วันนี้ (11 ต.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น.ได้มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณา รายงานบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรไทย ในการเริ่มใช้ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รัฐบาลแห่งสภาพเมียนมาร์ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และบุคคลข้ามพรมแดนที่จุดผ่านแดนเชียงของ ราชอาณาจักรไทย และห้วยทราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจุดผ่านแดนบ่อเต็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และโมฮาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

โดย พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม รายงานว่า คมนาคมจึงเห็นสมควรเตรียมความพร้อมในการเดินรถขนส่งสินค้า และเปิดชายแดนลาว-จีน ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-ลาว-คุนหมิง โดยให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ เพื่อทั้ง 3 ประเทศจะสามารถเตรียมการตามบันทึกความเข้าใจได้ทันที มีการเปิดใช้สะพานไทย-ลาว ส่วนสาระบันทึกความเข้าใจครอบคลุมเรื่องต่างๆ คือ สิทธิการจราจร อนุญาตให้มีการประกอบการขนส่งสินค้าและบุคคลระหว่างไทย-ลาว-จีน ตามแนวเส้นทางเศรษฐกิจ เหนือ-ใต้ และให้มีการยอมรับผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละภาคีในช่วงเริ่มต้น หลังจากลงนามบันทึกความเข้าใจแต่ละประเทศภาคี จะสามารถประกอบการตามในอนุญาตขนส่งได้ เพื่อให้ประกอบการรถขนส่ง และรถโดยสารไม่ประจำทางระหว่างประเทศตามเส้นทางที่กำหนดและภายหลังการลงนาม 1 ปี สามารถออกใบอนุญาตได้ 100 ฉบับ และหลังจากลงนาม 2 ปี ออกได้ 300 ฉบับ หลังจากลงนาม 3 ปี ออกได้ 500 ฉบับ หลังจากนั้นประเทศภาคีสามารถเสนอให้มีการพิจารณาปรับปรุงจำนวนใบอนุญาตที่กำหนดไว้ดังกล่าวได้

นอกจากนี้การอำนวยความสะดวกพิธีการขับข้ามแดน การยอมรับการตรวจพร้อมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตั้งเป้าหมายให้มีการตรวจสอบสินค้าเพียงครั้งเดียวต่อไปในอนาคต การขนส่งบุคคลข้ามแดน การนำหลักเกณฑ์องค์การอนามัยโลกมาใช้สำหรับการขนส่งบุคคลข้ามแดน การขนส่งสินค้าข้ามแดน การยกเว้นการจัดเก็บภาษีศุลกากร สำหรับสินค้า หรือคอนเทรนเนอร์ ที่ติดตราประทับศุลกากรที่ใช้ในการขนส่งต่างแดนสำหรับสินค้าอันตรายจะอนุญาตเป็นกรณีๆ ไป และจะให้สิทธิพิเศษในการปลดปล่อยสินค้าเน่าเสียง่ายข้ามแดน การยอมรับรถ การยอมรับหนังสือรับรองการจดทะเบียน แผ่นป้ายทะเบียนและหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถของภาคีอื่น การยอมรับใบอนุญาตขับรถในประเทศซึ่งกันและกัน รวมถึงการกำหนดอัตราค่าบริหารขนส่งให้เป็นไปตามกลไกตลาด การจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-ลาว-จีน เพื่อควบคุมและติดตามการปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการจัดทำรับฟังความเห็นประชาชนด้วยการจัดทำเว็ปไซด์ของกระทรวงและกรมการขนส่งด้วยแล้ว

จากนั้นสมาชิกได้อภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เป็นห่วงถึงความไม่พร้อมของประเทศไทยในหลายด้าน ที่อาจจะทำให้เสียเปรียบกับประเทศภาคี อาทิ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา ท้วงติงถึงเรื่องสิทธิการจราจร มีการถามผู้ประกอบการว่าเห็นด้วยหรือไม่ สิทธิในการจราจรตนทราบข้อมูลว่าขณะนี้คนขับสิบล้อของไทยขาดแคลนสืบเนื่องมาจากโครงการจำนำข้าว ไม่ทราบว่ายังมีปัญหานี้อยู่หรือไม่ ส่วนเรื่องสิทธิการจราจรในบันทึกที่กำหนดในแต่ละปี ขณะที่การขนส่งรถบรรทุกของจีนมีการพัฒนาไปมาก เกรงว่าเมื่อเซ็นไปแล้วที่สุดคนไทยจะถูกจีนมาแย่งขนของ ส่วนเรื่องเอกสารควรมีการแปลภาษาแต่ละประเทศ เพื่อความเข้าใจและสะดวกกับฝ่ายไทยที่อาจจะไม่มีความรู้ในภาษาจีน อาจจะเกิดความเสียเปรียบได้ สำหรับการขนส่งบุคคลข้ามแดนควรระวังปัญหาการลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามแดน เพราะต้องยอมรับว่ามีคนจีนหลายคนที่อยากลักลอบเข้ามาไทยเพื่อตั้งรกรากถิ่นฐาน ได้ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องดูสถิติต่างๆ ว่าจะส่งผลกระทบหรือไม่

นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงกรณีคำสั่งสัญญาที่จะอำนวยความสะดวก การวางกฎเกณฑ์ภายในประเทศ เรามีความพร้อมแค่ไหน ที่จอดรถ ด่านศุลกากร ตม.ฝ่ายกักกันพืช อาหารและยา ความพร้อมถนนหนทาง เขตที่ตั้งมีการเวณคืนที่ดินหรือไม่ เครื่องมือคอมพิวเตอร์ ตนเคยอยู่ในกรรมาธิการกิจการชายแดนไปมาทั่วประเทศไทย เห็นว่าความพร้อมของไทยยังเป็นรองเพื่อนบ้านทั้งหมด เรามีข้อตกลงมากมาย และรัฐบาลจะพยายามเร่งรัดให้ความเห็นชอบ เมื่อเห็นชอบไปแล้วแต่ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามตารางเวลา ซึ่งข้อตกลงลุ่มแม่น้ำโขงจะเชื่อมโยงกับประชาคมอาเซียน ที่จะมีขึ้นในอีก 2 ปี หากยังมีปัญหาการจราจรติดขัด สิ่งอำนวยความสะดวกไม่พร้อมทางด้านกายภาพจะทำอย่างไร โดยเฉพาะ ซอฟต์แวร์ เอกสาร ศุลกากร พิธีการต่างๆ มีการเตรียมพร้อมอย่างไร รัฐบาลขอกู้เงินไม่มากมายจะนำไปใช้เพื่อเสริมสร่างความพร้อมและกลายเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม และโลจิสติกส์อย่างไร สัญญาต่อสภาได้หรือไม่ว่า ภายใน 3 เดือนสิ่งต่างๆ ไทยจะทำตามพันธกรณี หรือมีความพร้อมในการเตรียมการ ทางด้านกายภาพและงบประมาณเพียงพอเมื่อไหร่ และจะมีการโหมโรงให้ประชาชนเตรียมการมากน้อยแค่ไหน

ขณะที่ นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนว่ารัฐบาลได้ทำข้อตกลงที่ครอบคลุมดีแล้ว แต่โครงสร้างพื้นฐานใน อ.เชียงของ ยังไม่พร้อมโดยเฉพาะถนน ขอให้ทางหลวงชนบท และทางหลวงแผ่นดินเข้าไปพัฒนา และการผ่านแดนของประชาชนอยากให้ไม่ต้องมีวีซ่า อย่างน้อยให้อยู่ในประเทศได้ 7 วัน จะเป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยว รวมถึงจัดทำป้ายบอกเส้นทางเป็นภาษาจีนเพื่ออำนวยความสะดวก

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมดำเนินมาถึงเวลา 14.40 น.นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้ซักซ้อมถึงพิธีการให้การต้อนรับ นายหลี เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะมาปาฐกถาพิเศษในที่ประชุมรัฐสภา โดยขอให้สมาชิกเข้ามาในห้องประชุมอย่างพร้อมเพรียงเพื่อให้เกียรตินายกรัฐมนตรีของจีนที่มาเยือนรัฐสภาไทย โดยนายหลี เค่อ เฉียง จะมานั่งบนเก้าอี้ของประธานสภา เพื่อเป็นเกียรติ เหมือนกับที่เราให้เด็กมานั่งในวันเด็ก จากนั้นได้สั่งพักการประชุมชั่วคราว

ต่อมา นายสมศักดิ์ ให้การรับรอง นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนและคณะในโอกาสมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม พ.ศ.2556 โดยนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะทำพิธีวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และลงนามในสมุดเยี่ยมเยือนรัฐสภาไทย จากนั้นได้หารือข้อราชการกับประธานรัฐสภา เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ขณะที่ความสัมพันธ์กับทางรัฐสภาไทยอยู่ในระดับที่ดี

พร้อมกันนี้ยังได้มีการตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-จีน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี สำหรับความสัมพันธ์ในระดับพหุภาคีนั้น รัฐสภาทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์กันในรูปการเป็นภาคีสมาชิกสหภาพรัฐสภา หรือ ไอพียู และการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอพีพีเอฟ ร่วมกัน นอกจากนี้จีนยังมีสถานะเป็นประเทศคู่เจรจาในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน และยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการเป็นหุ้นส่วนของรัฐสภาเอเชียยุโรปด้วย

จากนั้น นายหลี่ เค่อ เฉิน เข้าร่วมประชุมรัฐสภา โดยได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ประธานรัฐสภาเพื่อเป็นเกียรติให้กับรัฐสภาไทย ท่ามเสียงปรบมือต้อนรับของสมาชิกในห้องประชุมจากนั้นได้ลงมากล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาตอนหนึ่งว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้มีโอกาสเดินทางไทย และประทับใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันทำให้เกิดความแน่นแฟ้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ไทยและจีนเป็นคู่ค้ากันในเรื่องสินค้าการเกษตรโดยเฉพาะยางพารา ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 8 เท่า ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ไทยและจีนยังมีความแตกต่างจากความสัมพันธ์ของประเทศอื่นจนอาจกล่าวได้ว่าไทยและจีนเป็นพี่น้องกัน ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีต่อกลุ่มประเทศอาเซียนอื่นๆ

นายกฯ จีน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรามีความสัมพันธ์ร่วมกันทั้งในระดับผู้นำประเทศและประชาชน โดยผู้นำไทยและจีนต่างได้เยือนประเทศของกันและกันบ่อยครั้ง ซึ่งคิดว่าสมาชิกรัฐสภาไทยจำนวนไม่น้อยจะเคยเดินทางไปประเทศจีนอย่างแน่นอน และประชาชนของจีนเองก็ชอบเดินทางมาประเทศไทยจนมีการสร้างภาพยนตร์จีนที่เกี่ยวกับการเดินทางในประเทศไทยออกมาเผยแพร่

“เรามีมิตรภาพลึกซึ้งกันมากกว่าประเทศอื่นๆ เช่น ตอนที่ไทยประสบภัยสึนามิทางจีนก็ได้ให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกับที่จีนประสบภัยแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ เป็นต้น ในสถานการณ์โลกที่แปรปรวนเป็นโอกาสดีสำหรับประเทศเอเชียตะวันออกที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกัน” นายหลี่ เค่อเฉิน กล่าว

นายกฯ จีน กล่าวถึงการสร้างความร่วมมือกันของทั้งสองประเทศในอนาคตว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันจะต้องเริ่มจาก 1.ความไว้เนื้อเชื่อใจ 2.ความจริงใจต่อกันด้วยการไปมาหาสู่กัน 3.ยกระดับความสัมพันธ์กันในเชิงยุทธศาสตร์ โดยส่วนตัวมีข้อเสนอหลายข้อ คือ 1.การสืบสานวัฒนธรรมระหว่างกัน โดยควรมีผู้นำประเทศระดับสูงเดินทางไปมาหาสู่กันบ่อยๆ เพื่อหารือกันถึงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในระยะยาว 2.ในด้านเศรษฐกิจจะต้องทำให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นเพื่อให้มีมูลค่าการค้าขายร่วมกันถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปีนี้

“จีนจะนำเข้าข้าวจากไทย 1 ล้านตัน และนำเข้ายางพาราซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทยเพิ่มขึ้น และจะมีการสร้างกลไกการจัดการขึ้นมาเพื่อความสัมพันธ์ทางด้านการค้าการเกษตร โดยจีนจะสร้างธนาคารที่ใช้สกุลของเราในการชำระหนี้ระหว่างประเทศและสร้างสาธารณูปโภคให้ครอบคลุม”

ส่วนเรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูงของไทยนั้น จีนมีองค์ความรู้ที่จะถ่ายทอดให้กับประเทศไทย เพราะเชื่อว่ารถไฟความเร็วสูงจะยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้ ซึ่งจีนหวังว่านายกรัฐมนตรีของไทยจะไปร่วมงานนิทรรศการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อหารือกันอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง

“หวังว่าความร่วมมือต่างๆ จะผ่านขั้นตอนทางกฎหมาย อยากให้ทุกท่านร่วมมือกันยกมือผ่านกฎหมายนี้เพราะอยากให้ประชาชนและผู้คนต่างๆ ในอาเซียนมีความเป็นอยู่ที่ดี ที่พูดมานี้ไม่ได้มาหาเสียงเพื่อให้มาลงคะแนนผ่านกฎหมายฉบับนี้ แต่อยากให้ลงคะแนนเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน”

นายหลี่ เค่อเฉินกล่าวว่า ขณะเดียวกันจะเสนอให้มีการยกเลิกการขอวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทยเพราะจะทำให้ประชาชนได้ไปมาหาสู่กันมากขึ้นเพื่อสร้างความแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และสถาบันขงจื้อจะเป็นตัวกลางในการพัฒนาด้านภาษาระหว่างกัน พร้อมกันนี้จีนยึดมั่นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยแนวทางสันติวิธีเพื่อให้ภูมิภาคนี้ได้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มั่นคงและต่อเนื่อง โดยผ่านการปฏิรูปกลไกและโครงสร้างต่างๆเพื่อให้เราสามารถปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศและทำให้เศรษฐกิจจีนมีความมั่นคงในโลก ซึ่งการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะสามารถให้โอกาสประเทศอาเซียนและไทยให้เติบโตไปพร้อมกับจีนได้

“เมื่อไม่นานมานี้จีนได้ส่งหมีแพนด้ามาเจริญความสัมพันธ์กับประเทศไทย ซึ่งล่าสุดหมีแพนด้าหลินปิงได้เดินทางกลับไปหาคู่ และอีกไม่นานเชื่อว่าหลินปิงจะนำคู่กลับมายังประเทศไทยเพื่อสืบสานมิตรภาพให้แนบแน่นดุจดั่งแม่น้ำถั่วเจียงและแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยืนยาวไม่สิ้นสุด”

ต่อมาที่ประชุมรัฐสภามีมติเอกฉันท์ 477 เห็นชอบกับบันทึกความเข้าใจดังกล่าว

















กำลังโหลดความคิดเห็น