เชียงราย - 3 เดือนหลังเปิดใช้สะพานข้ามโขง 4 เชื่อมชายแดนเชียงราย-ถนนอาร์ 3 เอ ทำตัวเมือง “เชียงของ” ย่านเศรษฐกิจเดิมเหงา นักท่องเที่ยวประเทศที่ 3-ขบวนสินค้าข้ามแดนหันไปด่านใหม่
นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า หลังเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ระหว่าง ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มาได้เกือบ 3 เดือน พบว่าระเบียบวิธีข้ามแดนเปลี่ยนไปหลายเรื่อง โดยกรณีการขนส่งสินค้านั้น ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้ เพราะเดิมใช้การขนส่งสินค้าทางแพขนานยนต์ แต่ปัจจุบันใช้การขนส่งทางรถบรรทุกเป็นหลัก
แต่กรณีของการข้ามเข้า-ออกแดนของประชาชนและนักท่องเที่ยว พบว่าผู้ใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสได้ที่ด่านแห่งเดิมตรงท่าเรือบั๊กในเขต ต.เวียง แต่ผู้ที่ใช้หนังสือเดินทางหรือขอเป็นวีซ่าต้องไปใช้บริการผ่านแดนที่ด่านพรมแดนสะพานข้ามแม่น้ำโขงเท่านั้น
จึงทำให้บรรยากาศการเข้า-ออก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ใช้วีซ่า และนั่งเรือโดยสารข้ามไปมา ต้องหันไปยื่นวีซ่าที่ด่านพรมแดนใหม่แทน ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้เกิดกระแสจากนักธุรกิจท้องถิ่นที่เรียกร้องให้มีการอนุญาตให้ด่านแห่งเดิมสามารถใช้วีซ่าได้ เพื่อคืนความคึกคักในเขต ต.เวียง
ซึ่งตนจะได้นำไปหารือกับภาคเอกชนในพื้นที่ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนต่อไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นระบบย่อยหรือซอฟต์แวร์ หลังจากที่ได้มีการเชื่อมโยงจุดใหญ่ คือ สะพานระหว่างประเทศ จนถึงถนนอาร์สามเอ-จีนตอนใต้แล้ว คงต้องแก้ไขปรับปรุงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะลงตัว
นอกจากนี้จะนำเข้าหารือในการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือสำนักงานพาณิชย์ไทย-สปป.ลาว ครั้งที่ 6 วันที่ 25-26 มีนาคมนี้ ที่แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
สำหรับกรณีการขนส่งสินค้าผ่านสะพานนั้นกำลังอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลเนื่องจากเพิ่งผ่านมาได้เพียง 2-3 เดือน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามูลค่าการค้าและนักท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องตามแก้ไขปรับปรุงกันตามที่กล่าวข้างต้นอยู่อีกหลายเรื่อง เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ส่วนตัวที่จะข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว มีการคิดค่าธรรมเนียมสูงมาก และขับไปถึงด่านจีน-สปป.ลาว ระหว่างแขวงหลวงน้ำทากับเมืองโมฮาน ก็จะถูกเก็บค่าค้ำประกันคันละประมาณ 250,000 บาท ขณะที่รถจีนที่ขับผ่านสะพานมาไทยกลับมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ามาก เป็นต้น
สำหรับปี 2556 ที่ผ่านมา การค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรเชียงของ จ.เชียงราย มีมูลค่ารวม 14,063.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.64 แยกเป็นการส่งออก 10,877.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.70 นำเข้า 3,186.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.25 และเฉพาะที่มีการขนส่งสินค้าไปกับถนนอาร์สามเอเชื่อมไปจีนตอนใต้พบว่ามีมูลค่ารวมถึง 3,900.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.54 โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าพืชผัก เครื่องจักร รถยนต์ จากประเทศจีน