โฆษก ปชป.จวกรัฐเป็นแค่ รบ.ของเสื้อแดงพฤติกรรม 2 มาตรฐาน งัด กม.มั่นคงลิดรอนสิทธิ บี้ นายกฯรู้สึกอย่างไรมอง ปชช.เป็นผู้ก่อการร้าย ผลาญงบจัดการ ย้อนถอดถอน “คุณชาย” ช่วยม็อบ “ปู” อุ้มแดงโดนก่อน ชี้ “จุลสิงห์” ทิ้งทวนไม่ฟ้อง “แม้ว” ก่อการร้าย ชัดเจน กม.ใช้แต่ฝ่ายตรงข้าม ลั่นวันนี้ไร้นายกฯ ฉะ ทำชาติถังแตกเสียหาย เอาข้าวแลกโครงการรถไฟกับจีน ระบายข้าวเหลว บี้ แจงทำบาร์เตอร์เทรด ทำไมต้องกู้ ปลุก ปชช.ป้องผลประโยชน์ชาติ
วันนี้ (11 ต.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์ประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สร้างความไม่พอใจในหลายภาคส่วน จนถูกประนามว่าเป็นรัฐตำรวจ ใช้อำนาจเกินขอบเขตกับประชาชน ใช้อำนาจสองมาตรฐานชัดเจน ตนเชื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศอีกต่อไป แต่เป็นของคนเสื้อแดง ผู้สนับสนุน และผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ใช่รัฐบาลของคนไทยอีกต่อไป จากการดูแลประชาชนอย่างสองมาตรฐาน ในการจัดการการชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการแสดงออกโดยสงบ แต่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่าผู้ชุมนุมนับสิบเท่า ตั้งแท่นกีดขวางเสมือนการชุมนุมเป็นภัยต่อความมั่นคง มีการสกัดไม่ให้ส่งเสบียงอาหารให้ผู้ชุมนุมจนต้องมีการลำเลียงเสบียงผ่านคลองเปรมประชากรอย่างทุลักทุเล รัฐบาลไม่มีสิทธิปิดกั้นไม่ให้ประชาชนมีอาหารรับประทาน และมีคนชราท่านหนึ่งก้มลงกราบเท้าตำรวจขอให้เปิดทางให้มีการส่งอาหารเข้าที่ชุมนุม
“ฝากถามไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า คิดอย่างไร ที่ทำให้ประชาชนกลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่ต้องจัดการโดยใช้เงินภาษีประชาชนรังแกประชาชน อยากรู้ว่ารู้สึกอย่างไร การตั้ง ศอ.รส. ใช้งบอีกกี่พันล้านในการเกณฑ์ตำรวจเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำเหมือนมีผู้ก่อการร้ายอยู่ที่ทำเนียบ ทั้งๆ ที่เป็นคนแก่คนเฒ่า และภิกษุ ที่ชุมนุมโดยสงบ แต่รัฐบาลตั้งศูนย์ปราบปรามประชาชน ไม่มีการตั้งศูนย์ดูแลประชาชนที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม เอาตำรวจมาสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมได้กินอาหาร ปล่อยให้มีการตายรายวันที่ภาคใต้นายกฯไม่เคยตั้งศูนย์อะไรเพื่อดูแล ไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองสนใจแต่แก้ปัญหาตัวเอง แม้แต่ของแพงก็บอกประชาชนคิดไปเอง ไม่เคยมีการดูแลอย่างจริงจัง นายกฯทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ จึงเชื่อว่าคนไทยหลายสิบล้านคนเชื่อว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นของคนเสื้อแดงไม่ใช่รัฐบาลของราชอาณาจักรไทย การรังแกประชาชนจะฝังอยู่ในเบื้องลึกของจิตใจประชาชน 2 ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีสิทธิอ้่างเป็นรัฐบาลของคนไทยคือการใช้อำนาจรัฐบาลที่ผิด
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะยื่นถอดถอน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ออกจากตำแหน่ง ฐานช่วยเหลือผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนั้น นายชวนนท์ เห็นว่า เป็นการใช้อำนาจผิดทิศผิดทาง ถ้าประชาชนทำการชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่อำนวยความสะดวกตามความเหมาะสม ไม่ใช่การร่วมล้มรัฐบาลหรือทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะถ้าใช้หลักการเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรถูกถอดถอนก่อนเป็นคนแรก เพราะสนับสนุนคนเสื้อแดงไปคุกคามคนอื่น ขโมยถุงยังชีพของ กฟผ.ซึ่งล้วนแต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในคดีก่อการร้าย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาพร้อมกับผู้ต้องหาอีก 25 คน โดยดีเอสไอสั่งฟ้องทั้งหมด แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคดีไม่อยู่ในประเทศจึงแยกสำนวนออกมา จนกระทั่งมีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีก่อการร้ายเป็นผลงานทิ้งทวนของ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ ทิ้งทวนก่อนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ก็รับลูกโดยพูดเลยว่า ดีเอสไอไม่ทำความเห็นแย้งในเรื่องนี้ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดจากคดีก่อการร้ายทันที แสดงว่า กฎหมายใช้บังคับกับคนที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลเท่านั้น แต่ไม่บังคับใช้กับคนของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องบริษัทเอกชนที่สร้างโรงพักไม่เสร็จ แต่ดีเอสไอบอกว่าจะทำความเห็นแย้ง จึงคาดการณ์ได้ว่าตั้งใจที่จะทำให้เป็นคดีโยงมาถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์
“เราขอบอกว่าไม่มีใครกลัว ประชาชนเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าที่ต้องลุกขึ้นมาสู้กับรัฐบาลแล้ว เพราะรังแกประชาชน ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์พวกพ้องรังแกฝ่ายตรงข้าม ไม่สมควรเรียกตัวเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทย เราไม่มีนายกรัฐมนตรีในวันนี้เพราะนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกของคนเสื้อแดงและพรรคพวกเท่านั้น” นายชวนนท์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวว่าขณะนี้การบริหารราชการแผ่นดินไทยอยู่ในสภาวะถังแตก รัฐบาลผลาญเงินผ่านโครงการประชานิยมหลายรูปแบบ จำนำข้าว รถคันแรก บ้านหลังแรก พักหนี้ดี สุดท้ายกลับมาสร้างภาระการเงินการคลังให้ประเทศอย่างรุนแรง สะท้อนออกมาในแนวคิดของรัฐบาลหลายกรณีคือ 1.ไทย-จีน จะลงนามเอ็มโอยูสร้างรถไฟความเร็วสูง หรือรถไฟทางคู่ โดยวิธีบาร์เตอร์เทรดนำข้าวไปแลก ต้องถามว่าเหตุใดจึงต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แต่เป็นเพราะรัฐบาลต้องการกู้เงินมากอง ใช้เงินเป็นตัวตั้งงานเป็นตัวรอง ทำให้เกิดความสับสนว่าแผนสองล้านล้านมีแผนชัดเจนหรือไม่ ถ้าชัดแล้วจะสร้างอะไรกับประเทศจีน
นอกจากนี้รัฐบาลยังจนแต้มในเรื่องการระบายข้าว นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ บอกจะเอาข้าวไปแลกเปลี่ยน เพราะเหลือข้าวในสต๊อกไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท จึงหาช่องทางระบายข้าว และจะเปิดทางให้เกิดการทุจริตผ่านช่องทางการนำสินค้าไปแลกโครงการกับต่างประเทศ เป็นความล้มเหลวทำลายเศรษฐกิจ ทำลายระบบราชการ เพราะเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้อำนาจรัฐประหัตประหารพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศกำลังจะหยุดเรียกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าเป็นรัฐบาลของประเทศไทย และถึงเวลาที่ประชาชนต้องทบทวนถึงสิ่งที่สร้างความเสียหายกับประเทศ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาว่าจะยอมให้เขาทำลายประเทศ หรือจะลุกขึ้นมาปกป้องประโยชน์ของชาติ การชุมนุมของประชาชนโดยสงบปราศจากอาวุธสามารถทำได้ ถ้าเป็นพื้นที่ กทม.ทางพรรคก็ประสานให้มีไฟส่องสว่าง รถสุขา ตราบใดที่ชุมนุมภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ