xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.นิรโทษ ดีเดย์ล้างผิดเริ่มรัฐประหารลากยาวถึงก่อนเผาเมือง 53 ไม่รวมช่วงก่อตั้ง พธม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
กมธ.นิรโทษฯ เสียงข้างมากชนะทุกโหวตตามระเบียบ เดินหน้าวาระประชุม ไม่เปลี่ยนชื่อร่าง พ.ร.บ.ยึดกรอบเวลาปล่อยผีเริ่มรัฐประหาร - 10 พฤษภา 53 ก่อนเผาเมือง เน้นผู้แสดงออกทางการเมือง ไม่รวมคนมีอำนาจสั่ง


วันนี้ (11 ต.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ....ที่มี นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เมื่อเริ่มการประชุม นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอความเห็นที่ประชุมให้เข้าสู่วาระมาตราการประชุม เพื่อให้การถกเถียงอยู่ในกรอบของวาระ ทำให้กรรมาธิการเสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่ายังมีหลายอย่างที่ยังต้องการความชัดเจน

ขณะที่ประธานกรรมาธิการ เห็นว่ามีการประชุมร่วมกันหลายครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเห็นควรให้เข้าสู่วาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เสนอให้เปลี่ยนชื่อร่างดังกล่าว ขณะที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเห็นควรให้คงชื่อร่างเดิมไว้ แต่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยส่วนใหญ่ขอสงวนคำแปรญัตติ เพราะประสงค์จะเปลี่ยนชื่อร่างดังนั้น ที่ประชุมมีมติให้ผู้สงวนคำแปรญัตติใช้สิทธิ์ในการแปรญัตติ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ถึงกรอบเวลาที่จะใช้นิรโทษกรรมและบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษให้กับผู้กระทำความผิดในเหตุการณ์ทางการเมือง

โดยกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่เห็นว่า กรอบเวลาควรเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 - 10 พฤษภาคม 2553 ซึ่งผู้ที่เข้าข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรมจะต้องเป็นผู้ที่กระทำความผิดในการแสดงออกทางการเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้น แต่ไม่รวมถึงการกระทำใดๆ ของผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ หรือสั่งการให้มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ กรรมาธิการฝ่ายค้าน ยังเห็นตรงกันว่าไม่ควรเลือกช่วงเวลาการนิรโทษกรรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เนื่องจากมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ด้วย อีกทั้งเงื่อนไขที่จะได้รับการนิรโทษกรรมคลุมเครือและกว้างเกินไป เนื่องจากคดีแต่ละคดีมีความแตกต่างกัน หากยึดตามหลักของร่าง พ.ร.บ.นี้ ผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาจะได้รับประโยชน์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
กำลังโหลดความคิดเห็น