ส.ส.เสื้อแดงเพื่อไทย สวน “นิพิฏฐ์” ยันไม่ได้ยุชาวนาบุกประชาธิปัตย์ อ้างให้ไปถามทำไมต้องล้มจำนำข้าว จวกพานอนคุก โวยเผาเมืองคดีการเมือง ยกเทียบคดี “ครรชิต” ก่อนลากตัวให้ “ธาริต” ซักเอี่ยวใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินพฤษภา 53 ด้วยหรือไม่
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 13.30 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงตอบโต้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยยืนยันว่าการเรียกร้องให้ชาวนาเดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่ได้เป็นการยุยงให้เกิดการชุมนุมก่อความวุ่นวาย เพียงแต่ต้องการให้ชาวนาไปสอบถามว่าเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องการล้มโครงการรับจำนำข้าว และให้ชาวนาไปบอกกพรรคประชาธิปัตย์ว่าต้องการโครงการใดระหว่างรับจำนำข้าวและประกันราคาเท่านั้น ทั้งนี้ ขอย้ำว่าไม่ได้บอกให้ชาวนาเดินทางไปชุมนุม เพียงแต่ให้สอบถามเท่านั้น และเห็นว่าการเดินทางไปสอบถามไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายแต่อย่างใด เพราะการเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้ทบทวนมาตรการปรับลดราคาจำนำข้าวเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยดี
นายก่อแก้วกล่าวต่อว่า นายนิพิฏฐ์มีความพยายามจะนำตนเข้าคุกหลายครั้ง โดยอ้างว่าผิดเงื่อนไขศาลที่ให้ประกันตัวชั่วคราวในข้อหาก่อการร้าย ทั้งที่เป็นคดีการเมือง แต่อยากสอบถามนายนิพิฏฐ์ว่าเหตุใดคดีฆ่าคนตายของนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ นั้นทำไมนายนิพิฏฐ์จึงพยายามช่วยเหลือให้พ้นออกจากคุก ทั้งที่ความผิดและความร้ายแรงของคดีมีความแตกต่างกันมาก
นายก่อแก้วยังกล่าวด้วยว่า อยากสอบถามไปยังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าเมื่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 นายนิพิฏฐ์ดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ถือเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่มีมติให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเป็นส่วนสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งสลายการชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และโดนตั้งข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จึงอยากสอบถามอธิบดีดีเอสไอว่านายนิพิฏฐ์เป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการกระทำด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายก่อแก้ว จำเลยที่ 5 ตีราคาประกัน 6 แสนบาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามนายก่อแก้วกระทำการใดๆ ลักษณะดูหมิ่นผู้อื่น ยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายกระทบต่อเกียรติยศ ชื่อเสียง และความเป็นอยู่ของผู้อื่น หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้ถือเอาคำเบิกความของนายก่อแก้วในชั้นไต่สวน ที่ยินยอมสละสิทธิส่วนตัว “จะไม่ขึ้นเวทีปราศรัย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนพาดพิงทำให้บุคคล หรือองค์กรอื่นได้รับความเสียหาย” โดยให้นายก่อแก้วปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดด้วย