โฆษก ปชป.ตอก รัฐคืนเงินจำนำข้าว ธ.ก.ส.ไม่ตามที่โม้ ทุ่ม 7.6 แสนล.คืนไม่ถึง 5 แสนล.งง ธ.ก.ส.ยันงบเกลี้ยง นำ 2.7 แสนล.จากไหนลุยต่อ ครม.ไม่ระบุอนุมัติหน่วยใด ส่อขายฝันชาวนา เชื่อบี้ ธ.ก.ส.หาเงินหนุน ท้า พณ.แจงระบายข้าวแก้ต่างถังแตก ฉะ ไม่เลิกโกหกรถไฟความเร็วสูง หลอกคนหนองคายว่ามาถึง เย้ยไม่บอกว่าถึงลอนดอน ชี้ กปท.ชุมนุมสงบ ต่างจากแดง แต่รัฐกลับใช้ กม.มั่นคง ไล่ ตร.ดู 7 ตุลา เบาไปหนัก ลั่นพรรคเอาผิดพวกรังแก ปชช.
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่อาคารรัฐสภา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจากกรมการค้าต่างประเทศ ต.ค.54-ธ.ค.55 มีการระบายข้าวส่งเงินคืน ธ.ก.ส.เพียงแค่ 40,988 ล้านบาท และประมาณการปี 56 ทั้งปีว่าจะมีเงินคืนแค่ 87,384 บาท สะท้อนว่าตั้งแต่เพื่อไทยเป็นรัฐบาลเงินจากการระบายข้าวที่จะคืน ธ.ก.ส.อยู่ที่ 1.28 แสนล้านบาท ไม่ใช่หลายแสนล้านอย่างที่รัฐบาลโม้ แต่รัฐบาลได้ใช้เงินกับการจำนำข้าวไปแล้วถึง 7.6 แสนล้านบาท มีเงินที่ยังคืนไม่ได้ถึง 5 แสนล้านบาท จึงมีคำถามว่ารัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปจำนำข้าวต่อ เพราะ 2.7 แสนล้านที่เป็นเงินก้อนใหม่ที่อ้างว่าจะใช้จำนำข้าวนั้นมีการหารือภายในระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง โดย ธ.ก.ส.ยืนยันไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวที่จะรับจำนำข้าวรอบใหม่ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่ามติครม.อนุมัติ 2.7 แสนล้านบาทนั้น ไม่ระบุว่าหน่วยงานใดรับผิดชอบ จึงส่อเค้าว่าจะเป็นหมันและจ่ายเงินให้ชาวนาไม่ได้ ให้จับตาการประชุม กขช.เชื่อจะมีความพยายามกดดันให้ ธ.ก.ส.หาเงินไปรับจำนำให้ได้ ขอท้าไปยังรมว.พาณิชย์ให้เปิดเผยการระบายข้าวและสถานะของ ธ.ก.ส.ไม่เช่นนั้นก็แสดงว่ายอมรับภาวะถังแตกที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้นายชวนนท์ ยังนำแผ่นพับที่รัฐบาลนำไปแจกประชาชนที่หนองคายโดยระบุเส้นทางแนวรถไฟความเร็วสูงวิ่งตั้งแต่ กทม.ไปปาดังเบซาร์ ระยอง หนองคาย ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ จึงต้องถามว่ากล้าโกหกประชาชนได้อย่างไร ในเมืองบสองล้านล้านไม่มีการกำหนดงบประมาณสร้างรถไฟความเร็วสูงถึงหนองคายแต่จบที่โคราช น่าแปลกใจกล้าหลอกประชาชนถึงหนองคาย จึงเรียกร้องให้ชี้แจงว่าถ้าจะอ้างว่าจะสร้างถึงหนองคายเป็นระยะที่สอง ก็สามารถเขียนได้ว่าไปถึงลอนดอนเลย แต่ไม่รู้อีกกี่ร้อยปีที่จะสร้าง การกระทำเช่นนี้เป็นการบิดเบือนหลอกลวงประชาชน เงินสองล้านล้านไม่ได้จัดสรรถึงหนองคายแต่ยังกล้าหลอกลวงประชาชน ซึ่งตนจะติดตามต่อเนื่องต่อไป
นายชวนนท์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ยอมสลายตัวกลับไปยังที่สวนลุมพินีว่า ตนขอขอบคุณกลุ่ม กปท.ที่รักษาหน้าตาของประเทศ และขอให้รัฐบาลดูแลการชุมนุมของกลุ่มนี้อย่างเท่าเทียมกับกลุ่มมวลชนเสื้อแดง เพราะการชุมนุมของกลุ่ม กปท.เป็นการชุมนุมตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ และการชุมนุมของพี่น้อง กปท.ไม่เคยมีเหตุรุนแรง ไม่มีการใช้อาวุธ ไม่มีชายชุดดำ ใช้อาวุธสงคราม เผาห้างสรรพสินค้า ไม่มีใครบาดเจ็บเสียชีวิต จึงเห็นชัดว่าเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลต้องดูแล แต่รัฐบาลกลับประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาจัดการ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการประกาศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการใช้กฎหมายดังกล่าวต้องเป็นเหตุที่กระทบความมั่นคง จึงจะประกาศใช้ได้ แต่การชุมนุมโดยสงบของประชาชนกระทบความมั่นคงอย่างไร รัฐบาลต้องตอบไม่ใช่ใช้กฎหมายพิเศษกับประชาชนตามอำเภอใจ เพื่อลิดรอนสิทธิประชาชน เพราะการปฏิบัติสองมาตรฐานที่เกิดขึ้นประชาชนรับไม่ได้ คนเสื้อแดงคุกคามศาล พรรคประชาธิปัตย์ องค์กรอิสระ ไม่เคยมีความคุ้มครอง แต่กลุ่มที่เห็นต่างจากรัฐบาลชุมนุมปราศจากอาวุธ กลับใช้กฎหมายพิเศษไปควบคุม เป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
นายชวนนท์ แถลงอีกว่า การชุมนุมในครั้งนี้ตำรวจมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ตั้งแต่การใช้เจ้าหน้าที่นับหมื่นมาจัดการกับประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบโดยใช้ภาษีประชาชน และยังมีกระแสข่าวว่า มีการถอดเก้าอี้รถห้องขังเพื่อให้จับประชาชนได้มากที่สุด ดังนั้น จึงขอเตือนให้ตำรวจทุกนายกลับไปดูคำสั่งศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่มีการสลายการชุมนุมโดยไม่ปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก ทั้งที่ตำรวจอ้างว่าขัดขวางการชุมนุมของส.ส. แต่คราวนี้ไม่ได้ขัดขวางใครถ้าใช้อาวุธไม่ว่าจะเบาหรือหนักจะมีความผิดทางกฎหมาย และขอให้ประชาชนบันทึกภาพหากถูกตำรวจทำร้ายเอาไว้เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจ พร้อมกับขอให้ตำรวจชั้นผู้น้อยอย่าทำเกินกว่าเหตุอย่าทำร้ายประชาชน เพราะพรรคจะเอาผิดคนที่รังแกประชาชนอย่างแน่นอน