เลขาฯ สมช.อ้างรู้ล่วงหน้าโจรใต้เตรียมบึ้มป่วนเมืองช่วงวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็น แต่พื้นที่กว้างสกัดยาก เชื่อเป็นแค่แสดงสัญลักษณ์ แสดงศักยภาพ เล็งนำไปถามในการประชุมร่วมกับแกนนำบีอาร์เอ็น
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ที่มีการวางระเบิดก่อกวนหลายพื้นที่ในหลายสิบจุดขณะนี้ว่า เป็นการตอบโต้ เนื่องจากในวันสองวันนี้จะเข้าสู่วันสถาปนาของหลายกลุ่ม โดยวันที่ 10 ต.ค.เป็นวันสถาปนาของกลุ่มบีอาร์เอ็น วันที่ 11 ต.ค.ของขบวนการพลูโล และ วันที่ 13 ต.ค.เป็นของกลุ่มเบอร์ซาตู ทำให้ฝ่ายเห็นต่างเหล่านี้แสดงศักยภาพออกมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในพื้นที่เศรษฐกิจ หรือตู้เอทีเอ็ม แต่ไม่ได้มีความรุนแรงแก่ตัวบุคคล และสิ่งที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นระเบิดที่ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่จะเป็นประทัดยักษ์ และเป็นสิ่งที่เขาปฏิบัติเป็นวงรอบทุกปี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อรู้ว่าจะมีการก่อกวนลักษณะนี้เกิดขึ้นทำไมจึงไม่เตรียมรับมือให้ดีกว่านี้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เรารู้ แต่เนื่องจากพื้นที่กว้างขวางมาก สิ่งที่พวกก่อกวนปฏิบัติก็ไม่กระทบต่อตัวบุคคลแต่อย่างใด ส่วนสถานที่เกิดเหตุนั้น ขณะนี้สถานการณ์ยังพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยมีการก่อกวนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงสงขลา แต่ละจังหวัดประมาณ 10 จุด แต่ใน จ.สงขลา จะน้อยกว่าจังหวัดอื่น เมื่อถามว่า แนวโน้มสถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ในสองถึงสามวันนี้เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ เพื่อทำให้เห็นว่าองค์กรเหล่านี้ยังคงมีอยู่ และแน่นอนว่ากลุ่มที่เห็นต่างเรื่องการพูดคุยก็จะอาศัยวันเหล่านี้แสดงศักยภาพออกมาด้วย ขณะนี้ฝ่ายข่าวก็พยายามติดตามอยู่ ทั้งนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะนำไปเป็นประเด็นพูดคุยในการเจรจาครั้งต่อไปด้วย
ส่วนการที่ผู้ก่อความไม่สงบวางระเบิดบริเวณตู้เอทีเอ็มหน้าจวนผู้ว่าฯ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาจะทำอะไรก็ได้ใช่หรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เป็นการเน้นแค่เชิงสัญลักษณ์ แต่เท่าที่ดูอุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่พึงประสงค์ที่จะใช้ความรุนแรง หรือไปสู่การทำร้ายกัน ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเล็ก แต่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติการ ซึ่งยอมรับว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มจรยุทธ์ที่สามารถนัดการปฏิบัติการเป็นเวลา และสามารถทำได้พร้อมกันในเวลาใกล้เคียงในหลายพื้นที่ เพื่อให้เห็นว่าเหมือนกับมีคนเยอะ เมื่อถามว่า ทำไมเรายังจับทางกลุ่มดังกล่าวไม่ได้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เราจับทางถูกแต่เป้าหมายในการปฏิบัติกว้างขวางมาก
ขณะที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วเป็นการทำงานเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มแนวร่วม ทำให้เห็นว่ามีความสามารถในการสร้างสถานการณ์ได้