xs
xsm
sm
md
lg

กห.เผยรื้อโครงสร้าง ศปก.กปต.หวังดับไฟใต้เอกภาพ-ยัน “ม็อบสวนยาง” ไม่กระทบความมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลาโหมแถลงข่าวประจำวันศุกร์ เผย “ประชา” ปรับโครงสร้าง ศปก.กปต.ใหม่ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้านยุทธศาสตร์และปฏิบัติการ “นิวัฒน์ธำรง” รับผิดชอบข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ “ยุทธศักดิ์” ดูงานความมั่นคง-ภัยแทรกซ้อน ยันม็อบสวนยางเกิดจากความเดือดร้อนของเกษตรกร ไม่กระทบความมั่นคง ทอ. ยันพร้อมสนับสนุนอากาศยาน อพยพคนไทยในซีเรีย

วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ห้องสุรศักดิ์มนตรี กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์และสารนิเทศ สำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการปฏิบัติภารกิจตามแนวทางของศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) โดย พ.อ.จรูญ อำภา ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 226/2556 วันที่ 27 ส.ค. 2556 เรื่องการปรับปรุงโครงสร้าง ศปก.กปต.เพื่อให้การปฏิบัติงานของ ศปก.กปต.ทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการในพื้นที่ดำเนินการได้อย่างเป็นเอกภาพ มีประสิทธิภาพ สามารถบูรณาการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้ดียิ่งขึ้น โดย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศปก.กปต., รอง ผบ.ทบ., เลขาธิการ ศอ.บต., เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, เป็นรอง ผอ.ศปก.กปต.และเลขาธิการ สมช.เป็นเลขานุการ ศปก.กปต.

นอกจากนี้ มีคำสั่งที่ 228/2556 ลงวันที่ 27 ส.ค. 2556 แต่งตั้งผู้บริหารใน ศปก.กปต.โดยให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ เป็นหัวหน้ารับผิดชอบส่วนงานปฏิบัติการข่าวสาร ดูงานด้านงานข่าวและประชาสัมพันธ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นหัวหน้ารับผิดชอบส่วนงานพัฒนา ดูแลกลุ่มงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาสา ศาสนาวัฒนธรรม สาธารณสุข และสนับสนุนการสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม เป็นหัวหน้ารับผิดชอบส่วนงานความมั่นคง ดูแลงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและภัยแทรกซ้อน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ เป็นหัวหน้ารับผิดชอบส่วนงานยุติธรรมดูงานด้านอำนวยความยุติธรรม และด้านสิทธิมนุษยธรรม สร้างความเข้าใจ

พ.อ.จรูญกล่าวว่า ส่วนผู้บริหารงานในกลุ่มงานของ ศปก.กปต.ประกอบด้วย ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นหัวหน้าการข่าว, ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้างานประชาสัมพันธ์, รมว.มหาดไทยเป็นหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาชีวิตและโครงสร้างพื้นฐาน, รมว.ศึกษาธิการ เป็นหัวหน้ากลุ่มงานการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้ากลุ่มงานสาธารณสุข, เลขาธิการ สมช.เป็นหัวหน้ากลุ่มสนับสนุนการสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง, ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้ากลุ่มงานรักษาความปลอดภัยและทรัพย์สิน ภัยแทรกซ้อน, รมว.ยุติธรรม เป็นหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยความยุติธรรม, รมว.ต่างประเทศ เป็นหัวหน้ากลุ่มงานสิทธิมนุษยชน และสร้างความเข้าใจ

พ.อ.จรูญยังกล่าวถึงการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า เบื้องต้นเลขาฯ สมช.จะไปพุดคุยนอกรอบกับผู้อำนวยความสะดวก ส่วนข้อตกลงต่างๆ ยังยืนยันต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามข้อตกลงเดิมที่ได้ลงบันทึกไว้ในครั้งแรก หากมีการพุดคุยเกินนอกกรอบจากนี้เชื่อว่าปัญหาอื่นจะตามมา อย่างไรก็ตาม ทาง สมช.เตรียมที่จะนำกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบนำธงดัดแปลงคล้ายธงชาติมาเลเซีย เตรียมจะนำไปติดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปพูดคุยกับผู้อำนวยความสะดวกด้วย

ด้าน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่าจากสถานการณ์ช่วงที่ผ่านมาที่ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือการก่อเหตุใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นความสงบที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะในวันที่ 31 ส.ค.ซึ่งตรงกับวันชาติมาเลเซีย อาจจะมีการนำธงดัดแปลงดังกล่าวไปติดในพื้นที่ต่างๆ พร้อมก่อเหตุเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้กำชับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ทางมาเลเซียอาจไม่สบายใจต่อเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันเป็นการกระทำของคนในพื้นที่ของเรา เพราะทางมาเลเซียไม่เคยแสดงท่าทีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาทางมาเลเซียก็เห็นใจอยากให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้อยู่อย่างสงบสุข

ส่วนการชุมนุมของม็อบสวนยางที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พ.อ.บรรพตกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งการชุมนุนมเกิดจากความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างแท้จริง รับบาลได้พยายามแก้ปัญหาหลายวิธี คาดว่ามีแนวโน้มแก้ปัญหาได้เรียบร้อยจนได้รับความพึงพอใจ อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ของเกษตรกร ทั้งนี้สถานการณ์การชุมนุนมไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงเพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการจราจร

น.อ.ประภาส สอนใจดี รองผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคนไทยในซีเรียว่ากองทัพอากาศมีแผนอพยพประชาชนคนไทยอยู่แล้ว แต่เบื้องต้นเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพอากาศเป็นเพียงกลไกในการสนับสนุนซึ่งเรายืนยันว่ามีความพร้อม แต่การนำเครื่องบินทหารต้องมีขั้นตอน เส้นทางการบิน การบินผ่านน่าฟ้าประเทศต่างๆ ต้องมีขั้นตอน การอพยพคนไม่ใช่เฉพาะในประเทศอียิปต์ หรือซีเรีย กองทัพอากาศสามารถทำได้ทั่วโลกหากรัฐบาลสั่งการมา ทอ.ก็พร้อมที่จะเดินทางไปช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง


กำลังโหลดความคิดเห็น