“พร้อมพงศ์” ยันอีเวนต์ “สร้างอนาคตไทย 2020” ให้ความรู้ ปชช.รบ.กู้ 2 ล้านล้าน อ้างครั้งแรกตอบรับดี เทียบ โครงการ ปชป.ร้องเพลงชาติ 76 จว.ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ยันงบอีเวนต์น้อยกว่ายุค ปชป.ท้า “ชวน” ยื่นหลักฐานฟันหลังแฉมีเงินกินเปล่า ปัดรัฐเลือกปฏิบัติงบท้องถิ่น ไม่อายปากอ้างบินฮ่องกงขอตำแหน่งแค่จินตนาการ อัด หน.ปชป.โยนลูกพรรคร้องศาลพ.ร.บ.งบฯ 57 ชี้ กก.พรรคต้องรู้ เล็งถอดถอนผู้ร้อง ฉะ “คำนูณ” ขวางโลกชงศาลค้านกู้ 2 ล้านล้าน
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โจมตีรัฐบาล เรื่องการจัดนิทรรศการ “สร้างอนาคตไทย 2020” ว่าเป็นเพียงอีเวนต์จัดแสดงโชว์ พูดความจริงเพียงครึ่งเดียว และประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ว่า ไม่เป็นความจริง รัฐบาลนำความรู้ไปให้กับประชาชน และการจัดนิทรรศการดังกล่าว เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งการจัดนิทรรศการดังกล่าว ครั้งแรกที่ จ.หนองคาย ประชาชนก็ให้ความสนใจจำนวนมาก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเข้ามาชมทำให้ทราบรายละเอียดของโครงการ 2 ล้านล้าน พรรคเพื่อไทย เป็นนักคิดนักปฏิบัติ ไม่ถนัดพูด สิ่งนี้เมื่อเทียบกับโครงการสมัยรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่คิดโครงการไทยสามัคคี ร้องเพลงชาติ 76 จังหวัด ที่เกณฑ์ประชาชนมาเข้าร่วม ต้องใช้งบไทยเข้มแข็งจำนวนถึง 60 ล้านบาท ถือเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เปรียบเทียบกันก็เป็นฟ้ากับเหว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าส่วนที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวบนเวทีผ่าความจริงว่า การจัดอีเวนต์ของรัฐบาล มีเงินกินเปล่าถึงร้อยละ 25 และเป็นช่องทางการทุจริต นั้นขอบอกว่า ชุดนี้จัดอีเวนต์น้อยกว่ารัฐบาลสมัยที่แล้ว และหากมีการกินเปล่าจริงก็ขอท้าให้ นายชวน นำหลักฐานไปยื่นต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร องค์กรอิสระ หรือไปแจ้งความกับตำรวจ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการพูดเพื่อหวังผลทางการเมือง ขณะนี้ตนในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ตรวจสอบการจัดอีเวนต์ อาชีวะปี 54 ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ที่ใช้งบจำนวน 500 ล้านบาท และจัดซื้อโดยวิธีพิเศษกระจายไปยังอาชีวะทั่วประเทศ รวมถึงยังพบว่ามีการทำทีโออาร์ในวันเดียวกัน โดยระหว่างนี้ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว เชื่อว่ามีเงินกินเปล่าเกินกว่าร้อยละ 25 ส่วนกรณีที่นายชวน ออกมาระบุว่า รัฐบาลนำงบจากคนสงขลา และ ภูเก็ตไปให้คนเชียงใหม่นั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง รัฐบาลมีการกระจ่ายงบไปยังทุกท้องถิ่น ไม่มีการเลือกปฏิบัติ อย่าง จ.ภูเก็ต ก็มีการขยายสนามบิน และ อุโมงค์ลอดสี่แยกต่างๆ
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ ที่ไม่เป็นธรรม และมีการวิ่งเต้นที่ฮ่องกงนั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เป็นการจินตนาการของพรรคประชาธิปัตย์ และโดยปกติก็มีการโยกย้ายข้าราชการตามปีงบประมาณอยู่แล้ว หากข้าราชคนไหนพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องต่อศาลปกครองได้
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปัดความรับผิดชอบหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบ ปี 57 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ด้วยเสียงเอกฉันท์ว่าเป็นการกระทำของสมาชิกพรรคนั้น นายอภิสิทธิ์กำลังโบ้ยความผิดให้ลูกน้อง ทั้งที่การยื่นเรื่องต่างๆ กรรมการบริหารพรรคต้องทราบ จึงแสดงถึงความไม่รับผิดชอบของนายอภิสิทธิ์ และขาดวุฒิภาวะผู้นำ ถือเป็นโฆษะบุรุษ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนจะได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และกลุ่ม 40 ส.ว. ซึ่งมองว่าเป็นการที่ไม่ชอบ หวังผลทางการเมือง ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต รวมถึงจะรวบรวมหลักฐานการให้สัมภาษณ์ต่างๆเพื่อเสนอต่อพรรคให้พิจารณาว่าจะดำเนินการยื่นถอดถอนหรือไม่ และถ้าพรรคเห็นด้วยก็จะเริ่มรวบรวมรายชื่อในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้เพื่อต้องการให้มีมาตรการ ให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีความยับยั้งชั่งใจในการดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ส่วนการที่กลุ่ม 40 ส.ว.เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ตนมองว่าการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่อยากให้ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้เตรียมเสนอยื่น ได้คิดถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติในอนาคต เพราะโครงการดังกล่าวเป็นการวางรากฐานให้กับลูกหลาน ทั้งนี้ตนอยากให้นายคำนูณ ทบทวนและมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการขวางโลก และเมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.เรียบร้อย ก็อยากให้นายคำนูณลองลงเลือกตั้งฟังเสียงประชาชนบ้าง