“วราเทพ” ขอบคุณศาล รธน.วินิจฉัยรวดเร็ว พ.ร.บ.งบฯ 57 ไม่ขัด รธน. พร้อมถกกฤษฎีกาและเลขาฯ ครม. หากไร้ปัญหานำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป ชี้ผลออกมาทำเอกชน นักธุรกิจ มั่นใจงบฯ ขับเคลื่อนประเทศ “สุรนันทน์” ขอบคุณเช่นกัน ชี้ตัดสินเร็วทำกระบวนการพัฒนาชาติไม่สะดุด “เด็จพี่” ไม่น้อยหน้าเสนอหน้าชมศาล แขวะฝ่ายค้าน-40 ส.ว.เล่นเกมการเมือง ทำล่าช้ากระทบ ปชช. ฉะอย่านำประโยชน์ชาติมาเล่น เย้ยค้านมีเหตุผลบ้าง หวังผลวินิจฉัยทำตาสว่าง
วันนี้ (4 ต.ค.) ทำเนียบฯ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ที่สมาชิกวุฒิสภายื่นร้องต่อศาลก่อนหน้านี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ว่า ต้องขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยออกมาในทางที่สามารถทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณเดินหน้าต่อไปได้ว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และขอบคุณที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความกระจ่างได้อย่างรวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อการใช้งบประมาณของประเทศ
นายวราเทพกล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินการต่อไปในส่วนของรัฐบาล คือ ในทางปฏิบัติศาลก็คงจะส่งคำวินิจฉัยกลับไปที่ประธานรัฐสภาในฐานะเป็นผู้ส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ จากนั้นประธานรัฐสภาก็จะส่งไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องและรัฐบาล ซึ่งในส่วนของรัฐบาลเองก็จะมีการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญโดยการนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศเป็นกฎหมายต่อไป
“คงจะมีการหารือกับทางกฤษฎีกา และเลขาฯ ครม.ว่าถ้ามีคำวินิจฉัยออกมาเช่นนี้แล้ว เราจำเป็นต้องรอการแจ้งจากทางประธานรัฐสภาหรือไม่ ถ้าจำเป็นต้องรอเราก็รอ เพราะคงใช้เวลาไม่นานและไม่น่ามีผลกระทบอะไร แต่ถ้าไม่จำเป็นเราก็สามารถนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ให้นายกฯลงนามเพื่อกราบบังคมทูลได้เลยก็ได้ หากเห็นว่าไม่มีเหตุที่ต้องยับยั้งแล้ว ซึ่งหากรัฐบาลสามารถนำขึ้นกราบบังคมทูลได้เร็วก็จะทำให้สามารถมีงบประมาณ 2557 มีผลบังคับใช้ได้เร็วขึ้น” นายวราเทพกล่าว และว่าเมื่อผลออกมาเช่นนี้แล้วก็คงจะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นกับคนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาคเอกชน นักธุรกิจที่อยากเห็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ออกมาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ส่วนนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคำร้องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ไม่ขัดหรือแย้งหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคแปด และวรรคเก้า ส่วนของรัฐบาลยึดมั่นมาโดยตลอดว่ากระบวนการในการดำเนินการต่างๆ ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2502 การจัดทำงบประมาณทุกอย่างมีเงื่อนไข และข้อจำกัดในลักษณะที่ทุกคนทราบดี ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ องค์กรอิสระ ก็ทำเช่นนี้มานานแล้ว องค์กรอิสระไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้นที่จะมี แต่มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 40 ฉะนั้น กระบวนการงบประมาณทั้งในส่วนรัฐบาล กรรมาธิการงบประมาณ มีกระบวนการที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ส่วนผู้ที่มีความรู้สึกอาจถูกตัดลดงบประมาณก็มีโอกาสในการแปรญัตติ และชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
“เราดีใจในแง่ที่ว่างบประมาณเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนในตลาดโลก รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเช่นนี้เราก็สามารถต่อในโครงการต่างๆ ได้ โดยเฉพาะงบฯลงทุนในหลายๆ เรื่อง รวมถึงงบสวัสดิการ การให้บริการประชาชนจะไม่สะดุด” นายสุรนันทน์กล่าว
นายสุรนันทน์กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลจะแตกต่างจากสหรัฐอเมริกา เพราะกฎหมายเรามีความคล่องตัวสูงกว่า เมื่อมีกระบวนการร้องเรียนหรือมีกระบวนการที่ทำให้งบประมาณต้องล่าช้าก็มีบทบัญญัติให้ใช้งบประมาณไปพลางก่อน ฉะนั้นตรงนี้ทำให้การขับเคลื่อนต่างๆ หมายถึงองค์กรของรัฐไม่ต้องหยุดทำงาน ไม่เหมือนกับสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกัน การลงทุนต่างๆ อาจล่าช้าบ้าง แต่เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้กระบวนการไม่สะดุดไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งจะปรึกษากับนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าจะสามารถนำเรื่องนี้ขึ้นทูลเกล้าฯได้เมื่อใด
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเดียวกัน ว่า ตนขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่พิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรวดเร็ว เพราะถือเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ แต่ขอติงไปยังฝ่ายค้านและกลุ่ม 40 ส.ว.ที่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ทุกคนเห็นถึงความจำเป็นที่ทุกกระทรวงต้องนำงบประมาณไปใช้เพื่อพัฒนาประเทศ แต่พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ก็ยังเอาเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมือง เรื่องนี้ยิ่งล่าช้าก็ยิ่งส่งผลกระทบกับประชาชนและการพัฒนาประเทศ ดังนั้น อยากให้พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ทบทวนพฤติกรรมตัวเองด้วย อย่าเอาประโยชน์ของประเทศชาติมาเล่นเกมการเมืองเพียงเพื่อหวังให้กระทบกับรัฐบาล ทำหน้าที่ฝ่ายค้านแบบสะเปะสะปะ ไม่สร้างสรรค์ไปวันๆ เอะอะอะไรก็นำเรื่องไปร้องกับองค์กรอิสระเสียหมด ต้องค้านอย่างมีเหตุผลบ้าง ทั้งนี้ สำหรับคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมานั้น ตนเชื่อว่าคนไทยคงโล่งใจ เพราะหากร่าง พ.ร.บ.งบฯ 57 สะดุดไปก็อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศได้ อย่างไรก็ตาม มติเอกฉันท์ครั้งนี้ ตนหวังว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว.ตาสว่างขึ้นมาได้บ้างว่า ไม่ควรค้านสะเปะสะปะไปเรื่อยโดยไม่มองถึงประโยชน์ของบ้านเมือง