เครือข่ายคนเสื้อแดงยื่นหนังสือให้ “วัฒนา” โฆษก ปธ.สภาฯ สอบจริยธรรม ส.ส.ปชป.และกลุ่ม 40 ส.ว.ยื่นศาล รธน.วินิจฉัย “ปู” ทูลเกล้าฯ แก้รัฐธรรมนูญ สวนกระแสลิเบอรัลเตรียมชง “ธาริต” เอาผิดมาตรา 112 อ้างละเมิดพระราชอำนาจ มั่วนิ่มนิติบัญญัติใหญ่ว่าศาล ไม่ต้องยอมรับอำนาจ อีกด้าน กวป.ยุติกดดันศาลรัฐธรรมนูญช่วงวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบฯ 57 หลังผู้ใหญ่เพื่อไทยร้องขอมา
วันนี้ (3 ต.ค.) นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกส่วนตัวประธานรัฐสภา ได้รับหนังสือให้ตรวจสอบจริยธรรมของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว. โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าสภายุติธรรม และ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป. ที่เคยไปชุมนุมกดดันศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
โดยนายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ตัวแทนที่มายื่นหนังสือยอมรับว่าตัวเองเป็นกลุ่มเดียวกับ กวป.ที่เคยไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ แต่อ้างว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในเรื่องมวลชน แต่แยกกันทำหน้าที่ในส่วนการดำเนินคดีกับตุลาการ ส.ส.และ ส.ว.จึงมายื่นเรื่องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ตรวจสอบจริยธรรมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีชะลอการนำร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาและคุณสมบัติ ส.ว. เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ และเข้าข่ายละเมิดพระราชอำนาจ ซึ่งจะได้ไปยื่นเรื่องต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย เพราะถือว่ามีการล่วงละเมิดพระราชอำนาจในกรณีที่ให้นายกระงับการทูลเกล้าร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
นายหนึ่งดินกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะไปยื่นฟ้องนายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่อนุญาติให้บุตรชายของนายบุญส่งไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยยังได้รับเงินเดือนซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดิน และเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีอำนาจเฉพาะแค่การตีความร่าง พ.ร.บ.ทั่วไปเท่านั้น ส่วนร่าง พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติที่ศาลรัฐธรรมนูญจะก้าวล่วงมิได้ เพราะฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจเหนือฝ่ายตุลาการในเรื่องการพิจารณากฎหมาย ส่วนตุลาการต้องทำตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น ซึ่งตามมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล เมื่อสภาเป็นตัวแทนของประชาชนย่อมมีอำนาจเหนือกว่าตุลาการที่ไม่ได้ยึดโยงประชาชน อีกทั้งยังมีการปฏิบัติหน้าที่เกินเลยขอบเขตของกฎหมายด้วย ซึ่งตนได้ฟ้องร้องไปแล้วหลายคดี
เมื่อถามว่า หลักถ่วงดุลตามระบอบประชาธิปไตย คือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ จะคานอำนาจซึ่งกันและกัน ถ้านิติบัญญัติ อยู่เหนือตุลาการ ใครจะเป็นผู้วินิจฉัยเนื้อหากฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ นายหนึ่งดินกล่าวว่า กฎหมายเป็นเรื่องของสภาที่จะวินิจฉัยกันเองได้ ถึงสภาจะทำผิดกฎหมายก็เป็นเรื่องของสภาที่จะจัดการกันเองไม่เกี่ยวกับตุลาการ และความจริงไม่จำเป็นต้องมีศาลรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ
อีกด้านหนึ่งที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่นำโดยนายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป. ซึ่งได้มายึดพื้นที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกลุ่มคนเสื้อแดงและรถขยายเสียง ก็ได้เก็บอุปกรณ์ย้ายเวทีปราศรัยออกไปจากบริเวณชั้น 2 ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัยจนถึงวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส.และ ส.ว.รวม 112 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2557 มาตรา 27 ในส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานศาลปกครอง มาตรา 28 ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช. ขัดหรือแย้ง หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 168 วรรคแปด วรรคเก้า หรือไม่
นายมาลัยรักษ์เปิดเผยว่า วันนี้กลุ่ม กวป.จะยุติการชุมนุมหน้าขับไล่นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ลาออก ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญเป็นการชั่วคราว เนื่องจากได้รับการประสานมาจากผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยให้ยุติการกดดันศาลรัฐธรรมนูญระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยคดีงบประมาณ 2557 ซึ่งอาจทำให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม ในบ่ายวันนี้ (3 ต.ค.) กวป.จะเคลื่อนย้ายมวลชนไปชุมนุมขับไล่นายบุญส่ง ที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายบุญส่งแทน เนื่องจาก กวป.ไม่ได้มีความขัดแย้งกับศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เห็นการพฤติกรรมของนายบุญส่งนั้นไม่เหมาะสมกับตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีกต่อไปเท่านั้น และเมื่อศาลรัฐธรรมวินิจฉัยคดีงบประมาณ 2557 เสร็จสิ้นแล้ว ในช่วงเย็นวันที่ 4 ต.ค. กวป.จะกลับมาชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
