เกาะกระแส
00 ได้เห็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อสามสี่วันก่อนหลังจากเกษียณอายุราชการในตำแหน่งสุดท้ายคือ ปลัดกระทรวงคมนาคม กำลังยื่นใบสมัครขอคัดสรรเป็น กกต.ชุดใหม่ ก็ได้แต่ปลงสังเวชตัวเอง ประเทศชาติ รวมไปถึงได้เห็นธาตุแท้ของอดีตข้าราชการคนนี้ได้อย่างหมดจดอีกครั้ง แน่นอนว่าเขามีสิทธิ์ มีคุณสมบัติทางกม.ที่ยื่นสมัครได้ แต่คำถามก็คือสำหรับ กกต.ที่เป็นองค์อิสระ มีความสำคัญต่อการคัดเลือก คัดกรองนักการเมืองดีๆเข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ก็ต้องมีความเป็นกลาง มีความกล้าหาญ และต้องซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเอง และต่อหน้าที่อย่างเคร่งครัด ถามว่าคนอย่างคุณ และที่สำคัญ "นิสัยอย่างคุณวิเชียร"นี่มันมีคุณสมบัติที่ว่าแล้วแค่ไหน คุณพูดไปเรื่อยเปื่อยว่า "เป็นกลาง" แล้วที่ผ่านมาเป็นกลางจริงหรือเปล่า มีความกล้าหาญจริงหรือเปล่า ซึ่งอย่างหลังนี่แหละสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะการเป็นกลางไม่ใช่ว่า "อยู่เฉยๆ"จะลู่ลมไปทางไหนก็ได้ และสำหรับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร และทางที่ดีที่สุดน่าจะไปอยู่บ้านเงียบๆหายหัวไปเลยเสียจะดีกว่า
00 อีกคนที่แสดงความ "ทุเรศ"ชนิดที่เรียกว่าเป็นคำอธิบายพฤติกรรมของ"ตำรวจส่วนใหญ่"ออกมาได้อย่างเห็นภาพก็คือ ผบ.ชน.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่ "มีวันนี้เพราะแม้วให้" ซึ่งภาพที่ปรากฏออกมาแสดงหลักฐานในโลกโซเชียลมีเดียล่าสุด ในความหมายไม่ใช่น่าแปลกใจ เพียงแต่ว่าเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความ"ทุเรศส่วนตัว"สะท้อนความด้อยพัฒนา ไร้วุฒิภาวะของข้าราชการตำรวจที่มียศระดับนายพลออกมามากกว่า และที่สำคัญนี่คือความล้มเหลวของระบบ "ยุติธรรมในระดับต้นทาง"อย่างป่นปี้ เพราะตำรวจกับ "โจร"มันจะแนบชิดยกย่องเปิดเผยท้าทายแบบนี้ไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่พ่อ-แม่ของตัวเองถ้าทำผิด มีหมายจับติดตัว ถึงจะกตัญญูเทิดทูนกันแค่ไหนก็ต้องหลบๆซ่อนไม่ออกหน้าออกตาแบบนี้ ท่าทีและหลักฐานที่เห็นมันทำให้สังคมที่มีหลักการ มีความยุติธรรมในหัวใจเขาจะยิ่งเสื่อมศรัทธา และเหยียดหยามอาชีพตำรวจที่แทบไม่มีศักดิ์ศรีอยู่ยิ่งตกต่ำลงไปอีก อ้อ จากภาพที่เห็นไม่ต้องไปไล่ถาม พ่อ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอเรียกตัวไปสอบสวนให้เสียเวลานะ จะรบกวนทั่นเปล่าๆ ทุด !!
00 ไหนๆก็พูดถึงตำรวจกันไปแล้วก็ขอแถม "เจ้าจูดี้" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อีกสักคนก็แล้วกัน นาทีนี้ถือว่า "น่าสะอิดสะเอียน"ไม่ได้ต่างกัน เพราะในช่วงที่ผ่านมาก็ได้แสดงธาตุแท้ว่าเป็นตำรวจอีกคนหนึ่งที่ต้องถูกมองว่าเป็น"ตำรวจที่รับใช้เฉพาะครอบครัวทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น" แน่นอนหากจะชี้หน้าว่าเขาจะรับใช้ ดูแลเฉพาะคนในครอบครัวนี้ หรืออย่างมากก็อาจจะเกื้อกูลเล็กๆน้อยๆกับคนเสื้อแดงในระดับหัวโจก รวมไปถึงมวลชนคนเสื้อแดงเพื่อหวังผลทางการเมืองภายหน้า เพราะพฤติกรรมเอาเปรียบ และไร้มารยาททั้งในตำแหน่งหน้าที่ และการแสดงออกทางการเมืองมันช่างน่ารังเกียจจริงๆ แต่พูดไปก็แค่นั้นเพราะเส้นทางของคนพวกนี้มันมาแบบไหนก็รู้กันอยู่เพียงแต่ว่าที่เห็นในตอนนี้มันเห็นชัด ไม่ต้องปกปิดเขินอาย ก็เท่านั้นเอง
00 นาทีนี้ยังไม่ชี้ชัดออกมาว่าในที่สุดแล้ว นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินหน้านำร่างแก้ไขรธน.ในประเด็นที่มาของ สว.ที่ผ่านการลงมติเห็นชอบจากรัฐสภานำขึ้นทูลเกล้าฯตามที่บรรดากุนซือข้างกายดันหลังเอาไว้ตามกำหนดวันที่ 1 ตค.หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นไปตามนั้นรับรองว่า "สนุกสุดขีด"แน่นอน เพราะนั่นเท่ากับว่า "จงใจหาเรื่อง" และคนที่สั่งให้"หาเรื่อง-ลองของ"ก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก "พี่ชายตัวดี" ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เอาเป็นว่ารอลุ้นกันไม่ต่างจาก "วันหวยออก"ก็แล้วกัน !!
00 เวลานี้ทุกสายตาในวงการเมืองกำลังจ้องมองมาเป็นจุดเดียว ว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ เลือกเส้นทางไหน เพราะมีทั้งสกัดทางกฎหมาย การส่งเสียงเตือน ขู่ดังๆ ทำกันทุกทาง ถ้าเธอยังกล้าดึงดันนำร่างกม.ที่มีมลทินขึ้นทูลเกล้าฯมันก็ต้องเสี่ยงต่อความรับผิดชอบภายหน้าเอาเองก็แล้วกัน และจะเป็นคนแรกที่จงใจ "แหกธรรมเนียมประเพณี" ก็อาจเป็นนายกฯคนแรกในประวัติศาสตร์ก็ได้ที่เจอ !!