วิชาญ พร้อมด้วย ส.ว.เลือกตั้ง ประสานเสียงค้านรายงาน กสม.สอบสลายม็อบแดง อ้างมวลชนพันธมิตรฯ ตายคนละเรื่องกับการชุมนุม เหน็บ นปช.ถูกปืนยิงหัวแต่ไม่มีอยู่ในรายงาน ด้าน 40 ส.ว. บอกคงทำให้ถูกใจในสภาทุกคนไม่ได้ “หมอนิรันดร์” รับบกพร่อง ท้ายสุดไม่ได้ลงมติเพราะองค์ประชุมล่ม
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และรายงานการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย รวม 3 ฉบับ ตั้งแต่ปี 2551-2553 ซึ่งมี ส.ว.หลายคนรุมตำหนิการรวบรวมข้อมูลของ กสม.ไม่ครบด้าน เลือกที่จะนำเสนอข้อมูลของบางฝ่าย โดยไม่ให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่าย อาทิ นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เมื่อนำรายงานสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2551 ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับรายงานสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 2552-2553 ของกลุ่ม นปช.เห็นถึงความแตกต่างกันชัดเจน โดยเมื่อปี 2551 กสม.บอกให้รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ชุมนุม ทั้งที่การเสียชีวิตดังกล่าวมันคนละสถานการณ์กับการชุมนุม ไม่เชื่อมโยงกัน
นายวิชาญ กล่าวว่า แต่การชุมนุมปี 2552-2553 ของกลุ่ม นปช.ท่านกลับระบุว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นตัวก่อความรุนแรง โดยไม่ได้นำข้อมูลการออกคำสั่งใช้กำลังทหาร ใช้รถถัง เฮลิคอปเตอร์โปรยแก๊สน้ำตา ประกาศเขตพื้นที่ใช้กระสุนจริง และยังมีการลอบยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่ศรีสะเกษ แต่ในรายงานบอกเพียงถูกยิง ซึ่งข้อเท็จจริงตรงนี้มันต่างกัน และตนเป็นคนที่อยู่ในทีมเจรจาของวุฒิสภา 1 ใน 5 ส.ว.ไปที่สี่แยกราชประสงค์ เพื่อเจรจากับผู้ชุมนุม แล้วกลับมารายงานต่อรัฐสภา แต่รัฐบาลกลับไม่ฟัง เช้าวันรุ่งขึ้นสั่งให้มีการเคลื่อนรถถัง วันนี้ศาลสั่งไป 26 คดี ว่าการเสียชีวิตเกิดจากเจ้าหน้าที่ จึงคิดว่ารายงาน กสม.ต้องกลับไปปรับปรุงใหม่ อย่างการยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน กสม.ระบุเหมือนมันเป็นสิ่งปกติ กสม.น่าจะเป็นหน่วยงานที่ทำให้สังคมกลับมาสันติสุขได้ แต่หากท่านใช้แว่นคนละอันมองคนสองกลุ่ม เท่ากับว่าท่านกำลังจะสร้างความแตกแยกเสียเอง จึงไม่เห็นด้วยกับรายงานทั้ง 3 ฉบับ
นายเจริญ ภักดีวานิช ส.ว.พัทลุง กล่าวว่า กสม.เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องคลี่คลายปัญหาของประเทศ การทำรายงานต้องมีข้อมูลอย่างครบถ้วน เพราะรายงานฉบับนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ ความจริงคือจริง ความจริงที่ว่าคนถูกปืนยิงหัว แต่ไม่มีอยู่ในรายงาน เจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนในเหตุการณ์ เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สิทธิ มี กสม. กสม.ก็ต้องให้สิทธิคุ้มครองประชาชน ตนรับไม่ได้กับรายงานฉบับนี้ อยากให้ กสม.กลับไปทบทวนรายงานอีกครั้ง เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การสั่งสลายการชุมนุมเมื่อพฤษภาคม 2553 ที่มีคนตายกว่า 100 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,000 ราย ถือว่าเป็นกรรมหนัก แต่ กสม.กลับเขียนรายงานเป็นกรรมเบา แม้ต้องลากตัวกลุ่มชายชุดดำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ไม่ใช่การทำร้ายผู้บริสุทธิ์อื่นด้วย แต่ในรายงานฉบับนี้กลับไม่พูดถึงส่วนนี้ ไม่ว่า กสม.จะเป็นใคร ก็ต้องถือว่ากรรมเป็นเครื่องบ่งชี้เจตนา เป็นห่วง กสม.อยากเห็นอยู่ต่อไป แต่ถ้า กสม.บางท่านยังมีท่าทีทางการเมืองมากเกินไป ไม่พูดข้อมูลจากข้อเท็จจริง หรือไม่ช่วยหยุดความขัดแย้งแล้ว จะนำไปสู่การไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมแบบนี้ แม้กสม.ปัจจุบันจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งหน้าอาจต้องมีการยึดโยงกับประชาชนเสียที อยากให้ กสม.กลับไปทบทวนรายงาน
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว.อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายวันชัย สอนศิริ นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา แสดงความเห็นโดยให้กำลังใจประธาน กสม.และ กสม.ทุกคน โดยนายสมชายกล่าวว่า รายงานคงทำให้ถูกใจ ส.ส.และ ส.ว.ในสภาแห่งนี้ทุกคนไม่ได้ แต่ได้ใจประชาชนและสังคมโดยรวม ตนเห็นว่ารายงานดังกล่าวสมบูรณ์แล้ว เพราะเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เห็นชัดเจนว่ามีกลุ่มติดอาวุธอยู่ในที่ชุมนุม มีการวางระเบิดซีโฟร์เพื่อสกัดกั้นทหารไม่ให้เข้าพื้นที่ จึงไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ
ด้าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กสม.ยอมรับข้อบกพร่องในรายงานบางส่วนที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตามหลังจากใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ทางกลุ่ม 40 ส.ว.พยายามขอให้ที่ประชุมรับทราบรายงาน แต่นายวิชาญ แย้งว่า ในเมื่อ กสม.ยอมรับว่ารายงานมีความผิดพลาดในข้อเท็จจริงบางส่วน ก็ควรให้กลับไปปรับปรุงแล้วนำเสนอมาใหม่ จึงเกิดการโต้เถียงกับกลุ่ม 40 ส.ว.อยู่พักใหญ่ ก่อนที่นายวิชาญจะเสนอนับองค์ประชุม ปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ครบ นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ รองประธานวุฒิสภา ประธานการประชุมจึงสั่งปิดประชุม ทำให้วาระดังกล่าวค้างการพิจารณาอยู่
อ่านประกอบ : กสม.ชี้ชัด นปช.ชุมนุมเกินขอบเขต รธน.ใช้เด็ก-สตรีโล่มนุษย์ “อภิสิทธิ์” บกพร่องดูแลประชาชน
