ศาลปกครองสูงสุดสั่งพิจารณาคดี กทม.ขึ้นค่าเช่าตลาดจตุจักรต่อ ชี้ผู้ค้าจ่ายเงินไปแล้ว

ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเฮ ศาล ปค.สูงสุดสั่งศาล ปค.กลางพิจารณาต่อคดี กทม.ขึ้นสัญญาค่าเช่าที่ดินตลาดนัดจตุจักรต่อ ชี้แม้สัญญาสิ้นสุด-กทม.ไม่ได้บริหารตลาด แต่ผู้ค้าเสียหายไปแล้ว เหตุแห่งการฟ้องคดียังอยู่ต้องพิจารณาต่อ

วันนี้ (26 ก.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยกคำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งจำหน่ายคดีที่ นายสงวน ดำรงค์ไทย ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร กับพวกรวม 37 คน ยื่นฟ้องผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (ตลาดนัดจตุจักร) และพวกรวม 4 ราย ขอให้เพิกถอนประกาศกองอำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ฉบับวันที่ 25 มิ.ย. 2553 และประกาศกองอำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ฉบับวันที่ 1 ก.ค. 2553 ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้สถานที่ในตลาดนัดจตุจักร (ค่าเช่าที่ดิน) เพิ่มเติมจากเดิม 120 บาทต่อเดือน เป็น 8,100 บาทต่อเดือน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ส่งสำนวนคดีนี้ไปยังศาลปกครองกลางพิจารณามีคำพิพากษา

เนื่องจากเห็นว่า ที่ศาลปกครองกลางสั่งจำหน่ายคดี เพราะเห็นว่าระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี ปรากฏว่าสัญญาเช่าที่ดินตลาดนัดจตุจักรระหว่างกรุงเทพมหานคร กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 55 และกรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรอีกต่อไป จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องมีคำพิพากษาหรือคำบังคับให้เพิกถอนประกาศทั้ง 2 ฉบับ และไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะพิจารณาพิพากษาคดีนี้ต่อไปนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายสงวน และพวกทั้ง 37 คน ได้ชำระเงินตามประกาศดังกล่าวไปแล้วจำนวน 8,100 บาท ถือได้ว่าเหตุแห่งการฟ้องคดียังไม่หมดสิ้นไป หากศาลปกครองวินิจฉัยว่าประกาศคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบ ก็มีอำนาจที่จะกำหนดคำบังคับสั่งเพิกถอนประกาศได้ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ออกคำสั่ง ซึ่งถ้าเพิกถอนก็จะถือว่าไม่เคยมีคำสั่งดังกล่าวให้นายสงวนและพวกต้องปฏิบัติอยู่เลย ดังนั้นที่ศาลปกครองกลาง เห็นว่าสัญญาเช่าสิ้นสุดไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาคำขอของนายสงวน ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย จึงมีคำสั่งดังกล่าว